ผลิตเครื่องสำอาง

รวมสมุนไพรในเครื่องสำอางขัดผิว

รวมสมุนไพรในเครื่องสำอางขัดผิว

ผิวพรรณ เป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะผู้หญิงนั้น การมีผิวพรรณการเนียนสวย  ขาว กระจ่างใส ถือเป็นสิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ปรารถนา ซึ่งกว่าจะมีผิวพรรณตรงตามความต้องการก็ต้องมีการดูแลผิว โดยตัวช่วยในการดูแลและบำรุงผิวพรรณก็คือ เครื่องสำอางขัดผิว

ผลิตเครื่องสำอาง

เครื่องสำอางขัดผิว ถือเป็นตัวช่วยสำคัญในการช่วยให้ผิวขาว กระจ่างใส และเนียนสวย ทำให้มีเจ้าของแบรนด์หลายรายหันมาสนใจและผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางขัดผิวออกมาแข่งขันกัน ซึ่งผลิตภัณฑ์แต่ละตัวนั้นก็มีหลากหลาย แต่ที่นิยมนำมาใช้ผลิตมากที่สุดก็คือ สมุนไพร

สมุนไพรที่นิยมนำมาผลิตเครื่องสำอางขัดผิว หลายตัวนั้นสามารถหาได้ใกล้ ๆ ตัวในประเทศไทย แต่ตัวก็เป็นของประเทศจีน แต่ก็มีขายในประเทศไทย วันนี้ทาง Kovic เลยได้รวบรวมสมุนไพรสำหรับผลิตเครื่องสำอางขัดผิวมาฝากสำหรับเจ้าของแบรนด์หรือผู้ที่สนใจผลิตเครื่องสำอางขัดผิว

มะขาม

มะขามเป็นสมุนไพรไทยพื้นฐานที่คนไทยนิยมเอามาขัดตัวเป็นเวลานาน สามารถนำมาผลิตเป็นเครื่องสำอางประเภทสบู่ ครีมทาผิว ครีมขัดผิว ประโยชน์ของมะขามคือสามารถช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสอยู่ตลอดเวลา วิตามินซีจากมะขามนั้นสามารถช่วยในการชะลอวัย และการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนกว่าวัย ส่วนแคลเซียมจากมะขามจะช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น และในมะขามยังมีธาตุเหล็กที่สามารถช่วยในเรื่องของการสร้างเม็ดเลือดอีกด้วย

เห็ดหลินจือ

สมุนไพรเพื่อสุขภาพ สามารถนำมาสกัดเพื่อนำไปผลิตอาหารเสริมได้ เนื่องจากสามารถช่วยรักษาโรคลมบ้าหมู แก้อาการอาหารเป็นพิษได้ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในเรื่องผิวพรรณอีกด้วย โดยช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สีหน้าแจ่มใส ชะลอวัย

ว่านหางจระเข้

ว่านหางจระเข้ ตัวช่วยด้านดูแลผิวพรรณ นิยมนำมาทำเครื่องสำอางที่ช่วยดูแลด้านผิวพรรณ และการรับประทานโดยใช้ส่วนที่เป็นวุ้นของว่านหางจระเข้ที่ล้างน้ำสะอาดแล้ว วุ้นของว่านหางจระเข้ช่วยรักษา และบรรเทาอาการจากการถูกน้ำร้อนลวก ฝี ริดสีดวงทวาร แผลไฟไหม้ สมานแผล และด้านเครื่องสำอางคือ ทำให้หน้ากระจ่างใส ป้องกันผิวแห้ง ลดความมัน

ขมิ้น

ขมิ้นเป็นสมุนไพรที่นิยมนำมาผลิตเป็นเครื่องสำอางขัดผิวพอ ๆ กับมะขาม ซึ่งขมิ้นนั้นมีประโยชน์มากกว่าการบำรุงผิว โดยช่วยให้ขาวเนียนแลดูอ่อนเยาว์พร้อมปกป้องและลดริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยคุณสมบัติพิเศษในการเป็น Super Anti-Oxidant

