สารสกัดยอดนิยมในอาหารเสริมผู้หญิง

สารสกัดยอดนิยมในอาหารเสริมผู้หญิง

ในร่างกายของเรานั้นไม่เหมือนกัน จึงจะต้องมีการดูแลและบำรุงที่แตกต่างกันออกไป ด้วยเหตุผลเหล่านี้ถึงจะทำให้มีแบรนด์อาหารเสริมหลากหลายประเภทออกมาจำหน่ายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ที่ไม่สามารถทานอาหารครบ 5 หมู่ หรือได้รับสารอาหารที่ช่วยบำรุงเรื่องต่าง ๆ เพียงพอ การทานอาหารเสริมจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ผู้บริโภคหลายคนสนใจโดยเฉพาะผู้หญิง

โรงงานรับผลิตอาหารเสริม

ต้องยอมรับกันเลยว่าผู้หญิงนั้นมีแนวโน้มในการซื้ออาหารเสริมมาบริโภคมากกว่าผู้ชาย เพราะผู้หญิงมักจะให้ความสนใจ ใส่ใจในการดูแลและบำรุงร่างกายมากกว่าผู้ชาย ที่สำคัญในร่างกายผู้หญิงมีส่วนที่ต้องดูแลหรือบำรุงมากกว่าผู้ชาย จึงส่งผลให้มีเจ้าของแบรนด์ผลิตอาหารเสริมเกี่ยวกับผู้หญิงมากกว่าอาหารเสริมสำหรับผู้ชาย

โดยอาหารเสริมแต่ตัวก็ใช่ว่าจะมีส่วนประกอบหรือสารสกัดเหมือนกันหมด มันจะมีสารสกัดบางอย่างที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ไม่ว่าด้วยการสร้างความแตกต่างของแบรนด์ หรือแม้แต่คุณภาพหรือผลลัพธ์ของผลิตภัณฑ์ ทำให้ผู้บริโภคนั้นมีทางเลือกในการเลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมากขึ้น

โดยวันนี้ทาง Kovic ได้รวบรวมเอาสารสกัดยอดนิยมในอาหารเสริมผู้หญิงมาฝากกัน เพื่อเป็นทางเลือกในการผลิตอาหารเสริมสำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ หรือแม้แต่ผู้บริโภคที่กำลังมองหาอาหารเสริมผู้หญิงสักตัวมาบริโภค

สารสกัดยอดนิยมในอาหารเสริมผู้หญิง

  • สารสกัดเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract)
  • สารสกัดใบแปะก๊วย (Ginkgo Biloba Extract)
  • สารสกัดจากใบบัวบก (Centella Asiatica Extract)
  • สารสกัดจากถั่วขาว (White Kidney Bean Extract)
  • สารสกัดจากงาดำ (Sesamin Extract)

สารสกัดเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract)

ตั้งแต่อดีตคนโบราณไม่เพียงใช้องุ่นเพื่อการบริโภคหรือการดื่มเท่านั้น แต่ยังมีการนำองุ่นไปทำเป็นยาอีกด้วย หลายส่วนของต้นองุ่นได้ถูกนำไปใช้สำหรับทำเป็นยาสมุนไพร จนกระทั่ง ค.ศ.1970 นักชีวเคมีชาวฝรั่งเศสได้นำเอาเมล็ดองุ่นไปทำการสกัดและในที่สุดก็ได้พบสารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากชื่อว่า Oligomeric Proanthocyanidin Complexes หรือ OPCs

Oligomeric Proanthocyanidin Complexes หรือ OPCs เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เข้มข้นกว่าวิตามินซี 20 เท่า ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูบำรุงผิว ปรับสภาพให้ขาวกระจ่างใสขึ้น จุดเด่นของสารสกัดเมล็ดองุ่นอยู่ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันอย่าง “คอลลาจน” ในชั้นผิว และปกป้องเส้นใยคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวดูเด็กลง คำแนะนำคือ ควรทานสารสกัดเมล็ดองุ่นคู่กับวิตามินซี เพราะจะช่วยกระตุ้นให้วิตามินซี ออกฤทธิ์ได้ดีและแทรกซึมเข้าในทุกเซลล์ของร่างกาย

สารสกัดใบแปะก๊วย (Ginkgo Biloba Extract)

ใบแปะก๊วยเป็นสมุนไพรจีนเก่าแก่ ขึ้นชื่อเรื่องของการบำรุงร่างกาย โดยอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี ไม่จะเป็นสารไบโอฟลาโวนอยด์ (Bioflavonoids) ที่ช่วยป้องกันมะเร็ง ชะลอเรื่องตาเสื่อมและลดอาการจอประสาทต่อเสื่อมในผู้สูงอายุ สารไบโลบาไลด์ (Bilobalides) และกิงโกไลด์ (Ginkgolides) ที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดในร่างกาย ทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้ดี ป้องกันอัลไซเมอร์และช่วยเสริมสร้างความจำได้ ที่สำคัญสารสกัดจากใบแปะก๊วยยังช่วยลดอาการของโรคซึมเศร้าได้ด้วย เพราะทานแล้วจะทำให้อารมณ์ดีขึ้น

สารสกัดจากใบบัวบก (Centella Asiatica Extract)

ด้วยสรรพคุณอันเลอค่าที่ใคร ๆ ต่างก็บอกว่า สารสกัดใบบัวบกนั้น เป็นตัวช่วยเพิ่มพลังงานสมองได้อย่างดีเยี่ยม เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระคุณภาพสูงมากกว่า 40 ชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สารไบโอฟลาโวนอยด์ (Bioflavonoids) ซึ่งจะช่วยป้องกันและชะลอความเสื่อมของเซลล์สมอง เหมาะสำหรับคนที่กำลังหาตัวช่วยชีวิตบำรุงร่างกาย เวลาทำงานหนัก แทนวิตามินบีรวม อีกทั้ง สารสกัดใบบัวบก ยังช่วยลดความวิตกกังวลและความเครียดจากการทำงานได้

สารสกัดจากถั่วขาว (White Kidney Bean Extract)

เป็นสารสกัดยอดนิยมสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก คุมน้ำหนัก หรืออยากหุ่นสวย ซึ่งในถั่วขาวอุดมไปด้วยสารฟลาซิโอลามีน (Phaseolamin) ที่ช่วยยับยั้งเอนไซม์อะไมเลส จะย่อยแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต ไม่ให้ดูดซึมเข้าไปในร่างกาย ลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคเบาหวานได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องได้อีกด้วย ความพิเศษของสารสกัดถั่วขาวอยู่ที่ แม้จะลดแป้งและไขมันได้ดีมาก แต่ไม่ได้ทำให้กล้ามเนื้อที่ออกกำลังกายดูลีบลง

สารสกัดงาดำ (Sesamin Extract)

งาดำ เป็นอีกหนึ่งสารสกัดธรรมชาติที่อุดมไปด้วยโภชนาการที่มีคุณค่ามากมายไม่ว่าจะเป็น วิตามินบี 6 ธาตุเหล็ก ไอโอดีน สังกะสี ทองแดง วิตามินอี และยังมีสาระสำคัญอย่าง เซซามิน (Sesamin) และสารเซซาโมลิน (Sesamolin) ที่มีฤทธิ์ในการดีท็อกซ์สารพิษจากร่างกาย โดยสารสกัดจากงาดำ มีฤทธิ์ในการเพิ่มอัตราการกำจัดสารพิษ ต้านแบคทีเรีย ช่วยลดความดันโลหิต ลดคอเลสเตอรอลและยับยั้งการสร้างคอเลสเตอรอลในตับ ช่วยป้องกันโรคหัวใจได้เป็นต้น

การจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสักตัวเพื่อบำรุงร่างกายนั้น ไม่เพียงเลือกสารสกัดหรือผลลัพธ์ที่ต้องการเท่านั้น จะต้องดูส่วนอื่น ๆ ประกอบการตัดสินใจด้วย เช่น เป้นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้รับการรับรองจากอย. หรือไม่ ส่วนประกอบหรือสารสกัดอื่น ๆ ที่ผสมลงไปมีอะไรบ้าง เราแพ้สารสกัดเหล่านั้นหรือไม่ โรงงานที่ทำการผลิตมีมาตรฐานหรือไม่ เพื่อให้การบริโภคอาหารเสริมนั้นปลอดภัยและได้ประสิทธิภาพมากที่สุด

สรุป

อาหารเสริม เป็นเพียงตัวช่วยในการบำรุงร่างกายในเรื่องที่ต้องการเท่านั้น ไม่สามารถทานเป็นมื้อหลักได้ ดังนั้นในมื้อหลักควรทานอาหารให้ 5 หมู่ หากเพิ่มสารอาหารที่ต้องการช่วยบำรุงได้ยิ่งดี แต่ถ้าหากทานแล้วยังได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ หรือไม่อาหารทานอาหารที่มีสารอาหารเหล่านั้นได้ จึงควรหันมาทานอาหารเสริมเพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอในการบำรุงร่างกาย

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน ในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตครีม รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มา : www.beautycosmet.com

biopharm.co.th

สารสกัดอาหารเสริม ชะงักวัยทอง

สารสกัดอาหารเสริม ชะงักวัยทอง

พอผู้หญิงเริ่มอายุเข้าเลข 4 หลายคนก็คงกังวไม่น้อยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ซึ่งจะมีผลทางร่างกาย และจิตใจ ภาวะที่เกิดขึ้นนี้เกิดขึ้นจากการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนในรังไข่ลดลง สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนฮอร์โมนเพศหญิงผลิตน้อยลงของสาวใหญ่ทั้งหลายก็คือภาวะทางอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ขี้หงุดหงิด รวมถึงระบบการทำงานของร่างกายมีประสิทธิภาพไม่ดีเหมือนตอนสมัยสาว  ๆ ซึ่งอาการดังกล่าวเป็นผลจากภาวะ “วัยทอง” เมื่อเกิดขึ้นแล้ว การดูแลตัวเองก็ต้องละเอียดรอบคอบมากยิ่งขึ้น

โรงงานรับผลิตอาหารเสริม

เนื่องจากผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ระบบการทำงานของร่างกายจะไม่แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน จึงจะต้องหาวิธีเสริม ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีวิตามินและอาหารเสริมมากมายที่สามารถช่วยภาวะวัยทองได้ โดยวันนี้ทาง Kovic ก็ได้รวบรวมเอาสารสกัดอาหารเสริมและวิตามินเสริมที่ช่วยอาการต่าง ๆ ที่เป็นผลจากภาวะวันทองมาฝากกัน

สารสกัดอาหารเสริมหรือวิตามิน ชะงักวัยทอง

  • Soy isoflavone
  • Black Cohosh
  • Vitamin D
  • Calcium
  • Red yeast rice
  • Anti-oxidant

Soy isoflavone สารสกัดในกลุ่ม flavonoids

สารสกัดที่สกัดออกมาจากถั่วเหลือง โดยพบว่า soy isoflavone เมื่อร่างกายรับเข้าไป แล้วก็จะถูกเปลี่ยนเป็นสารสารสกัดจากพืชที่ออกฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งจะช่วยลดอาการร้อนวูบวาบตามตัว หงุดหงิดง่าย ป้องกันไม่ให้ ผิวพรรณเหี่ยวหย่น หรือแห้งเกินไป