โสม

โสมสมุนไพรจีนโบราณฟื้นฟูผิว สามารถนำมาเป็นสมุนไพรทำเครื่องสำอางขัดผิวหน้าขาวใส ไร้จุดด่างดำ เนื่องจากโสมอุดมไปด้วยแร่ธาตุจากธรรมชาติ และวิตามิน สามารถช่วยยกกระชับผิว มีส่วนช่วยในการยับยั้ง ต่อต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มพลังงานให้แก่เซลล์ผิว ช่วยให้เซลล์ผิวแข็งแรง ชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ และฟื้นฟูผิวให้ดีขึ้น

สามารถช่วยลดรอยเหี่ยวย่นให้ดูอ่อนกว่าวัย เปล่งปลั่ง ผิวดูกระชับ เร่งการหลุดลอกของเซลล์ผิวเก่าที่กำลังเสื่อมสภาพและช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวหน้าดูเนียน ขาว สดใส สามารถช่วยลดปัญหาสิว ใช้ได้ปลอดภัยต่อทุกสภาพผิว แม้ในผิวที่บอบบางแพ้ง่าย ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้น เนียนนุ่ม น่าสัมผัส ทำให้สามารถเผยผิวสวย อวดผิวใส ได้อย่างมั่นใจ

บัวหิมะ

บัวหิมะ หรือที่เรียกกันว่า บัวหิมะพันปี หรือ บัวหิมะหมื่นปี เป็นพืชที่ขึ้นในที่สูงมีลักษณะดอกสีขาวหรือเขียวอ่อน จะงอกในบริเวณเขาสูงที่อุณหภูมิเย็นจัด หรือที่มีหิมะปกคลุม อย่างเทือกอัลไต หรือภูเขาคุนลุ้น ที่ราบสูงซินเกียงในประเทศจีน และต้องใช้เวลานานกว่า 3 ปีถึงจะเก็บเกี่ยวดอกได้ ดังนั้นบัวหิมะจึงเป็นดอกไม้ที่หายาก

บัวหิมะที่ส่วนช่วยในการสร้างเซลล์ผิว ความมหัศจรรย์จากธรรมชาติ สามารถนำมาผสมผสานทำเป็นเนื้อครีมได้อย่างลงตัว และด้วยคุณสมบัติพิเศษของบัวหิมะจากประเทศจีน จึงสามารถช่วยบรรเทาอาการอักเสบ การเผาไหม้จากการถูกแสงแดดแผดเผา สามารถช่วยบรรเทาแมลงสัตว์กัดต่อย และช่วยสมานผิวจากอาการแพ้แดง แสบ อันเองมาจากการแพ้เครื่องสำอางต่าง ๆ

ในบัวหิมะนั้น มีวิตามินอีเข้มข้น ช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่ผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวชั้นนอกให้ค่อย ๆ ขาว กระจ่างใส ขึ้นด้วยกลไกธรรมชาติ สามารถช่วยควบคุมความมันส่วนเกินช่วยลดปัญหาสิว และบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื่น

ทับทิม

สารสกัดจากทับทิม ที่ดีต้องได้มาจากทั้งส่วนผสมทั้งเปลือก เนื้อและเมล็ด เพราะจะได้สารบำรุงที่แตกต่างกัน และทั้ง 3 ส่วนนี้ต่างอุดมไปด้วย สารแอนโธไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระชั้นเลิศ (Super Antioxidant) เท่าที่มีหรือสามารถเทียบได้กับไวน์แดง และชาเขียว

ซึ่งสารดังกล่าวมีส่วนช่วยในเรื่องการยับยั้งกระบวนการแก่ชราของร่างกาย ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยทั้ง 7 ประการบนผิวหนัง และยังช่วยลดการเกิดจุดด่างดำ และลดเม็ดสีผิวส่วนเกิน อีกทั้งในส่วนของเปลือกยังมีสารสำคัญหลายชนิดที่ช่วยกระชับรูขุมขน และลดความมันส่วนเกินที่ผิวได้ และยังลดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราได้ดีมาก

ในขณะที่เนื้อและเมล็ดจะมีกรด Ellagic ในปริมาณสูง และมีวิตามินแร่ธาตุจำนวนมาก อุดมไปด้วยกลุ่มสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยต่อต้านการทำลายเซลล์จากอนุมูลอิสระ และช่วยบำบัดเซลล์จากการตกค้างของสารพิษโลหะหนักต่าง ๆ

สรุป

สมุนไพรแต่ละตัวมีความโดดเด่นและแตกต่างกันไป โดยเจ้าของแบรนด์หรือผู้ที่สนใจผลิตเครื่องสำอางขัดผิวนั้น สามารถเลือกใช้สมุนไพรต่าง ๆ ตามความต้องการในเรื่องของผลลัพธ์ หรือการแตกต่างจากคู่แข่ง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์น่าสนใจหรือโดดเด่นกว่าคู่แข่ง

แหล่งที่มา : farmerspace.co

ครีมกันแดดมีกี่ประเภท

ครีมกันแดดมีกี่ประเภท

หลายคนอาจจะสัมผัสได้ว่า นับวันสภาพอากาศของประเทศไทยนั้นมีอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งภัยที่เป็นเงาตามตัวภายในสภาพอากาศที่ร้อนระอุเช่นนี้ก็คือ แสงแดด โดยสิ่งที่มาพร้อมกับแสงแดดก็คือรังสี UV หากผิวพรรณของเรานั้นโดนรังสี UV บ่อย ๆ อาจทำให้เกิดอันตรายต่อผิวพรรณได้

รับผลิตเครื่องสำอาง

หลายคนอาจเข้าใจว่าภัยจากแสงแดดนั้นอาจก่อให้เกิดผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เช่น อาการแสบ บวม แดง ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่วันอาการเหล่านั้นก็จะหายไปเอง แต่หารู้ไม่ว่าภัยจากรังสีอัลตราไวโอเลตนั้นจะถูกสะสมไปเรื่อย ๆ อยู่ในร่างกายของเราตั้งแต่วัยเด็กเป็นระยะเวลาต่อเนื่องตลอดช่วงอายุของเรา ซึ่งกว่าอาการต่าง ๆ จะปรากฏก็นานจนแทบไม่รู้สาเหตุแล้ว ยกตัวอย่างเช่น มะเร็งผิวหนัง และความชราก่อนวัยอันควร

ดังนั้นเราจึงจะต้องดูแลและป้องกันผิวพรรณของเราเพื่อไม่ให้เกิดผลร้ายแรงต่อไปในอนาคต โดยวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการทา ครีมกันแดด แต่ทว่าครีมกันแดดนั้นก็มีหลากหลายประเภท หากใช้ผิดประเภทก็อาจไม่เห็นผลลัพธ์เท่าที่ต้องการ ดังนั้นวันนี้ทางโควิกจะพาไปรู้จักประเภทของครีมกันแดดกัน

ครีมกันแดด คืออะไร

ครีมกันแดด (Sunscreen) คือ ผลิตภัณฑ์ทาผิวที่มีส่วนผสมของสารกันแดด (Sunscreen agent) เพื่อใช้ทาผิวสำหรับป้องกันอันตรายจากแสงแดดที่มีต่อผิวหนังได้แก่ รังสีอัลตร้าไวโอเลต A (UVA), รังสีอัลตร้าไวโอเลต B (UVB) และรังสีที่ตามองเห็น (Visible Light) เพราะคนเราสามารถหลบจากแสงแดดได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานในที่โล่งแจ้ง และถึงแม้การได้รับแสงแดดในเวลาไม่นาน แต่หากได้รับบ่อย ก็จะทำให้ภูมิต้านทานของเซลล์ผิวหนังลดลง และสะสมจนเกิดมะเร็งผิวหนังได้เช่นกัน

นอกจากนั้น แสงแดดยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวหนังเสื่อมสภาพ และเกิดปัญหาที่ผู้คนไม่ต้องการ อาทิ เกิดรอยเหี่ยวย่น เกิดตีนกา ผิวหน้าหมองคล้ำ และหยาบกร้าน เกิดกระ เกิดฝ้า จนผิวหน้าดูแลแก่กว่าวัยอันควร จนจะต้องหาตัวช่วยให้การบำรุงผิวพรรณ เช่น ครีมบำรุงผิว ,การทาน คอลลาเจน เป็นต้น