นอกจากนี้งานวิจัยล่าสุดส่วนใหญ่บ่งชี้ไปทางเดียวกันว่า สามารถช่วยลดปัญหาการเกิดโรคกระดูกบาง, กระดูกพรุนได้ หากรับประ ทานอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญตัว Soy isoflavone ไม่ได้มีผลในการเพิ่มระดับฮอร์โมนเพศหญิงจึงคลาย ความกังวล ได้ว่าจะไม่มีผลอันตรายต่อการเกิดปัญหามะเร็งเต้านม และมะเร็งมดลูกได้ แม้ว่าจะใช้เป็นเวลานาน

Black Cohosh

เป็นสมุนไพรที่นำส่วนของรากมาใช้สกัดเป็นสารออกฤทธิ์ ปัจจุบันเป็นที่ใช้อย่างแพร่หลายในด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย ซึ่งช่วยในเรื่องการลดอาการปวดศีรษะบ่อย ๆ ใจสั่น นอนไม่หลับ ร้อนวูบวาบ เหงื่อออก และอารมณ์แปรปรวน

ซึ่งสมุนไพรตัวนี้ก็พบว่ามีการนำมาใช้ในผู้ป่วยสูติ-นรีเวชด้วย เนื่องจากอาการดังกล่าวสร้าง ความรำคาญหงุดหงิดให้กับคุณผู้หญิงไม่น้อย การหันมาใช้ Black Cohosh ก็อาจจะเป็นอีกทางเลือกที่น่าจะพิจารณามากกว่าการแก้ปัญหาด้วยการทานยานอนหลับ

Vitamin D

ถ้าพูดถึงวิตามินดี คงนึกถึงสรรพคุณในการป้องกันโรคกระดูกบางหรือพรุนที่พบได้ บ่อยในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน และคิดว่าวิตามินดีไม่จำเป็นต้องไปเสริม เพราะการโดนแดดจะทำให้ร่างกายเรา ได้รับวิตามินดีเพียงพอ แต่จริง ๆ แล้วในปัจจุบันเราพบว่าคนไทยขาดวิตามินดีเป็นจำนวนมาก

เนื่องจากคนไทย กลัวแดด กลัวผิวคล้ำ มีรอยด่างดำ และเสี่ยงต่อโรคมะเร็งผิวหนังมากด้วย ซึ่งในงานวิจัยปัจจุบันเราพบว่าผู้ที่มีระดับ วิตามินดีในเลือดสูงมากกว่า 50 ug/dl ขึ้นไปจะลดความเสี่ยงของโรคร้ายแรงได้มากถึง 4 อย่าง คือ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคกระดูก และโรคแพ้ภูมิตนเอง

นอกจากนี้มีงานวิจัยที่แสดงถึงความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้ของผู้ที่มี สุขภาพดีและอายุยืนคู่กับการมีระดับวิตามินดีในเลือดสูงอย่างเพียงพอ ทั้งนี้ต้องตรวจดูระดับวิตามินดี และกินวิตามินดีทดแทน เพราะการตรวจดูระดับวิตามินดีจากเลือดจะช่วยในการพิจารณาถึงปริมาณของวิตามินดีที่จะกินเสริม ซึ่งในผู้ป่วยแต่ละคนอาจจะต้องการใช้มากน้อยไม่เท่ากัน

Calcium

แร่ธาตุที่คนทั่วไปรู้จักดี โดยอยู่ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ นม ที่อุดมด้วย แคลเซียม แต่ถ้าเรามีปัญหาน้ำหนักตัวเกิน ไขมันใน เลือดสูง ก็ควรเลือกอาหารประเภทงา งาดำ ถั่วต่าง ๆ จะได้แคลเซียมเช่นเดียวกัน ซึ่งปัญหาของการได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอก็คือเรื่องการดูดซึม คนทั่วไปคิดว่ากินแคลเซียมเสริมเป็นเม็ด ๆ หรือเม็ดฟู่บ้างก็จะได้แคลเซียมที่เพียงพอ แต่จริง ๆ แล้วการกินแคลเซียม เข้าไปร่างกายอาจดูดซึมได้ไม่ถึง 20% เพราะฉะนั้น เราจะได้ประโยชน์จากการกินแคลเซียมเสริม ต้องรู้ก่อน ว่าร่างกายเราจะดูดซึมแคลเซียมได้ดีหรือไม่

Red yeast rice

สมุนไพรตัวนี้ที่จีนใช้กันมานาน โดยเอามาทาเคลือบผิวเป็ดปักกิ่ง อีกทั้งยังมีสรรพคุณ เรื่องการลดระดับไขมันคอเลสเตอรอล ทั้งชนิดรวมและชนิดไม่ดี ซึ่งมีการศึกษาวิจัยจากทั้งที่จีนและอิตาลี โดยนำเอามาใช้ลดระดับไขมันในเลือดของผู้ป่วยที่เริ่มมีปัญหาไขมันคอเลสเตอรอลระดับรุนแรงน้อยถึงปานกลางได้ดี สตรีที่เข้าวัยทองส่วนมากอาจจะต้องเริ่มพึ่งเจ้าสมุนไพรตัวนี้ เพราะการที่ฮอร์โมนเพศหญิงลดลงจะส่งผลในแง่ระบบการเผาผลาญมีปัญหา ไขมันคอเลสเตอรอลในเลือดก็จะสูงขึ้นได้

Anti-oxidant

วิตามินในกลุ่มนี้ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี สารกลุ่มแคโรทีน ไลโคพีน โคเอมไซม์คิวเท็น สารสกัดเมล็ดองุ่น สารสกัดเปลือกสนฝรั่งเศส แอสต้าแซนทิน และ เรสเวอลาทอร์ เป็นสารกลุ่มต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยมากในการป้องกันการเกิดโรค ทั้งโรคหลอดเลือดอุดตันหัวใจและสมอง ลดการสร้างสารเบต้าอไมลอยด์ในสมอง ที่เป็นต้นเหตุของโรคความจำเสื่อม ลดการทำลายของคลอลาเจนที่ผิวพรรณ เสริมภูมิต้านทาน ลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็ง

เราเข้าข่าย “วัยทอง” แล้วหรือยัง

สตรีวัยทอง หรือสตรีวัยหมดประจำเดือน (Menopause) คือวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ เกิดจากการขาดฮอร์โมนเพศจากรังไข่ ส่งผลให้ไม่มีประจำเดือนติดต่อกัน 1 ปี โดยพบได้ในช่วงอายุ 40 – 60 ปี หรือในสตรีที่ได้รับการผ่าตัดรังไข่ออกทั้งสองข้าง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายคล้าย ๆ คนหมดประจำเดือน

อาการของคนวัยทอง

หลังหมดประจำเดือน บางคนอาจไม่มีอาการ แต่ส่วนใหญ่มีอาการเกิดขึ้นในช่วงใกล้หมดระดู อาการวัยทองได้แก่

อาการทางกาย

  • เหนื่อยออกง่าย ร้อนวูบวาบ หงุดหงิด ขี้ร้อน ปวดเมื่อยตามตัว นอนไม่หลับ อาการเหล่านี้เกิดจากขาดฮอร์โมนเพศที่ทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย เมื่อฮอร์โมนน้อยลง ทำให้การควบคุมอุณหภูมิไม่ดี  ระบบหลอดเลือดจะปรับอุณหภูมิ ทำให้ร้อนวูบวาบเกิดขึ้นเป็นพัก ๆ และมักจะเป็นตอนกลางคืนทำให้นอนหลับพักไม่เต็มที่
  • ผิวหนังแห้งเหี่ยวและคัน การขาดฮอร์โมนเพศทำให้เนื้อเยื่อของผิวหนังขาดความยืดหยุ่นและชุ่มชื้นการใช้ฮอร์โมนเพศจะช่วยให้ผิวหนังยืดหยุ่นขึ้น ลดอาการได้แต่ไม่สามารถป้องกันไม่ให้แก้ได้

อาการทางด้านจิตใจ อารมณ์

บางรายอาจมีอารมณ์และจิตใจที่ไม่มั่นคงมากกว่าผู้อื่น บางคนลืมง่าย หงุดหงิด ไม่มีสมาธิ กลัวและซึมเศร้า ปัญหาเหล่านี้ส่วนหนึ่งเกิดจากสมองมีการเปลี่ยนแปลงในทางเสื่อมคือฝ่อลง ส่วนหนึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ส่งผลต่อสภาพจิตใจ ส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่เข้าใจ และขาดการเอาใจใส่ดูแลจากลูกหลาน หือบบุคคลใกล้ชิด

อาการทางด้านระบบทางเดินปัสสาวะและช่องคลอด

การขาดฮอร์โมนเพศ ทำให้เนื้อเยื่อช่องคลอดขาดความยืดหยุ่นและชุ่มชื้น ทำให้มีอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ได้ เนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อที่อยู่รอบ ๆ ช่องคลอดและกระเพาะปัสสาวะมีการฝ่อลีบและหน่อยตัวลงทำให้มีปัญหาเรื่องการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะบ่อยและมีอาการแสบที่ช่องทางออกของท่อปัสสาวะ ในรายที่เนื้อเยื่อหย่อนมากจะมีผนังช่องคลอด และมดลูกเคลื่อนลงต่ำออกมานอกปากช่องคลอด ดังที่รู้จักกันว่า “กระบังลมหย่อน”

 อาการทางระบบทางเดินอาหารและขับถ่าย

สตรีในวัยทองมักจะไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวช้าลง ประกอบกับการที่ฟันไม่ค่อยดี ทำให้ไม่ค่อยได้ทานอาหารที่มีกาก ส่งผลให้มีอาการท้องอืดและท้องผูก

โรคหัวใจ

การขาดฮอร์โมนเพศหญิง เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจขาดเลือด ทั้งนี้เนื่องจากสัดส่วนของไขมันในเลือดเปลี่ยนไป ทำให้ไขมันไปเกาะที่ผนังหลอดเลือด ฯลฯ ทำให้หลอดเลือดหัวใจอุดตัน โอกาสเสี่ยงนี้จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีอายุมากขึ้น

โรคกระดูกบาง (กระดูกผุ หรือกระดูกพรุน)

สตรีวัยทองบางรายภายหลังหมดระดูไปแล้ว 10 – 20 ปี กระดูกอาจบางมากจนทำให้กระดูกหักได้ง่าย แม้ได้รับอุบัติเหตุเพียงเบา ๆ หรือเพียงแค่ยกของหนัก ตำแหน่งที่กระดูกหักได้บ่อยในวัยนี้คือ กระดูกสันหลัง กระดูกสะโพก และกระดูกข้อมือ การหักที่กระดูกสันหลังมักเป็นการยุบตัวเอง ส่งผลให้ตัวเตี้ยลง หลังโก่ง

สรุป

วัยทอง เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนจะต้องเจอเมื่ออายุเข้าเลข 4 แต่อาการหรือผลที่เกิดขึ้นนั้นอาจแตกต่างกันไปตามบุคคล ซึ่งเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยทองควรหมั่นดูแลตัวเองอยู่ตลอด ทานอาหารที่มีส่วนช่วยให้อาการเหล่านี้ดีขึ้น หรือร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ การทานอาหารเสริมและวิตามินเสริมก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน ในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตครีม รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มา : www.vejthani.com

www.siphhospital.com

โรงงานอาหารเสริม

รู้จักโพรไบโอติก สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่จำเป็นกับสุขภาพ

รู้จักโพรไบโอติก สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่จำเป็นกับสุขภาพ

ในร่างกายของคนเรานั้นมีเชื้อจุลินทรีย์ ซึ่งจุลินทรียเหล่านั้นมีประโยชน์กับร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะจะเข้าไปช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยหนึ่งในจุลินทรีย์ที่มีการพูดถึงมากที่สุดก็คือ โพรไบโอติก (Probiotic) โดยวันนี้ทาง Kovic จะไปรู้จักกับโพรไบโอติก สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่จำเป็นกับสุขภาพ

โรงงานอาหารเสริม

โพรไบโอติก คืออะไร

โพรไบโอติก (Probiotic) เป็นจุลินทรีย์ขนาดเล็กซึ่งจัดเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ชนิดดี สามารถพบได้ในอาหาร เช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ต กิมจิ มิโสะ เป็นต้น ผู้เชี่ยวชาญด้านทางเดินอาหารให้คำจำกัดความว่า โพรไบโอติกคือ จุลินทรีย์ที่มีชีวิต เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้สุขภาพดีในภาวะต่าง ๆ โดยเป็นจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติทนต่อกรดและด่าง สามารถจับที่บริเวณผิวของเนื้อเยื่อบุลำไส้แล้วผลิตสารต่อต้านหรือกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ชนิดอื่น ๆ รวมถึงก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพได้”

โพรไบโอติกและพรีไบโอติกต่างกันอย่างไร

มีผู้บริโภคหลายคนสับสนกับ 2 คำนี้ และเกิดความสงสัยว่ามันก็คืออย่างเดียวกันหรือคนละอย่าง อย่างที่กล่าวข้างต้นว่า โพรไบโอติก (Probiotic) นั้นเป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยในการย่อยพรีไบโอติกเพื่อกระตุ้นการทำงานของแบคทีเรียชนิดนี้ในลำไส้ และช่วยให้แบคทีเรียที่ดีในลำไส้เจริญเติบโต

ส่วน พรีไบโอติก (Prebiotic) คืออาหารชนิดหนึ่ง เป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิต ซึ่งร่างกายไม่สามารถย่อยและดูดซึมได้ที่ลำไส้เล็ก อาหารเหล่านี้จึงสามารถเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ได้ในรูปที่ไม่เปลี่ยนแปลง และจะถูกย่อยสลายโดยแบคทีเรียโพรไบโอติก ทำให้กระตุ้นการเจริญเติบโตและการทำงานของแบคทีเรีย พบได้หัวหอม กระเทียม ถั่วเหลือง ถั่วแดง ไฟเบอร์ในผักและผลไม้ต่าง ๆ เป็นต้น

อธิบายง่าย ๆ ก็คือ พรีไบโอติกเป็นอาหารของโพรไบโอติกนั่นเอง ดังนั้นหากรับประทานอาหารพวกพรีไบโอติกก็จะช่วยส่งเสริมฤทธิ์โพรไบโอติกได้ดียิ่งขึ้น

ทำไมเราถึงควรได้รับโพรไบโอติกส์เสริม

โพรไบโอติกจัดเป็นจุลินทรีย์ที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกาย เรียกได้ว่าเป็นจุลินทรีย์ประจำถิ่นหรือ Normal Flora อย่างหนึ่งในทางเดินอาหาร หากร่างกายมีสุขภาพดีก็จะมีการรักษสมดุลจุลินทรีย์ให้เป็นปกติ แต่ถ้าหากมีอะไรไปรบกวนสมดุลจุลินทรีย์ในร่างกาย จุลินทรีย์ประจำถิ่นลำไส้ถูกรุกราน อาจเกิดผลกระทบตามมาได้

หากร่างกายได้รับยาปฏิชีวนะเป็นระยะเวลานาน ยาเหล่านี้ส่งผลให้จุลินทรีย์ในร่างกายมีจำนวนลดลง เมื่อร่างกายมีการรับเชื้ออื่นซึ่งอาจก่อโรคเข้ามา อาจมีโอกาสสูญเสียจุลินทรีย์ดีในร่างกายได้ ดังนั้นการสร้างสภาวะความสมดุลระหว่าง Normal Flora และร่างกายนั้นจึงมรความสำคัญ ซึ่งการรับประทานโพรไบโอติกจึงเป็นทางเลือกอย่างหนึ่งในการเสริมจุลินทรีย์ชนิดดี และรักษาสมดุลจุลินทรีย์ในร่างกาย

โพไบโอติก มีกี่กลุ่ม

โพรไบโอติกนั้น สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ดังนี้

  • แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) เป็น แบคทีเรียชนิดดีในกลุ่มของโพรไบโอติกที่พบได้มากที่สุด โดยสามารถพบได้ในอาหารจำพวก โยเกิร์ต นมเปรี้ยว อาหารหมักดองต่าง ๆ ดีต่อระบบขับถ่าย และดีต่อผู้ที่มีประสบปัญหาไม่สามารถย่อยแลคโตสในนมได้
  • ไบฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium) ได้รับการจัดว่าเป็นหนึ่งในจุลินทรีย์โพรไบโอติกที่ดีที่สุด สามารถพบได้ในอาหารจำพวกผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม มีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการลำไส้แปรปรวน

นอกจากจุลินทรีย์สองกลุ่มใหญ่แล้ว อีกส่วนหนึ่งของโพรไบโอติกก็ยังเป็นเชื้อยีสต์ ได้แก่ แซคคาดรไมซิส (Saccharomyces boulardii) เป็นยีสต์ที่พบได้ในกลุ่มของโพรไบโอติก มีส่วนช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย และบรรเทาอาการปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวกับระบบทางเดินทางอาหาร

บทบาทของโพรไบโอติกในร่างกาย

โพรไบโอติกมีบทบาทมากมายที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่าง ๆ ในร่างกายดังนี้

  • ป้องกันไม่ให้เชื้อก่อโรคจับที่ผิวเยื่อบุลำไส้ โดยการสร้างเกราะป้องกันบริเวณเยื่อบุลำไส้
  • ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อฉวยโอกาสในร่างกาย
  • กระตุ้นระบบการย่อยอาหารโดยการสร้างเอนไซม์หลากหลายชนิด
  • ช่วยรักษาสมดุลจุลินทรีย์ในร่างกายที่เสียไป
  • เหนี่ยวนำการกระตุ้นการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกัน ทำให้มีการสร้างสารป้องกันและกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้เข้าสู่ภาวะสมดุลได้

โพรไบโอติกมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร

จากการศึกษาพบว่าโพรไบโอติกมีประโยชน์ในการรักษาหรือช่วยบรรเทาความผิดปกติต่าง ๆ ของร่างกายเช่น

  • โรคระบบทางเดินอาหาร อาการลำไส้แปรปรวน, กรดไหลย้อน, ท้องผูก, ท้องร่วงจากการติดเชื้อ, ท้องร่วงอันเกิดจากการรับประทานยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน, ภาวะไม่ทนต่อน้ำตาลแลคโตส
  • โรคภูมิแพ้ ผื่นผิวหนัง, ภูมิแพ้อากาศ
  • โรคทางอวัยวะสืบพันธุ์ ภาวะติดเชื้อในช่องคลอด, ช่องคลอดแห้งหลังหมดประจำเดือน
  • โรคทางเดินปัสสาวะ ภาวะติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ

ปัจจุบันจึงมีการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายมากขึ้น โดยมีการปรับสายพันธุ์จุลินทรีย์ที่เหมาะสมและเสริมฤทธิ์กันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโพรไบโอติก โดยประเภทและสายพันธุ์ของโพรไบโอติกที่ต่างกันล้วนมีผลต่อประสิทธิภาพในการรักษาที่แตกต่างกันออกไป

อาการข้างเคียงที่อาจพบได้หลังจากรับประทานโพรไบโอติก

ส่วนใหญ่มักพบเมื่อมีการรับในขนาดที่สูงเกินไป โดยอาจจะทำให้เกิดภาวะลมในท้องเพิ่มขึ้น เกิดท้องอืดหรือแน่นท้องได้

สรุป

เพื่อช่วยดูแลสุขภาพให้ดียิ่งขึ้น การรับประทานโพรไบโอติก จึงเป็นตัวเสริมในการซ่อมแซมสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น แต่การซ่อมแซมร่างกายให้ได้ผลและยั่งยืนที่สุดคือการจัดการปัญหาที่ต้นเหตุ และปรับสมดุลในการใช้ชีวิต โดยการทานอาการที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะช่วยบำรุงสุขภาพได้อย่างแท้จริง

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน ในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตครีม รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มา

www.bumrungrad.com

medthai.com

Maqui Berry ส่วนประกอบอาหารเสริม

Maqui Berry ส่วนประกอบอาหารเสริม

ถ้าหากพูดถึงผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของผลไม้เพื่อสุขภาพ ที่สามารถช่วยในเรื่องต่าง ๆ ในร่างกายได้เป็นอย่างดี แถมยังมีหลายหลากชนิดให้เลือกกันตามใจชอบ ซึ่งในวงการธุรกิจอาหารเสริม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่ถูกนำมาใช้ผลิตอาหารเสริม หรือแม้แต่เครื่องสำอางอย่างแพร่หลายเช่น บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ และอีกมากมาย ซึ่งผลไม้แต่ละนั้นล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และเป็นที่นิยมอย่างมาก

รับผลิตอาหารเสริม

แต่ปัจจุบันที่วงการธุรกิจอาหารเสริมแพร่หลายมากขึ้นในประเทศไทย ทำให้มีการผลิตอาหารเสริมนั้นมีมากขึ้น การใช้สารสกัดหรือวัตถุดิบต่าง ๆ ก็จะมีความใกล้เคียงกัน จนไม่มีความโดดเด่น ทำให้แต่ละแบรนด์ต้องสรรหาสารสกัดหรือวัตถุดิบที่มีความแปลกใหม่และน่าสนใจเพื่อให้สินค้าของแบรนด์มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

ซึ่งหนึ่งในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่ผู้คนส่วนใหญ่อาจค่อยไม่รู้จัก หรืออาจไม่เคยได้ยินนี้ชื่อเลยก็คือ มากิเบอร์รี่ ซึ่งผลไม้ชนิดนี้นั้นก็มีคุณประโยชน์ไม่แพ้ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ชนิดอื่น ๆ วันนี้ทาง Kovic จะพาไปรู้จักกับ มากิเบอร์รี่ ให้มากขึ้น

มากิเบอร์รี่ (Maqui Berry) คืออะไร

มากิ เบอร์รี่ (Maqui Berry) จัดเป็นพืชตระกูลดอกในสกุล Aristotelia ซึ่งเป็นพืชตระกูลเดียวกับพวกบลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ เป็นพืชที่ใช้เวลาในการปลูกหลายปี ลักษณะของผลมากิเบอร์รี่ จะเป็นผลไม้ลูกเล็ก ๆ สีม่วงเข้ม รูปร่างคล้ายกับบลูเบอร์รี่ แต่ผลเล็กกว่า และผิวจะมีความมันกว่าบลูเบอร์รี่ ส่วนรสชาติจะมีรสตั้งแต่เปรี้ยว เปรี้ยวอมหวาน ไปจนถึงหวาน ขึ้นอยู่กับระดับความสุก

ประวัติของมากิเบอร์รี่

มากิเบอร์รี่ เป็นผลไม้ที่ชาวอินเดียนแดงชนเผ่ามาปูเช่ในแถบทวีปอเมริกาใต้ รู้จักและทานกันมาเป็นเวลาหลายสิบปี ชนเผ่าปูเช่ยกย่องให้มากิเบอร์รี่ เป็นสัญลักษณ์ของความสดชื่น มีชีวิตชีวา ความแข็งแรง และสุขภาพดี นอกจากนั้นชาวชนเผ่ามาปูเช่ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับมากิเบอร์รี่อีกว่า มีพลังอำนาจที่ช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ทำให้มากิเบอร์รี่ถูกเลือกมาเป็นส่วนผสมของอาหารเสริม ซึ่งในปัจจุบัน มากิเบอร์รี่ จะปลูกและเจริญเติบโตได้ดีในภูมิภาคปาตาโกเนีย ประเทศชิลีและประเทศอาร์เจนติน่า ผลมากิเบอร์รี่ส่วนใหญ่จะนิยมนำไปอบแห้ง ทำแยม น้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่ม