ชนิดของรังสี UV

  • รังสี UVC มีช่วงคลื่นยาว 100 – 280 นาโนเมตร เป็นรังสี UV ที่มีพลังงานสูงสุด แต่ส่วนมากจะถูกดูดซับไว้ด้วยโอโซนทั้งหมดในชั้นบรรยากาศของโลก
  • รังสี UVB มีช่วงคลื่นยาว 280 – 320 นาโนเมตร เป็นรังสี UV ที่มีพลังงานรองลงมาจาก รังสี UV มีผลทำให้ผิวหนังเกิดการอาการผื่นแดง เกิดอาการแสบร้อน และไหม้ โดยเฉพาะผู้แพ้แสงแดดง่ายหรือมีการตากแดดเป็นเวลานาน
  • รังสี UVA มีช่วงคลื่นยาว 320 – 400 นาโนเมตร เป็นรังสี UV ที่มีพลังงานต่ำที่สุด เมื่อได้รับรังสีชนิดนี้จะมีผลต่อสภาพปัญหาผิวหนัง อาทิ ผิวหนังเหี่ยวย่น เกิดริ้วรอย เกิดความหมองคล้ำ กระ และฝ้า จนผิวแลดูแก่กว่าวัย

ประเภทครีมกันแดด

แบ่งตามคุณสมบัติ

ครีมกันแดดดูดซับรังสี (Chemical Sunscreen)

ครีมกันแดดประเภทนี้ ประกอบด้วยสารเคมีที่มีคุณสมบัติในการดูดซับรังสีไว้ได้ ทำให้รังสีบางส่วนมาสัมผัสกับผิวหนัง แต่จะปล่อยรังสีในช่วงคลื่นอื่นออกมาหลังการดูดซับไว้ แต่เป็นช่วงคลื่นที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง สารที่ใช้ผสมและมีคุณสมบัติดูดซับรังสีได้ ได้แก่

  • oxybenzone
  • PABA
  • salicylates
  • cinnamates
  • ฯลฯ

ทั้งนี้ครีมกันแดดประเภทนี้มีข้อดีหลายประการ ได้แก่

  • ไม่มีสีหรือมีสีอ่อน ๆ
  • มีคุณสมบัติในการบำรุงผิว
  • มีราคาถูก

ส่วนข้อเสีย คือ บางคนอาจเกิดอาการแพ้ต่อสารเคมีที่ผสมได้ รวมถึงต้องมั่นทาครีมทุกๆ 1-2 ชั่วโมง เมื่อต้องตากแดดเป็นเวลานาน ๆ เพราะสารที่ผสมจะดูดซับรังสีไว้ในปริมาณที่จำกัด หากดูดซับไว้เต็มที่แล้วก็จะไม่สามารถดูดซับไว้ได้อีก ทำให้รังสีที่ได้รับต่อมากระทบต่อผิวหนังทั้งหมด

ครีมกันแดดสะท้อนรังสี (Physical Blocker)

ครีมกันแดดประเภทนี้ มีส่วนผสมหลักของ zinc oxide หรือ titanium dioxide ซึ่งส่วนมากจะเป็นสีขาว และมีคุณสมบัติช่วยป้องกันรังสี UV ได้เกือบทั้งหมด ทำหน้าที่สะท้อน และกระจายรังสี UVA และ UVB ออกไปจากผิวหนัง และหลังการทาจะมีเนื้อครีมบางส่วนถูกดูดซึมเข้าผิวหนังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้น ครีมกันแดดประเภทนี้จึงไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายนัก

ข้อดีของครีมกันแดดประเภทนี้ คือ

  • ไม่สลายตัวง่ายเมื่อสัมผัสกับแสงแดด จึงไม่ต้องทาซ้ำบ่อย ๆ
  • มีผลทำให้ผิวระคายเคืองน้อย ไม่เกิดอาการแพ้

ครีมกันแดดแบบผสม (Chemical – Physical Sunscreen)