มากิเบอร์รี่ น่าสนใจอย่างไร

ต้องบอกก่อนว่าผลไม้ตระกูลเบอร์รี่คือมีความน่าสนใจทุกชนิดอยู่แล้ว แต่มากิเบอร์รี่ เป็นพืชที่มีสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุดในโลกเทียบกับน้ำหนัก มากกว่า อาซาอิเบอร์รี่ 5 เท่า และมากกว่าโกจิเบอร์รี่ถึง 9 เท่า ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ กลุ่มแอนโทไซยานิน ชื่อเดลฟินิดิน มี Anthocyanidin สูงสุด 35% และ Polyphenol รวม 65% ซึ่งมีฤทธิ์สูงมาก

นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุแคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม กรอไขมันโอเมก้า 6 และ 9 รวมไปถึงวิตามินอีกมากมาย เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 1 และวิตามินบี 3 อีกด้วย

ประโยชน์ของ มากิ เบอร์รี่

  • มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
  • ปกป้องและบำรุงสายตา
  • ช่วยลดการเผาผลาญ
  • Superfood ด้านผิวพรรณ
  • ชะลอความเสื่อมของร่างกายของผิวพรรณ
  • เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย เสริมสร้างระบบลำไส้

มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุดในโลก

มากิเบอร์รี่ ถือเป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุดในโลก มีค่า ORAC score สูงมาก ซึ่งสามารถช่วยลดระดับไขมันในกระแสเลือดได้ในปริมาณสูงกว่า แบล็กเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ทั้งหมด

ปกป้องและบำรุงสายตา

ในมากิเบอร์รี่มีวารแอนโธไซยานิน ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา ป้องกันอาการอ่อนล้าจากการใช้สายตาอย่างหนักช่วยลดอาการตาแห้ง ช่วยปกป้องดวงตาไม่ให้ถูงแสงทำลายเซลล์ให้เสื่อม ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เลยก็ว่าได้

ช่วยลดน้ำหนักและเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกาย

ส่วนเนื้อของมากิเบอร์รี่มีสารที่เป็นส่วนลดไขมันเลว เป็นผลไม้ที่ช่วยยับยั้งความอยากอาหาร ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและระดับอินซูลินให้สมดุล และยังช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกายได้ด้วย

Superfood ด้านผิวพรรณ บำรุงผิวให้สดใส

ในมากิเบอร์รี่อุดมด้วยวิตามินซี ช่วยในการบำรุงผิวพรรณให้สดใสและยังช่วยลดริ้วรอย ช่วยพื้นฟูผิวที่ต้องเจอกับมลภาวะ สารเคมีต่าง ๆ จากการแต่งหน้า ที่สำคัญคือป้องกันผิวจากการโดนทำร้ายของรังสียูวีได้เป็นอย่างดี

ชะลอความเสื่องของร่างกายและผิวพรรณ

สารแอนโธไซยานินที่มีอยู่ในมากิเบอร์รี่ จะช่วยต้านความเสื่อมของร่างกาย ชะลอความชรา ทำให้แก่ช้าลง ช่วยฟื้นฟูการสร้างคอลลาเจนในผิว ช่วยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ ริ้วรอยดูลบเลือนลงให้ผิวแลดูอ่อนกว่าวัย

เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย เสริมสร้างระบบลำไส้ที่สมดุล

มากิเบอร์รี่ทีไฟเบอร์สูง มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลภายในลำไส้ ช่วยเพิ่มแบคทีเรียชนิดดีในร่างกาย ระบบลำไส้ของคนเรามีแบคทีเรียอาศัยอยู่เป็นจำนวนมหาศาล รวมทั้งไวรัส และจุลินทรีย์ขนาดเล็กมากมาย ซึ่งความสมดุลของระบบในลำไส้จะส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย สมองและหัวใจ

สรุป

มากิเบอร์รี่ คือสุดยอดผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เสริมสร้างการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดระดับไขมันในกระแสเลือด เพิ่มอัตราการไหลเวียนของเลือด จัดเป็น Superfood ด้านผิวพรรณ ลดริ้วรอย ลดจุดด่างดำ ลดรอยเหี่ยวย่น ความหย่อนคล้อยและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน ในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตครีม รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มา : llamito.com

สมุนไพรเพิ่มสมรรถภาพเพศชาย

สมุนไพรเพิ่มสมรรถภาพเพศชาย

สมรรถภาพทางเพศถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญสำหรับผู้ชาย เพราะไม่เพียงแค่เพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง แต่ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีให้กับคู่รักอีกด้วย แต่ก็มีผู้ชายจำนวนไม่น้อยที่มีความกังวลใจในเรื่องดังกล่าว จนอาจจะหาหนทางรักษาโดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรหรืออาหารเสริมต่าง ๆ ตามท้องตลาดที่อ้างสรรพคุณว่าช่วยกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศได้

รับผลิตอาหารเสริม

เนื่องจากการมีสมรรถภาพทางเพศที่ดีคือส่วนหนึ่งของสุขภาพกายใจที่สมบูรณ์แข็งแรง เพิ่มความพึงพอใจให้กับคนรัก ช่วยตัดปัญหาที่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างคู่ครอง อีกทั้งยังแสดงถึงความเป็นชาย ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในตนเองได้เป็นอย่างดี จึงเป็นเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ชายหลายคนถึงต้องการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศของตนนั่นเอง

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

ผู้ที่ประสบปัญหารังควาญใจอย่างภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรืออาการนกเขาไม่ขัน (Erectile Dysfunction) อาจมีอาการเช่น องคชาตไม่แข็งตัว หรือแข็งตัวไม่นานพอจะมีเพศสัมพันธ์ มีความต้องการทางเพศลดลง มีความผิดปกติในการหลั่งอสุจิ โดยอาจมีปัญหาหลั่งเร็วหรือช้าเกินไปเป็นต้น

ซึ่งอาการเหล่านั้นอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งจากโรคประจำตัวและภาวะทางสุขภาพต่าง ๆ เช่น กลุ่มอาการอ้วนลงพุง โรคหลอดเลือด โรคในระบบประสาทและสมอง โรคไต ร่างกายมีสารอนุมูลอิสระในปริมาณมากเป็นต้น รวมไปถึงการใช้ยารักษาโรค การผ่าตัด การบาดเจ็บ การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และอายุที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนปัจจัยทางด้านอารมณ์และจิตใจอย่างภาวะซึมเศร้าหรือความเครียดก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้เช่นกัน

สมรรถภาพเพศชายเพิ่มได้ด้วยการปรับพฤติกรรม

การเพิ่มสมรรถภาพทางเพศมีวิธีมากมายที่สามารถนำมาใช้ได้ ซึ่งแตกต่างกันไปตามบุคคล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุ ความรุนแรง และโรคประจำตัวของผู้ป่วยด้วย โดยแพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดน้ำหนักหากอยู่ในภาวะอ้วน จัดการกับความเครียด เลิกสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิดเป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีการรักษาทางเลือกอื่น ๆ ที่อาจช่วยรักษาและบรรเทาปัญหานี้ได้แก่ การใช้สมุนไพร การรับประทานยาตามคำสั่งแพทย์ การใช้ฮอร์โมนบำบัด การใช้กระบอกสุญญากาศ การใช้ยาสอดเข้าทางท่อปัสสาวะ การใช้ยาฉีด การผ่าตัด และการใส่แกนอวัยวะเพศเทียม

สมุนไพรในอาหารเสริมเพิ่มสมรรถภาพเพศชาย

ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของสมุนไพรมากมายที่เชื่อกันว่ามีสรรพคุณช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศแก่ผู้ชายได้ ซึ่งก็มีงานวิจัยบางส่วนศึกษาว่าสมุนไพรบางชนิดรักษาภาวะนี้ได้จริง โดยเฉพาะสมุนไพรที่ได้รับความสนใจและนิยมรับประทานกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งมีดังต่อไปนี้

  • กระชายดำ
  • ตรีผลา
  • เห็ดหลินจือ
  • โสม
  • เมล็ดองุ่นสกัด
  • เปลือกสน
  • เจียวกู่หลาน
  • โกจิเบอร์รี่

กระชายดำ

กระชายดำ หรือที่รู้จักกันในชื่อโสมไทย เป็นพืชในวงศ์เดียวกับกระชาย ข่า ขิง และขมิ้น โดยในตำรายาไทยระบุว่า กระชายดำมีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ และช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งการแพทย์พื้นบ้านของไทยได้นำกระชายดำมาใช้เป็นเวลาหลายร้อยปี

ด้านการทดลองเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกระชายดำในการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ มีงานวิจัยที่ทดลองในกลุ่มอาสาสมัครซึ่งเป็นผู้สูงอายุจำนวน 45 คน โดยให้ผู้ทดลองรับประทานสารสกัดจากกระชายดำปริมาณ 90 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 2 เดือน หลังการทดลองพบว่ากลุ่มอาสาสมัครผู้สูงอายุมีสมรรถภาพทางเพศที่ดีขึ้นโดยไม่มีผลข้างเคียง

ตรีผลา

ตรีผลาถูกนำมาใช้เป็นยาอายุวัฒนะนานนับพันปี โดยประกอบไปด้วยผลไม้แห้ง 3 ชนิด ได้แก่ สมอไทย สมอพิเภก และมะขามป้อม อาจกล่าวได้ว่าการผสมผสานนี้ทำให้ตรีผลามีสรรพคุณทางยามากมายอย่างช่วยลดความเครียดหรือต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ จากการศึกษาค้นคว้าในสัตว์ทดลองที่ผ่านมาก็พบว่า ตรีผลาช่วยป้องความเครียดได้

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีงานวิจัยที่เผยว่า ตรีผลาอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารฟลาโวนอยด์ที่มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงอาจช่วยให้ผู้ประสบปัญหานกเขาไม่ขันมีอาการดีขึ้น

เห็ดหลินจือ

โรคหรือภาวะทางจิตใจอาจส่งผลกระทบต่ออารมณ์ทางเพศได้ เช่น ภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล ความเครียด ความเหนื่อยล้า ปัญหาด้านการนอนหลับ และปัญหาด้านความสัมพันธ์ เป็นต้น ซึ่งเห็ดหลินจือเป็น 1 ในสมุนไพรมีการกล่าวอ้างสรรพคุณว่าสามารถต้านอาการอ่อนเพลียและช่วยรักษาโรคซึมเศร้าได้

โดยงานค้นคว้าหนึ่งได้ทดลองประสิทธิภาพและความปลอดภัยของเห็ดหลินจือกับอาสาสมัคร 48 คน ผลลัพธ์ที่ได้คือ เห็ดหลินจืออาจมีคุณสมบัติในการลดอารมณ์ซึมเศร้าและอาการของโรควิตกกังวล ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

โสม

สมุนไพรชนิดนี้ถูกนำมาใช้ในตำราแพทย์แผนจีนเพื่อบำรุงสุขภาพและรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศมานานนับศตวรรษ โดยการศึกษากับหนูทดลองชิ้นหนึ่งพบว่า โสมแดงมีประสิทธิภาพช่วยรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศในหนูที่ป่วยด้วยกลุ่มอาการอ้วนลงพุง ทั้งยังช่วยยับยั้งการเกิดพังผืดบริเวณกล้ามเนื้อคอร์ปัส คาเวอร์โนซัม (Corpus Cavernosum) ขององคชาตอีกด้วย

เมล็ดองุ่นสกัด

นอกจากโรคประจำตัวและปัญหาสุขภาพจิตแล้ว ภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ (Hypogonadism) ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้เช่น โดยภาวะดังกล่าวเกิดจากลูกอัณฑะผลิตฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนได้ไม่เพียงพอ ซึ่งฮอร์โมนนี้มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้เกิดความต้องการทางเพศและการผลิตน้ำอสุจิ

โดยหลายคนเชื่อว่าสารสกัดจากเมล็ดองุ่นอาจมีคุณสมบัติช่วยป้องกันภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำได้ เนื่องจากอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่างฟีนอลิก ฟลาโวนอยด์ และแอนโทไซยานินในปริมาณสูง ทั้งนี้ มีการศึกษาชิ้นหนึ่งสนับสนุนสรรพคุณในข้อนี้ โดยค้นคว้าในหนูทดลองแล้วพบว่าสารสกัดจากเมล็ดองุ่นช่วยเพิ่มปริมาณของน้ำอสุจิในหนูทดลองได้

เปลือกสน

จากการศึกษาทดลองที่ผ่านมาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของสารสกัดจากเปลือกสนต่อการกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศและคุณภาพของอสุจิ พบว่าการรับประทานสารสกัดจากเปลือกสนคู่กับแอลอาร์จินีนอาจช่วยกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ และช่วยพัฒนาคุณภาพของอสุจิให้ดีขึ้นได้

เจียวกู่หลาน

น้ำมันที่สกัดจากเมล็ดเจียวกู่หลานมีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระโดยตรง ทั้งยังมีงานวิจัยอีกหลายชิ้นที่ทำการศึกษาในสัตว์และห้องทดลองแล้วพบว่า เจียวกู่หลานมีสารพอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharides) ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ จึงอาจเป็นได้ถึงสรรพคุณในการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศของสมุนไพรนี้

โกจิเบอร์รี่

หลายคนเชื่อกันว่าโกจิเบอร์รี่มีประโยชน์ในหลายด้าน ทั้งฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดน้ำหนัก บำรุงสายตา และเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ จึงมีการศึกษาค้นคว้าโดยให้หนูทดลองกินสารสกัดจากโกจิเบอร์รี่ทุกวันในปริมาณ 150 และ 300 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ ผลปรากฏว่า สารสกัดจากโกจิเบอร์รี่ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอาจส่งผลเชิงบวกต่อสมรรถภาพทางเพศได้

นอกจากนั้น อีกหนึ่งงานวิจัยในหนูทดลองยังชี้ให้เห็นว่า สารสกัดจากโกจิเบอร์รี่อาจช่วยฟื้นฟูเส้นประสาทบริเวณองคชาตและเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศให้ดีขึ้นอีกครั้ง

สรุป

สมุนไพรในอาหารเสริมที่ได้พูดถึงกันไปนั้น ถึงแม้ว่าจะมีการทดลองแล้วเห็นผลก็ตามที แต่สมุนไพรบางตัวก็ยังเป็นการทดลองแค่ในสัตว์เท่านั้น ดังนั้นควรศึกษาให้แน่ใจก่อน นอกจากนี้การพิจารณาด้วยตนเองในเบื้องต้น ผู้บริโภคควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรให้ดีก่อนรับประทานยาหรืออาหารเสริมสมุนไพรใด โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ และควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันทีหากพบว่ามีอาการข้างเคียงเกิดขึ้นหลังใช้อาหารเสริมเหล่านั้น

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน ในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตครีม รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มา : https://www.pobpad.com/

ประโยชน์ของเบต้ากลูแคน (Beta Glucan)

ประโยชน์ของเบต้ากลูแคน (Beta Glucan)

เบต้ากลูแคน คืออะไร

เบต้า-กลูแคน เป็นสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต พบได้ในผนังเซลล์ของแบคทีเรีย เชื้อรา ยีสต์ สาหร่าย หรือพืชชนิดต่าง ที่พบได้จากอาหารตามธรรมชาติ ได้แก่ ธัญพืช เห็ด และยีสต์

เบต้า-กลูแคน ในธัญพืช เช่น ข้าวโอ๊ต รำข้าว จะมีคุณสมบัติในการลดระดับไขมัน และน้ำตาลในเลือด

โรงงานอาหารเสริม

เบต้า-กลูแคน ในเห็ด เช่น เห็ดหอมหรือเห็ดชิตาเกะ เห็ดไมตาเกะ เห็ดยามาบูชิตาเกะ จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และลดปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็ง

เบต้า-กลูแคน ยังสามารถยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเซลล์ผิวและปกป้องผิวจากรังสี UV ผิวพก็ตาม ควรมีการศึกษาวิจัยทาง

ประโยชน์ เบต้ากลูแคน

1. บรรเทาโรคมะเร็งร้าย

เบต้ากลูแคนจะช่วยให้เม็ดเลือดขาวในระบบภูมิคุ้มกันด่านแรกของเราทำลายเชื้อโรค และเซลล์แปลกปลอมได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งเบต้ากลูแคนยังเพิ่มจำนวน และกระตุ้นการทำงานของเลือด ให้กำจัดเซลล์มะเร็งได้ดียิ่งขึ้น

2. เหมาะสำหรับคนเป็นโรคเบาหวาน

เบต้ากลูแคน เป็นเส้นใยอาหารที่สามารถชะลอไม่ให้น้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดเร็วเกินไป ทำให้น้ำตาลค่อย ๆ ไหลเข้าสู่กระแสเลือดแบบที่ควรจะเป็น ลดระดับความต้องการอินซูลินของร่างกายลงได้ อีกทั้งเบต้ากลูแคนยังเป็นสารอาหารที่ช่วยฟื้นฟูสภาพของตับอ่อน ซึ่งทำหน้าที่ผลิตอินซูลินตามธรรมชาติ ให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

3. ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดแดง

เบต้ากลูแคนจะช่วยให้คอเลสเตอรอลในเลือดของคุณลดลงได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีในการลดความเสี่ยงของโรคไขมันอุดตันในหลอดเลือดแดง ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจได้สะดวก ป้องกันความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจอย่างได้ผล

 4. ชะลอวัย ผิวหนังเต่งตึง เพิ่มความยาวนานให้วัยหนุ่มสาว

เบต้ากลูแคนมีประโยชน์ในการกระตุ้นเซลล์ในด้านต่าง ๆ รวมทั้งการสร้างเส้นใยที่ทำหน้าที่ผลิตสารสำคัญที่จำเป็นต่อผิว ไม่ว่าจะเป็น คอลลาเจน อีลาสติน รวมทั้งกรดไฮยาลูโรนิก ทำให้ผิวหนังยืดหยุ่น ลดริ้วรอย ผิวดูมีน้ำมีนวล ชุ่มชื้น และที่สำคัญคือ เบต้ากลูแคนจะช่วยให้โครงสร้างผิวหนังของเราแข็งแรง คงรูป ไม่อ่อนเหลว กลับเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง

 5. ช่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง

โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เอดส์) เบต้ากลูแคนมีคุณสมบัติเข้าไปช่วยเพิ่มจำนวนและกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาว ที่คอยจำแนกสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย ทำให้สามารถตรวจพบสิ่งผิดปกติได้ดีขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันที่เคยทำงานผิดปกติ สามารถกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6. ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ตัวเอง

เบต้ากลูแคน เป็นสารอาหารที่ช่วยปรับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเรา ทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ซึ่งเบต้ากลูแคนจะเข้าไปลดสารที่กระตุ้นให้ร่างกายเกิดอาการภูมิแพ้ อีกทั้งยังควบคุมไม่ให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานมากเกินไป 

7. เบต้ากลูแคน ช่วยสมานแผล

เบต้ากลูแคนยังมีอีกหนึ่งคุณสมบัติที่โดดเด่น โดยสามารถรักษาแผลผิวหนังอักเสบได้ โดยเบต้ากลูแคนจะเข้าไปเพิ่มภูมิต้านทานของเม็ดเลือดขาวให้เข้มแข็ง และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นตัวหลักในการรักษาแผลทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น แผลจากศัลยกรรม ผ่าตัด เบาหวาน และรักษาอาการผิวแห้ง ซึ่งเบต้ากลูแคนช่วยให้แผลหายไว รอยแผลเป็นจางลง ลดการติดเชื้อ และลดอัตราการตายของเซลล์

8. ลดการติดเชื้อ

เบต้ากลูแคน ช่วยลดปัญหาการติดเชื้อต่าง ๆ ทั้งการติดเชื้อจากการผ่าตัด และการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน ทำให้เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันกำจัดเชื้อแบคทีเรีย โดยเพิ่มจำนวนและประสิทธิภาพของเซลล์ อีกทั้งยังมีการใช้เบต้ากลูแคนในการลดการติดเชื้อในกระแสเลือด ด้วยการกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวให้เพิ่มภูมิคุ้มกันมากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด

9. รักษาและบรรเทาระบบทางเดินอาหาร

เบต้ากลูแคนช่วยบรรเทาอาการท้องผูก หรือโรคที่เกิดจากภาวะทางเดินอาหารได้เป็นอย่างดี เพราะมีคุณสมบัติที่ช่วยดีท็อกซ์ลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายกลับไปสู่ภาวะปกติ เนื่องจากมีไฟเบอร์สูง ทำให้อิ่มท้องง่าย อีกทั้งเบต้ากลูแคนยังเป็นอาหารของพรีไบโอติกในลำไส้ ที่จะช่วยเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ลดภาวะกรดไหลย้อน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคทางเดินอาหารอีกมากมาย

เบต้ากลูแคนถูกนำมาใช้ประโยชน์ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการแพทย์ อุตสาหกรรมอาหารเสริมและความงาม ด้านการเกษตร และอุตสาหกรรมอาหาร

ด้านการแพทย์   ถูกนำมาใช้ในการป้องกันโรคของมนุษย์  เบต้ากลูแคนเป็นตัวปรับการตอบสนอง ทางชีวภาพ ความสามารถในการเสริมสร้างและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ของมนุษย์ ต้านโรคภูมิแพ้ โรคสะเก็ดเงิน โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน เบต้ากลูแคนถูกประยุกต์ใช้ประโยชน์ทางด้านการแพทย์ ทางเภสัชกรรม ทางการเกษตร และทางอุตสาหกรรม

ด้านอุตสาหกรรมอาหารเสริมและความงาม   สอดคล้องกับประโยชน์ทางการแพทย์  ทำให้มีอาหารเสริมหลายชนิดที่ใช้ส่วนประกอบจากเบต้ากลูแคนเข้าไป  เพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้บริโภคทั้งในด้านส่งเสริมสุขภาพและความสวยงาม

ด้านการเกษตร  ในการเลี้ยงสัตว์เช่น สัตว์ปีก ซึ่งส่งผลต่อการเติบโตของสัตว์เหล่านั้น สัตว์จะมีน้ำหนักตัวมากและมี ปริมาณของเนื้อมากขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือสัตว์ปราศจากโรคทำให้เพิ่มความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