ครีมกันแดดประเภทนี้ มีส่วนผสมของสารที่มีคุณสมบัติในการดูดวับ และสะท้อนรังสีเข้าด้วยกัน อีกทั้ง ยังช่วยลดผลข้างเคียงจากสารเคมีที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ง่าย เนื้อครีมมีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นสีขาว น่าใช้มากขึ้น ดังนั้น จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่รวมข้อดี และลดข้อด้อยของครีมกันแดดทั้งสองประเภทข้างต้น ซึ่งปัจจุบัน ครีมกันแดดที่วางจำหน่ายส่วนมากจะเป็นประเภทผสมผสาน

แบ่งตามผลที่มีต่อสีผิว

  • Sun Tan เป็นผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่หลังการทาแล้ว เนื้อครีมจะซึมเข้าสู่เซลล์ผิว และทำหน้าที่เปลี่ยนสีผิวให้เข้มขึ้น แต่ไม่เกิดอันตรายต่อเซลล์ผิวแต่อย่างใด
  • Sunscreen เป็นผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่ทำหน้าที่กรองรังสี กระจายและสะท้อนรังสีไม่ให้เข้าสู่เซลล์ผิวมาก รวมถึงช่วยในการปรับสมดุลของสีผิวที่หมองคล้ำหลังการตากแดด

แบ่งตามส่วนที่ทา

ครีมกันแดดทาหน้า (Sunshade)

ครีมกันแดดประเภทนี้ มักมีส่วนผสมของซิงค์ออกไซด์หรือไททาเนียมไดออกไซด์ มีคุณสมบัติช่วยป้องกันรังสี UV ได้ทุกชนิด ใช้สำหรับการทาบริเวณที่บอบบาง อาทิ บริเวณใบหน้า ลำคอ และริมฝีปาก

ครีมกันแดดทาตัว (Sunscreen / Sunblock)

ครีมกันแดดประเภทนี้ มักมีส่วนผสมของสารเคมีหลายชนิดที่ผสมผสานกันระหว่างสารเคมีที่ทำหน้าที่ดูดซับ และสะท้อนรังสี UV ซึ่งประสิทธิภาพจะถูกระบุเป็นค่า SPF

สรุป

ครีมกันแดด เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลและป้องกันผิวพรรณจากการโดนทำลายจากแสงแดด ซึ่งการเลือกครีมกันแดดนั่นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี ทั้งนี้การทาครีมกันแดดเป็นเพียงวิธีหนึ่งในการป้องกันผิวจากแสงแดดเท่านั้น ทางที่ดีไม่ควรออกจากข้างนอกเวลาแดดแรงหรือสสวมเสื้อคลุมทับอีกที จะเป็นการช่วยป้องกันผิวอีกทางหนึ่ง

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน ในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตครีม รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มา

www.siamchemi.com

สารสกัดสุดฮิตในผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้า

สารสกัดสุดฮิตในผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้า

ไม่ว่าใครต่างก็จะต้องเคยผ่านการทาครีมกันมาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นครีมบำรุงผิวหน้า ครีมกันแดด หรือครีมลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ ซึ่งในผลิตภัณฑ์ครีมแต่ละตัวนั้นก็จะการใส่สารสกัดต่าง ๆ ลงไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ผู้บริโภคคาดหวังว่าจะเป็น

่รับผลิตเครื่องสำอาง

โดยแต่ละตัวนั้นก็จะใส่สารสกัดที่แตกต่างกันออกไปด้วยปัจจัยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลลัพธ์ของผลิตภัณฑ์ สร้างความแปลกใหม่ให้กับแบรนด์เพื่อแข่งกับคู่แข่งก็ตาม แต่ครีมส่วนใหญ่ก็จะมักจะมีสารสกัดที่เหมือนกันอยู่ไม่น้อย โดยในวันนี้ทาง Kovic จะพาไปดูสารสกัดที่นิยมใส่ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางประเภทครีมบำรุงผิวหน้ากัน

ครีมบำรุงผิวหน้าคืออะไร

ครีมบำรุงผิวหน้า คือ ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ช่วยฟื้นฟูผิวแห้งกร้าน ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ปกป้องผิวจากสิ่งสกปรกภายนอก บรรเทาอาการผิวหนังอักเสบชนิดไม่รุนแรง ลดเลือนริ้วรอยร่องตื้นและช่วยปรับสภาพผิวก่อนลงเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิวจึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ควรมีติดเอาไว้ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย

สารสกัดสุดฮิตในผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้า

  • วิตามินอี
  • ทองคำ
  • บัวหิมะ
  • แอลฟา อาร์บูติน
  • AHA 100%
  • ทานาคา
  • เมือกหอยทาก

วิตามินอี (Vitamin E)

สถาบันโรคผิวหนังหลายแห่งมีการวิจัยพบว่าวิตามินอีช่วยป้องกันผิวจากการไหม้เกรียม ริ้วรอยเหี่ยวย่นและรอยแผลได้ดี เนื่องจากการเกิดแผลหรืออักเสบบนผิวหนัง หรือการถูกแสงแดดเผาไหม้จะทำให้เกิดการสะสมของอนุมูลอิสระขึ้น

วิตามินอีจะทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำที่ดูดซับสารอนุมูลอิสระก่อนที่จะทำให้เนื้อเยื่อต่าง ๆ เสียหาย จึงชช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของผนังเซลล์ทำให้เซลล์ผิวแข็งแรงขึ้น และช่วยให้ทนต่อรังสียูวีในแสงแดดได้ดีขึ้น

ทองคำ (Gold)

สารสกัดทองคำ มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยคืนความกระชับและอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าได้ชะงัด ช่วยบำรุงผิวหน้าให้ขาวเนียนใส ลดจุดด่างดำ พร้อมผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ กระตุ้นผิวให้มีชีวิตชีวา ขาวเนียนนุ่มชุ่มชื้น เร่งการหมุนเวียนของโลหิตและเร่งการเกิดใหม่ของเซลล์พร้อมเผยผิวหน้าที่สดใสยิ่งกว่าเดิม

บัวหิมะ (Snow Lotus)

สารสกัดบัวหิมะจะช่วยในการบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระแถมยังช่วยในการชะลอวัยและลดการเกิดริ้วรอยอีกด้วย

แอลฟา อาร์บูติน (Alpha Arbutin)

สารทำให้ขาว (Whitening) เป็น Active Agent ใช้ในเครื่องสำอาง ประเภทครีมโฟม ที่ใช้สำหรับผิวหน้าและผิวกาย จะมีฤทธิ์แรงกว่า เบต้า อาร์บูติน (Beta Arbutin) อัตราการใช้ 0.2-2% (แนะนำ 2% สำหรับ Whitening ให้ผิวขาวใส ไม่ควรใช้เกิน 2%)

AHA 100% (กรดไกลคอลิก)

AHA 100% (กรดไกลคอลิก) ไกลคอลิกมีโมเลกุลขนาดที่เล็กที่สุด ในกลุ่มกรด AHA จึงสามารถซึมสู่ผิวได้ดีกว่ากรด AHA ชนิดอื่น ๆ เช่น Lactic Acid จึงสามารถผลัดเซลล์ผิวได้ดีกว่า ซึ่งกรดไกลคอลิกนั้นเป็นกรด AHA ที่พบได้มากที่สุดและมีความปลอดภัยที่สุดช่วยต่อต้านริ้วรอย รอแผลเป็น สิว รอยดำ ปรับสภาพผิวและผลัดเซลล์ผิวเป็น สามารถละลายในน้ำ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ความเข้มข้นสูงบนผิวโดยตรง

ทานาคา (Tanaka)

ทานาคา หรือ ขมิ้นพม่า ช่วยปรับผิวขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ปลอดภัย เพราะเป็นสมุนไพรจากธรรมชาติ ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ รักษารอยแผลเป็นต่าง ๆ ได้อย่างดี และควบคุมความมัน ทำให้สิวที่อีกเสบ แห้งเร็วและยุบตัวไม่ให้เกิดสิวใหม่ขึ้นมา และยังต่อต้านริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดริ้วรอยที่มีอยู่ใต้ผิว คงความอ่อนเยาว์ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง ป้องกันแสงแดดให้กับผิวได้อย่างดี โดยไม่ต้องเพิ่งสารเคมี