ด้านอุตสาหกรรมอาหาร  สามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นอาหาร เช่นเป็น สารให้ความเข้มข้น สารทดแทนไขมันและเป็นสารให้ ความคงตัว น้าไปผลิตน้ำสลัดให้มีรสชาติที่ดีขึ้น อาหาร ทะเลแช่แข็ง ซอส โยเกิร์ต และผลิตภัณฑ์นมอื่น ๆ ทั้งนี้ ยังสามารถใช้เป็นส่วนผสมในการทำเค้กได้อีก

สรุป

เบต้ากลูแคน มีประโยชน์ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณ ภูมิคุ้มกันหรือแม้แต่การติดเชื้อ ในอาหารเสริมบางส่วนจึงมีส่วนผสมของเบต้ากลูแคน เพื่อให้สารตัวนี้เข้าไปช่วยในเรื่องต่าง ๆ ที่แบรนด์ต้องการ

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน ในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตครีม รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิง 

1.วารสารเทคโนโลยีการอาหาร มหาวิทยาลัยสยาม ปีที่ 13 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2561 “การสกัดและการประยุกต์ใช้เบต้ากลูแคนจากยีสต์”

2.https://omgthailand.net/12-benefits-of-beta-glucan/

รวมสารสกัดตัวเด็ด ช่วยบำรุงสมอง

รวมสารสกัดตัวเด็ด ช่วยบำรุงสมอง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สมอง เป็นอวัยวะที่มีความสำคัญมากเป็นอันดับต้น ๆ ของร่างกาย เนื่องจากคนเราจะต้องใช้งานสมองอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าเราจะทำอะไร เช่น กิน เดิน นั่ง หรือแม้แต่เวลาที่เรานอนสมองก็ยังทำงานอยู่ ดังนั้นสมองควรจะเป็นอวัยวะที่ได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด แต่กลับกันนั้นไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่นั้นเต็มไปด้วยกิจกรรมที่ส่งผลเสียต่อสมอง เช่น การสูบบุหรี่ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด การไม่ออกกำลังกาย หรือกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์

รับผลิตอาหารเสริม

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันได้มีการคิดค้นหาวิธีการในการบำรุงสมองกันออกมามากมาย ซึ่งวิธีที่ดูเหมือนจะได้ผลมากที่สุดก็คือ การรับประทานอาหารเสริมที่มีสารสกัดต่าง ๆ ที่ช่วยบำรุงสมอง เพื่อเป็นการดูแลสมองจากภายใน ดังนั้นในวันนี้ทาง Kovic จึงได้รวบรวมสารสกัดตัวเด็ดในช่วยบำรุงสมองมาฝากกัน โดยมีดังต่อไปนี้

สารสกัดที่ช่วยบำรุงสมอง

  • ใบแปะก๊วย
  • วิตามินบีรวมสกัด
  • โอเมก้า 3
  • ธาตุเหล็ก
  • นมผึ้ง
  • ไอโอดีน
  • ใบบัวบก

สารสกัดจากใบแปะก๊วย

สารสกัดจากใบแปะก๊วย เป็นหนึ่งในสารสกัดที่ขึ้นชื่อเรื่องบำรุงสมอง โดยเฉพาะกับคนที่กำลังมองหาอาหารเสริมเพื่อมาช่วยในเรื่องการเรียน หรือคนที่อยากเสริมสร้างสมาธิและความทรงจำให้ดีขึ้น เนื่องจากในใบแปะก๊วยอุดมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) และเทอร์ปินอยด์ (Terpenoids) ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้เลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ช่วยเพิ่มพูนการรับรู้ของสมองและทำให้มีสมาธิดี

นอกจากนี้ในใบแปะก๊วยก็ยังมีสารฟอสฟาติดิลซีรีน (Phosphatidylserine) ที่มีส่วนช่วยพัฒนาความทรงจำและป้องกันอาการสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ จึงบอกได้ว่าสารสกัดจากใบแปะก๊วยคืออาหารเสริมบำรุงสมองวัยเรียนอย่างแท้จริง

วิตามินบีรวมสกัด

ถ้าใครเคยสงสัยว่าวิตามินอะไรบำรุงสมอง ให้จำกันให้ดีเลยว่าคำตอบก็คือวิตามินบี โดยเฉพาะวิตามินบี 12 ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยเติมเต็มให้ระบบการทำงานของประสาทและสมองอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การที่ร่างกายได้รับวิตามินบี 12 จะส่งผลให้สมองโล่ง ปลอดโปร่ง รู้สึกสบายหัว และความคิดไหลลื่นมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ในวิตามินบีรวมจะมี โคลีน สารอาหารที่พบได้ในไข่แดง ซึ่งเป็นสาระสำคัญที่มีบทบาทอย่างมากต่อการพัฒนาสมองของเด็ก เพราะมีส่วนช่วยในการสร้างสารสื่อสัญญาณประสาทในสมอง ซึ่งมีผลต่อระบบการเรียนรู้และระบบความจำ

สารสกัดโอเมก้า 3

ส่วนประกอบสำคัญของโอเมก้า 3 ก็คือ DHA ซึ่งเป็นกรดไขมันที่มีความจำเป็นอย่างมากต่อการทำงานของเซลล์สมอง เพราะ DHA จะเป็นตัวช่วยในการเจริญเติบโตของปลายประสาท ทำให้การถ่ายทอดสัญญาณและส่งผ่านข้อมูลของเซลล์สมองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ข้อมูลอีกอย่างที่คุณควรรู้คือร่างกายของคนไม่สามารถสังเคราะห์ DHA ขึ้นเองได้ห เราจะได้รับ DHA จากการทานอาหารเท่านั้น

ธาตุเหล็กสกัด

ธาตุเหล็กเป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการนำออกซิเจนในเลือดไปเลี้ยงสมอง ทำให้เซลล์สมองสามารถเติบโตและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการได้รับธาตุเหล็กอย่างเพียงพอนั้นมีผลโดยตรงกับการพัฒนาสติปัญญา การเรียนรู้ และไอคิว

สังเกตได้จากเด็กที่มีภาวะเหล็กพร่องจะมีปัญหาเรื่องพัฒนาการ ดังนั้นธาตุเหล็กจึงมีความสำคัญมากต่อเด็กทารกและเด็กวัยกำลังโตนั่นเอง

สารสกัดจากนมผึ้ง

สารสกัดนมผึ้ง นับว่าเป็นสารอาหารที่มากคุณประโยชน์หและสามารถช่วยดูแลร่างกายได้ครบทุกมิติ ซึ่งก็รวมถึงสมองและระบบประสาทด้วยเพราะในนมผึ้งจะมีสารเรียกว่า “อะเซทิลคอลีน” (acetylcholine) ซึ่งเป็นสารที่สามารถช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น ความดันเลือดลดลง เลือดสามารถไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น ทำให้สมองและระบบประสาททำงานได้ดีและยังช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย

นอกจากนี้สำหรับผู้ที่มีอาการเครียดมา หรือเครียดบ่อย ๆ สารสกัดจากนมผึ้งก็สามารถช่วยได้ เพราะในนมผึ้งมีกรดชนิดหนึ่งที่เรียกว่า 10-HDA ซึ่งเป็นกรดจากธรรมชาติที่สามารถช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดให้กับสมอง ทำให้อารมณ์ดีมีความสุขและช่วยให้หนอนหลับสบาย

ไอโอดีน

เคยได้ยินกันไหมว่า “สมองดีเริ่มที่ไอโอดีน” ซึ่งเหตุผลที่มีคำกล่าวแบบนี้ก็เพราะไอโอดีนนั้นเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อสมองอย่างมาก โดยไอโอดีนนั้นมีส่วนช่วยสมองในการสร้างไทรอยด์ฮอร์โมน ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญที่มีบทบาทในการควบคุมการเผาผลาญสารอาหาร และสารพลังงานให้กับร่างกาย

 นอกจากนี้ไทรอยด์ยังเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์สมอง ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาการความจำ และระดับสติปัญญาอีกด้วย

สารสกัดจากใบบัวบก

ใบบัวบก เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงประสาทและสมอง เมื่อนำมาทำเป็นสารสกัดจะช่วยให้มีความเข้มข้นและคุณค่าที่เพิ่มขึ้น หากรับประทานจะช่วยให้มีความจำและระบบความคิดที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือสามารถช่วยป้องกันอัลไซเมอร์ในกลุ่มผู้สูงอายุได้

นอกจากนี้สรรพคุณของใบบัวบกยังช่วยส่งเสริมการทำงานของสารสื่อประสาทภายในสมอง ซึ่งส่งผลต่อการรักษาสมดุลของจิตใจ ช่วยให้จิตใจสงบผ่อนคลาย ลดความกังวลและกระวนกระวาย ช่วยให้นอนหลับง่าย และยังป้องกันอาการโรคซึมเศร้าได้อีกด้วย

สรุป

สารสกัดเหล่านี้นั้นสามารช่วยบำรุงสมองของคนเราจากภายในได้ก็จริง แต่อย่าลืมว่าสารสกัดเหล่านั้นเป็นสารสกัดอาหารเสริม ซึ่งอาหารเสริมไม่ใช่อาหารหลัก ดังนั้นควรกินอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้สมองทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน ในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตครีม รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มาข้อมูล

www.pakazybeauty.com

Watermelon Extract ส่วนประกอบเครื่องสำอาง

Watermelon Extract ส่วนประกอบเครื่องสำอาง

ในปัจจุบันโลกของธุรกิจเครื่องสำอางนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีการผลิตเครื่องสำอางรูปแบบใหม่ ๆ ออกมามากมาย ผลลัพธ์ของผิวพรรณที่ผู้บริโภคต้องการหลากหลายขึ้น ความโดดเด่นของสารสกัดตัวใหม่ ๆ ก็เริ่มมีมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สารสกัดแตงโม ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ ซึ่งในวันนี้เราจะพาไปรู้จักสารสกัดตัวนี้กัน

โรงงานอาหารเสริม

แตงโมคืออะไร

แตงโม คือ ผลไม้ที่มีต้นกำหนดในแถบทวีปแอฟริกาในทะเลทรายคาลาฮารี ซึ่งชาติแรกที่ปลูกแตงโมไว้รับประทานนั้นก็คือชาวอียิปต์ สำหรับประเทศไทยนั้นการปลูกแตงโมจะมีอยู่ทั่วทุกภาคและปลูกได้ทุกฤดู

แตงโม จัดเป็นพืชในตระกูลด้วยกับแคนตาลูป ฟักทอง แตงกวา ซึ่งนักพฤษศาสตร์จัดให้อยู่ในวงศ์ CUCURBITACEAE เป้นผลไม้ที่มีน้ำประกอบอยู่ในปริมาณมากจึงมีคุณสมบัติเย็น รับประทานแล้วหวานชื่นใจ

ความเชื่อและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประโยชน์ของแตงโม

แตงโม นับเป็นผลไม้ที่ผู้คนนิยมรับประทานคลายร้อน เนื่องจากมีรสชาติหวานฉ่ำ อีกทั้งหลายคนยังเชื่อว่าสรรพคุณช่วยรักษาและเสริมสร้างสุขภาพด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้เลือดไหลเวียน รวมทั้งเสริมสร้างสมรรถภาพการเคลื่อนไหวร่างกาย