เมือกหอยทาก (Snail)

เป็นสารต้านอนุมูลอิสรสะที่มีประสิทธิภาพ สร้างความชุ่มชื้นให้กับผิวเพื่อป้องกันการก่อตัวใหม่ของสารอนุมูลอิสระ และช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เกิดการเสียหาย ต่อต้านริ้วรอยมีประสิทธิภาพการดูแลรักษาสิว และรอยแผลจากการเกิดสิว ช่วยลบเลือนริ้วรอยและยกกระชับผิวได้อย่างดี เพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิวหนัง ขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ

การเลือกครีมบำรุงให้เหมาะกับสภาพผิว

ผิวทั่วไป

หากผิวไม่มันและไม่แห้งจนเกินไป ควรเลือกใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำและซิลิโคนชนิดเบา เช่น ไซโคลเมทิโคน (Cyclomethicone) เพราะมีเนื้อบางเบาและไม่เหนียวเหนอะหนะ

ผิวมัน

หลายคนมักมองว่าผิวมันไม่จำเป็นต้องใช้ครีมบำรุง แต่ผู้ที่มีผิวมันควรใช้ครีมบำรุงเพื่อปกป้องผิวหลังล้างหน้า หรือใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น โดยเลือกเนื้อครีมโลชั่นที่ระบุไว้ไม่อุดตันรูขุมขน เพื่อลดโอกาสการเกิดสิว

ผิวแพ้ง่าย

ผิวแพ้ง่าย เป็นผิวที่ไวต่อสิ่งรบกวนภายนอก โดยเฉพาะสารเคมีและสภาพอากาศ ซึ่งทำให้เกิดอาการระคายเคือง มีผื่นแดง ตุ่มนูน รู้สึกคัน หรือแสบผิวได้ง่าย จึงควรเลือกครีมบำรุงผิวที่ใช้ส่วนผสมหลักจากธรรมชาติและอ่อนโยนต่อผิว เช่น คาโมมายล์ ว่านหางจระเข้ เป็นต้น รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้ครีมที่แต่งสี แต่งกลิ่นหรือมีกรดเป็นส่วนประกอบ

ผิวผู้สูงวัย

อายุที่มากขึ้นทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของต่อมไขมันใต้ผิวหนังลดลงจนผิวแห้งแตกมากขึ้น จึงควรเลือกครีมบำรุงที่มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำมันและปิโตรเลียม เพื่อคงความเนียนนุ่มและชุ่มชื้นแก่ผิว และครีมที่มีสารต้านอนุมูลอิสระหรือ AHA เป็นส่วนประกอบ เพื่อชะลอการเกิดริ้วรอย

สรุป

การใช้ครีมบำรุงนั้นค่อนข้างปลอดภัยหากใช้อย่างถูกต้องและปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์เสมอ และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดที่ช่วยในเรื่องผลลัพธ์ที่ต้องการ และควรทดสอบอาการแพ้ทุกครั้งก่อนใช้ผลิตภัณฑ์

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มาข้อมูล

innovalabgroup.com

www.pobpad.com

Star Fruit Extract ส่วนประกอบเครื่องสำอาง

Star Fruit Extract ส่วนประกอบเครื่องสำอาง

มะเฟือง หรือ เฟือง เป็นผลไม้ที่นิยมมากในแถบตะวันออกรวมถึงบ้านเรา ผลไม้ชนิดนี้มีลักษณะเป็นทรงกระสวย เมื่อหั่นเป็นแนวขวางจะเป็นรูปเหมือนดาวห้าแฉก สีผลเป็นสีเขียว เมื่อสุกจะเป็นสีเหลือง รสชาติจะออกเปรี้ยวแบบเฝื่อน ๆ โดยมีทั้งรสเปรี้ยวและหวานทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวสายพันธุ์ โดยผลมะเฟืองสุกนั้นประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอยู่หลายชนิด