แตงโม เป็นผลไม้ในตระกูลแตงและน้ำเต้า ประกอบด้วยน้ำร้อยละ 92 และน้ำตาลร้อยละ 8 อุดมไปด้วยไลโคปีนและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้เนื้อแตงโมมีสีต่าง ๆ และไม่มีไขมัน ผู้คนนิยมรับประทานแตงโม เพราะนอกจากจะมีเนื้อหวานฉ่ำแล้ว หลายคนยังเชื่อว่าสารอาหารในแตงโมมีสรรพคุณที่ช่วยรักษาและเสริมสร้างสุขภาพด้านต่าง ๆ เช่น ลดโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่ศึกษาคุณสมบัติของแตงโมที่ส่งผลต่อสุขภาพหลายแง่มุม

คุณประโยชน์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของแตงโมคือต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากแตงโมมีสารอาหารสำคัญที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ คือ สารโพลีฟีนอล สารนี้จะป้องกันสารอนุมูลอิสระไม่ให้ทำลายเซลล์ในร่างกาย  ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ก่อให้เกิดการเจริญของมะเร็ง รวมทั้งตรวจหาสารที่อาจก่อให้เกิดเซลล์มะเร็ง ส่งผลให้ผู้คนรับประทานแตงโมเพื่อให้ได้รับประโยชน์ดังกล่าว

สารสกัดแตงโม

สารสกัดแตงโม มีส่วนผสมของ วิตามินซี จากแตงโมธรรมชาติ มีประโยชน์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ มุ่งเน้นให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวพรรณ เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน ขาดความสดใส เปล่งปลั่ง เสริมการป้องกันการเปราะของเส้นเลือดฝอย เพื่อความเรียบเนียนแก่ผิวมอบความเต่งตึงแก่ผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งขาดน้ำเลี้ยงใต้ผิว และให้สารไลโคปีนทำให้ผิวดูชมพู ขาวกระจ่างใส

แตงโม อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดอย่างเช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบีรวม แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส เป็นต้น มีสาระสำคัญ คือ Citruline (ซิทรูไลน์) ซึ่งจะพบสารนี้ในเปลืองมากกว่าส่วนของเนื้อ สำหรับประโยชน์ของสารนี้คือ จะช่วยขยายเส้นเลือด ดีต่อระบบภูมิคุ้มกันและยังเป็นประโยชน์อย่างมาก สำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวานและโรคอ้วนอีกด้วย เพราะมีแคลอรีต่ำมาก

แตงโมให้ผลดีที่สุดเมื่อใช้กับส่วนผสมอะไร

ส่วนผสมในสกินแคร์หรือเครื่องสำอางที่เมื่อใช้คู่กับสารสกัดแตงโม แล้วจะยิ่งได้ผลดีที่สุดได้แก่ Hyaluronic Acid ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวกันแบบดีเยี่ยม, Lactic Acid ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนและเติมน้ำให้กับผิวได้เช่นกัน หรือจะเอาคู่กับวิตามินซี และวิตามินอี เพื่อให้ผลในการต้านอนุมูลอิสระ โดยข้อดีของการจับคู่แตงโมกับส่วนผสมอื่น ๆ ในสกินแคร์หรือเครื่องสำอาง จะทำให้ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างอ่อนโยนมากขึ้น

แตงโม เหมาะกับสภาพผิวแบบไหนบ้าง

ด้วยความที่องค์ประกอบหลักของแตงโมคือ น้ำ มันจึงปลอดภัยสำหรับทุกสภาพผิว แม้กับผิวหน้าที่เป็นสิวหรือบอบบางแพ้ง่าย โดยคุณสมบัติที่โดดเด่นของแตงโมคือลดการอักเสบและระคายเคืองของผิว ซึ่งเป็นประโยชน์ที่น่าจะเหมาะกับช่วงเวลาที่กำลังเครียด เพราะความเครียดนั้นจะส่งผลให้ผิวเกิดรอยแดง, หมองคล้ำและโทรมกว่าปกติ

นอกจากนี้ยังใช้ได้ดีกับผู้ที่ต้องการจะลบเลือนจุดด่างดำและความไม่สม่ำเสมอของสีผิว และช่วยให้ผิวที่แห้งหรือลอกเป็นขุยกลับมาชุ่มชื้น เต่งตึง ริ้วรอยดูจางลง และมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

นานแค่ไหนถึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวจากการใช้แตงโม

สำหรับผลลัพธ์ในการปลอบประโลมผิว, ลดผดผื่นจากการแพ้หรือรอยแดงต่าง ๆ อาจเห็นผลได้ทันทีหลังจากใช้ แต่ในแง่ของการฟื้นฟูสภาพผิวให้แข็งแรง คงต้องใช้เวลามากกว่านั้น เหมือนเช่นสกืนแคร์หรือเครื่องสำอางที่มีการใช้สารสกัดตัวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น สารสกัดน้ำผึ้ง สารสกัดใบฝรั่ง ที่ต้องใช้เวลาพอสมควรจึงจะเห็นผลอย่างชัดเจน เพราะต้องให้เวลาสำหรับเซลล์ผิวหนังในการผลัดเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่

ประโยชน์ของสารสกัดแตงโม

  • แตงโมมี ไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งและโรคหัวใจ
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณและเส้นผมให้แข็งแรง เพราะประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด
  • แตงโมมีกรดอะมิโน Citruline ซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันโรคหัวใจ
  • มีส่วนช่วยบำรุงสายตา เพราะมีวิตามินเอในผลแตงโม
  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว แก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน ช่วยดูดซับความมันบนใบหน้า และลดอาการแสบแดง

สรุป

สารสกัดแตงโม มีส่วนผสมของ วิตามินซี ซึ่งใช้ได้ดีกับผู้ที่ต้องการจะลบเลือนจุดด่างดำและความไม่สม่ำเสมอของสีผิว และช่วยให้ผิวที่แห้งหรือลอกเป็นขุยกลับมาชุ่มชื้น เต่งตึง ริ้วรอยดูจางลง และมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มาข้อมูล : https://kovic.co.th/

สารอาหารเสริมเพื่อสุขภาพหัวใจ

สารอาหารเสริมเพื่อสุขภาพหัวใจ

ในปัจจุบันมีหลายหันมาสนใจเกี่ยวกับสุขภาพของหัวใจกันมากขึ้น เพราะถ้าหากสุขภาพหัวใจของเราไม่แข็งแรงก็อาจเป็นบ่อเกิดของโรคที่เกี่ยวกับหัวใจต่าง ๆ ตามมา ดังนั้นจึงจะต้องทานอาหารเพื่อบำรุงหัวใจ และเมื่อพูดถึงเรื่องโภชนาการอาหารเพื่อสุขภาพหัวใจที่เต็มไปด้วยอาหารทั้งหมดเช่น ผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์และอาหารที่มีโซเดียมสูงในปริมาณต่ำนั้นเหมาะอย่างยิ่ง

โรงงานอาหารเสริม

สิ่งสำคัญคือการรักษาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหัวใจและจัดการน้ำหนักของเราเพื่อลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ นอกจากนี้การเลิกสูบบุหรี่หรือไม่เริ่มต้นเช่นกัน การจัดการความเครียดจำเป็นต้องลดความเสี่ยงของความดันโลหิตสูงที่สามารถนำไปสู่โรคหัวใจและหลอดเลือด

หัวใจสำคัญอย่างไร

หัวใจ คืออวัยวะที่ประกอบด้วยกล้ามเนื้อเป็นส่วนใหญ่ พบอยู่ในช่องอกค่อนไปทางด้านซ้ายของคนเรา โดยขนาดหัวใจนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ซึ่งเราสามารถคะเนขนาดหัวใจคร่าว ๆ ได้จากขนาดกำปั้นของตัวเอง เนื่องจากขนาดของหัวใจมักจะใหญ่กว่ากำปั้นของเราเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

สาเหตุที่คนเราอยู่ไม่ได้หากไม่มีหัวใจนั้นเป็นเพราะว่า เราทุกคนจำเป็นต้องใช้ออกซิเจนเพื่อหล่อเลี้ยงเซลล์ทุกเซลล์ภายในร่างกาย ดังนั้นการที่หัวใจมีหน้าที่สำคัญในการสูบฉีดเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ก็เท่ากับว่าหัวใจกำลังทำหน้าที่ในการส่งออกซิเจนที่อยู่ในเลือด (ซึ่งได้จากการฟอกของปอด) ไปยังเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย

อาหารเสริมจากธรรมชาติเพื่อสุขภาพหัวใจ

นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต การทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว การทานอาหารเสริมอาจจำเป็นต่อการเติมช่องว่างในการดำเนินชีวิตที่มีสุขภาพดีเพื่อช่วยป้องกันโรคหัวใจ ในความเป็นจริงการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการขาดสารอาหารบางอย่างสามารถทำให้สุขภาพหัวใจของคุณมีความเสี่ยง โดยในวันนี้เราจะมาแนะนำสารสกัดที่มักจะนำไปผลิตอาหารเสริมเพื่อบำรุงโรคหัว

สารสกัดเพื่อสุขภาพหัวใจ

โดยสารสกัดเพื่อสุขภาพหัวใจนั้นมีมากมายหลายอย่าง ซึ่งมีต่อไปนี้

  • เบต้าแคโรทีน
  • CoQ10
  • ซีลีเนียม
  • วิตามินบี
  • วิตามินดี
  • L-Carnitine
  • แมกนีเซียม
  • ขมิ้น
  • กระเทียม
  • โอเมก้า 3

เบต้าแคโรทีน

เบต้าแคโรทีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ถูกเปลี่ยนแคโรทีนอยด์ในรูปของวิตามินเอในร่างกาย วิตามินที่ละลายในไขมันที่มีความสำคัญต่อการมองเห็น ภูมิคุ้มกันสุขภาพและการสืบพันธุ์ในร่างกาย และเมื่อกล่าวถึงสุขภาพของหัวใจ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าไลโคปีนที่มีศักยภาพจะสามารถเพิ่มความแข็งแรงของหัวใจได้

CoQ10

CoQ10 สามารถป้องกันโรคหัวใจในผู้สูงอายุ นอกจากนี้การวิจัยล่าสุดอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่า CoQ10 สามารถช่วยลดระดับไขมัน การวิเคราะห์เมตาดาต้าของการทดลองทางคลินิกแปดผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการเสริม CoQ10 อาจมีประสิทธิภาพในการลดคอเลสเตอรอล

เนื่องจากระดับคอเลสเตอรอลสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สำคัญสำหรับโรคหลอดเลือดหัวใจตีบผลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า CoQ10 สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้

ซีลีเนียม

ซีลลีเนียมเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงสุขภาพหัวใจและสุขภาพเผาผลาญที่เกี่ยวข้อง การศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่าการเสริมซีลีเนียมเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงสุขภาพหัวใจและสุขภาพการเผาผลาญที่เกี่ยวข้อง

การศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่าการเสริมซีลีเนียมช่วยลดโปรตีนที่มีฤทธิ์ทำปฏิกิริยา C-reactive protein ผลนี้ชี้ให้เห็นว่าซีลีเนียมอาจช่วยลดการอักเสบและความเครียดหออกซิเดชั่นในร่างกายในผู้ที่เป็นโรคหัวใจ

วิตามินบี

เมื่อกล่าวถึงสุขภาพของหัวใจการวิจัยแสดงให้เห็นว่าระดับต่ำของวิตามินบีในอาหารและเลือดได้รับการเชื่อมโยงกับความเครียดออกซิเดชั่นและระดับสูงของกรดอะมิโน homocysteine ในเลือด

ปัจจัยทั้งสองนี้จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจอย่างมาก ดังนั้นจึงสามารถแนะนำได้ว่าการเสริมวิตามินบีสามารถลดปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว

วิตามินดี

แม้ว่าวิตามินดีจะเด่นในเรื่องของกระดูก แต่ก็สามารถช่วยในเรื่องของหัวใจได้เช่นกัน โดยการวิจัยเกี่ยวกับวิตามินดียังอยู่ในระยะเริ่มแรก อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้การวิจับคือการค้นหาความเชื่อมโยงระหว่างความเสี่ยงที่สูงขึ้นของปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจและระดับวิตามินดีที่ลดลง

L-Carnitine

L-Carnitine สามารถลดความเสี่ยงของปัจจัยสุขภาพหัวใจหลายอย่างเช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูงและโรคอ้วน นอกจากนี้ในผู้ที่กล้ามเนื้อหัวใจที่เป็นโรคระดับ L-Carnitine อาจต่ำดังนั้นการเสริม L-Carnitin อาจช่วยปรับปรุงผลลัพธ์สุขภาพหัวใจได้

แมกนีเซียม

ผู้ที่มีระดับแมกนีเซียมหมุนเวียนในเลือดสูงมีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจลดลง นอกจากนี้ปริมาณแมกนีเซียมที่สูงขึ้นยังเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ลดลงของปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจเช่นโรคเมตาบอลิก เบาหวานและไขมันในเลือดสูง

ขมิ้น

ในขมิ้นมีสารที่ชื่อว่า เคอร์คูมิน โดยการลดระดับไขมันในร่างกาย เคอร์คูมินสามารถช่วยลดคความเสี่ยงของโรคหัวใจในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด การวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าสารเคอร์คูมิน สามารถส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้

กระเทียม

กระเทียมประกอบไปด้วยสาร organosulfur ที่แสดงคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบและป้องกันหัวใจ นอกจากนี้ยังเสริมสารสกัดจากกกระเทียม พบความเสี่ยงโรคลดลงโดยการสะสมของแผ่นบาง ๆ ในหลอดเลือดแดง

โอเมก้า 3 กรดไขมัน

กรดไขมันโอเมก้า 3 สามารถช่วยปรับปรุงการทำงานของ endothelial โดยการส่งเสริมการปล่อยไนตริกออกไซด์ซึ่งจะช่วยให้หลอดเลือดขยายตัวและช่วยลดการอักเสบในเส้นเลือด

สรุป

สุขภาพหัวมีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าความต้องการสารอาหารจากหัวใจของเราได้รับการตอบสนองจากอาหารของเรา หากเราขาดสารอาหารดังกล่าวอาหารเสริมจากธรรมชาติเช่นที่กล่าวมาข้างต้นอาจจำเป็นต้องเติมในร่างกาย เพื่อบำรุงสุขภาพของหัวใจให้แข็งแรงและห่างไกลจากโรคทางหัวใจ

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มาของข้อมูล

th.top10supps.com

อาหารเสริมกับเสริมอาหารแตกต่างกันอย่างไร

อาหารเสริมกับเสริมอาหารแตกต่างกันอย่างไร

ในปัจจุบันคนทั่วไปนั้น ต้องการกำลังเสริมที่จะมาช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายหรือผิวพรรณ ซึ่งถ้าหากพูดถึงกำลังเสริมที่หลายคนนึกถึงในตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้น “อาหารเสริม”  จึงทำให้คำนี้กลายเป็นคำค้นหาผลิตภัณฑ์เสริมต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ แต่เรารู้กันหรือไม่ว่าเรากำลังใช้คำที่ผิดความหมายกันอยู่

เพราะจริง ๆ แล้วคำว่าอาหารเสริม กับเสริมอาหารนั้นต่างกัน แต่ด้วยความคุ้นชินจริงทำให้หลายคนมักคิดว่าสองคำนี้คือคำเดียวกัน ดังนั้นในวันนี้เราทางจะพาไปดูความแตกต่างของคำว่า อาหารเสริม และ เสริมอาหารกัน

โรงงานรับผลิตอาหารเสริม

อาหารเสริม คืออะไร

จริง ๆ แล้ว ความหมายของคำว่า “อาหารเสริม” ในบัญญัติของเภสัชกรรมคือ อาหารจากธรรมชาติที่ต้องทานเสริมเป็นพิเศษจากมื้ออาหารหลัก 3 มื้อ เพื่อดูแลสุขภาพในภาวะต่าง ๆ เช่น ให้ร่างกายเจริญเติบโตได้ตามวัย เสริมร่างกายจากการขาดอาหาร ช่วยรักษาโรคบางชนิด หรือช่วยเสริมให้สุขภาพดีทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น

อาหารเสริมสามารถแบ่งการทานได้อย่างไร

โดยส่วนใหญ่การทานอาหารเสริมนั้นจะแบ่งตามช่วงอายุ เพราะการเจริญเติบโตและความต้องการสารอาหารในแต่ละช่วงวัยนั้นแตกต่างกัน

  • ทารกอายุมากกว่า 6 เดือน นอกจากน้ำนมแม่แล้ว เรามักจะเสริมด้วยข้าวบดละเอียดเหมือนโจ๊ก ผักต้มสุกบด เช่น ฟักทอง หรือผลไม้สุกอย่างมะละกอ และกล้วยน้ำว้าบดร้อนเสริมในบางครั้ง
  • เด็กเล็ก วัยนี้เป็นวัยที่เริ่มเลือกทานอาหาร จึงทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนและส่งผลต่อการเจริญเติบโต ให้เสริมเป็นไข่ต้ม เนื้อปลา เนื้อไก่ นม ผักที่ต้มสุกจนนิ่มและผลไม้หลายชนิด จัดแต่งให้ดูน่าทาน เพื่อเสริมวิตามินและป้องกันการขาดสารอาหาร
  • หญิงตั้งครรภ์ เป็นช่วงวัยที่ต้องการสารอาหารหล่อเลี้ยงทั้งตัวเอง และเสริมสร้างพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ จึงต้องทานข้าว นม โปรตีนชั้นดีที่ได้จากเนื้อปลา และผัก ผลไม้หลากสีเสริมให้มากขึ้นกว่าปกติ
  • ผู้สูงอายุ เป็นช่วงวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกายและจิตใจ ประสิทธิภาพในการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ลดลง จึงต้องทานอาหารที่ช่วยเสริมระบบการทำงานในร่างกายให้มากขึ้น เช่น ผักที่มีกากใยสูงอย่างผักบุ้ง ตำลึง ดอกสะเดา ผักกาดขาว เพื่อให้การขับถ่ายดีขึ้น เสริมแคลเซียมด้วยนม ดูแลกล้ามเนื้อและเติมพลังงานให้ร่างกายด้วยข้าวกล้องและเนื้อปลา เป็นต้น

อาหารเสริม กับ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่ใช่ตัวเดียวกัน

จากข้อมูลเกี่ยวกับอาหารเสริม คงทำให้หลายคนเข้าใจถึงความหมายและประโยชน์แล้ว แต่เพราะคำว่าอาหารเสริมถูกนำมาใช้หลายความหมาย จนพากันสงสัยว่ามีความหมายเดียวกันกับคำว่า “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร” ซึ่งความจริงนั้นไม่ใช่ตัวเดียวกัน

เพราะความหมายจริง ๆ ของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นมาจาก ผลิตภัณฑ์ที่ทานเสริมนอกเหนืออาหารหลักที่ทานตามปกติในแต่ละมื้อ มักเป็นสารสกัดที่มาจากพืช ส่วนประกอบของสัตว์ต่าง ๆ หรือเอนไซม์สังเคราะห์ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้

และนำมาผ่านกระบวนการผลิตจนเกิดเป็นรูปแบบของแคปซูล หรือเม็ดอัดแข็ง ซึ่งมีความสะดวกในการพกพาและรับประทานได้ง่ายกว่า ไม่สามารถบำบัดหรือรักษาโรคได้เหมือนยา แต่รับประทานเพื่อบำรุงร่างกายเท่านั้น ซึ่งต่างจากอาหารเสริมที่สามารถหาได้ตามธรรมชาติและไม่ผ่านการสังเคราะห์

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดีอย่างไร

แม้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จะไม่ได้มีจุดประสงค์หลักเพื่อการรักษาโรคต่าง ๆ เหมือนยาทั่วไป แต่ประโยชน์ที่เราจะได้จากการทานอาหารเสริมก็คือ

  • เสริมการดูแลและบำรุงร่างกาย ป้องกันการเกิดโรคในอนาคต
  • ทดแทนสารอาหารบางชนิดที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นได้
  • ช่วยชะลอความเสี่ยงของกระบวนการต่าง ๆ ในร่างกาย ให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เสริมการดูแลผิวพรรณให้ดีได้จากภายในสู่ภายนอก

ทั้งนี้ เพื่อการทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้ได้ผลดีและปลอดภัยกับร่างกายนั้น ควรดูสัญลักษณ์เครื่องหมายการรับรอง อ่านคำแนะนำ ส่วนประกอบต่าง ๆ และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีรรับประทานที่ถูกต้อง เพราะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางตัวต้องทานพร้อมอาหารถึงจะได้ผลดี บางตัวก็ต้องทานตอนท้องว่างเพื่อให้การดูดซับที่ดียิ่งกว่า หรือบางตัวละลายได้ดีในไขมันก็ต้องทานพร้อมกับอาหารที่มีไขมันเล็กน้อยด้วยถึงจะได้ผลดี

ประเภทผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยอดนิยม

เพราะในตามท้องตลาดนั้นมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากมายหลายชนิด ตามความต้องการของผู้บริโภค โดยผลิจภัณฑ์เสริมอาหารที่เป็นที่นิยมทั้งในด้านความต้องการซื้อและความต้องการผลิตมีดังนี้

  • ดีท็อกซ์ เนื่องจากในปัจจุบันคนส่วนใหญ่มีการรับประทานอาหารประเภท Fastfood หากรับประทานบ่อย ๆ ก็จะทำให้มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่ายหรือโรคท้องผูก ซึ่งผลิตภํณฑ์เสริมอาหารดีท็อกซ์จะช่วยได้ดีในการดีท็อกซ์ลำไส้ ล้างสารพิษต่าง ๆ
  • คอลลาเจน เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่กำลังมาแรงอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะทีลักษณะเป็นผง สามารถชงดื่มรับประทานได้ง่าย โดยจะช่วยในเรื่องของการบำรุงผิว ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย
  • ลดน้ำหนัก ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทนี้จะเป็นที่ต้องการในหมู่คนที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือดูแลรูปร่าง
  • บำรุงสมอง เพราะการทำงานหรือการเรียนในแต่ละวันนั้นค่อนข้างหนัก ทำให้สมองเกิดความเหนื่อยล้า จึงจำเป็นจะต้องหาตัวช่วยที่จะไว้คอยบำรุงสมอง เพื่อให้สมองทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

สรุป

อาหารเสริม และ เสริมอาหารนั้นมีความแตกต่างกันกันอย่างเห็นได้ชัด แต่ความคุ้นชินหรือการพูดที่เข้าปากมากกว่า จำได้ง่ายกว่า จึงทำให้คนทั่วไปคิดว่า 2 คำนี้คือคำเดียวกัน  ซึ่งมันไม่ได้ผิดอะไรที่จะเรียกอย่างนั้น แต่เมื่อจะต้องพบแพทย์หรือสนใจที่จะทำผลิตภัณฑ์เสริม การใช้คำที่ถูกความหมายก็เป็นสิ่งจำเป็น

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มาของข้อมูล

www.unileverlife.com

www.secrets-channel.com