ผลของมะเฟืองเป็นผลไม้ทรงกระสวย เมื่อหั่นแนวขวางจะได้เป็นรูปดาวห้าแฉก ภาษาอังกฤษจึงเรียกว่า Star Fruit ผลดิบสีเขียวใช้สับผสมในน้ำพริก สุกเป็นสีเหลืองใช้แกงได้ หรือกินกับแหนมเมือง มีทั้งรสหวานและเปรี้ยวแล้วแต่สายพันธุ์

รับผลิตอาหารเสริม

โดยในผลมะเฟืองสุกน้ำหนัก 100 กรัม จะอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตถึง 6.7 กรัม โปรตีน 1 กรัม ธาตุโพแทสเซียม 133 มก. วิตามินซี 35 มก. ธาตุฟอสฟอรัส 12 มก. ตามลำดับ นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วย วิตามินบี 5 วิตามินบี 9 (หรือกรดโฟลิก) ธาตุสังกะสีและไขมันอักด้วย

มะเฟืองมีพิษ

มะเฟืองมีพิษ เนื่องจากมีกรดออกซาลิกในปริมาณที่สูง การได้รับสารนี้เข้าไปในร่างกายในปริมาณมากสามารถเพิ่มโอกาส เป็นนิ่วในทางเดินปัสสาวะ เนื่องจากสารนี้จะไปจับตัวกับแคลเซียมและตกเป็นนิ่วในไต เมื่อผลึกนิ่วจำนวนมากเกิดการตกตะกอนจะทำให้เกิดการอุดตันในเนื้อไตและท่อไต ทำให้ไตวายเฉียบพลัน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภาวะการขาดน้ำในร่างกายของเราด้วย และการเกิดภาวะไตวายไม่ได้เป็นกันทุกราย

ประโยชน์ของมะเฟือง ที่อาจไม่เคยรู้

มะเฟือง ผลไม้ไทยที่หลายคนอาจะไม่เคยสังเกตมาก่อน บางครั้งก็ไม่มีวางขายในท้องตลาด ซึ่งทำให้หลายคนไม่ทราบถึงประโยชน์ของมะเฟือง ซึ่งมะเฟืองเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์หลากหลายโดยไม่เคยมีใครรู้ว่า ซึ่งประโยชน์ของมะเฟืองมีดังต่อไปนี้

  • มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
  • เป็นมิตรกับหัวใจ
  • ส่งเสริมการลดน้ำหนัก
  • ควบคุมความดันโลหิต
  • เสริมสร้างการย่อยอาหาร
  • รักษาเบาหวาน
  • เพิ่มการเผาผลาญอาหาร

มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ

มะเฟืองมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและที่สำคัญมะเฟืองเองก็ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ป้องกันความผิดปกติของผิวหนัง ยกตัวอย่างเช่น โรคผิวหนัง นอกจากนี้ในมะเฟืองเองก็ยังมีวิตามินซีช่วยในการล้างสารพิษและรักษาร่างให้แข็งแรง

เป็นมิตรกับหัวใจ

มะเฟืองเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยโซเดียมและโพแทสเซียม ซึ่งสารเหล่านี้ที่เป็นสารอิเล็กโทรไลต์ในร่างกายซึ่งจะช่วยในการรักษาความดันโลหิต นอกจากนี้แร่ธาตุอย่าง โซเดียมและโพแทสเซียม ก็ยังช่วยให้จังหวะการเต้นของหัวใจเป็นปกติ และทำให้การไหลเวียนของเลือดในร่างกายแข็งแรงอีกด้วย

ส่งเสริมการลดน้ำหนัก

มะเฟือง มีแคลอรี่เล็กน้อยจึงเหมาะสมที่จะกินเป็นมื้อเย็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ปริมาณเส้นใยในมะเฟืองเองก็ยังช่วยเร่งการเผาผลาญอาหาร นอกจากนี้เส้นใยในมะเฟืองยังทำให้คุณนั้นอิ่มเร็วกว่าเดิมอีกด้วย

ควบคุมความดันโลหิต

ในมะเฟืองนั้นมีแคลเซียม ซึ่งแคลเซียมเองก็มีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหาโรคหัวใจได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความดันเลือดหลอดเลือดดำและหลอดเลือดแดง และยังทำให้การไหลเวียนของเลือดนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

เสริมสร้างการย่อยอาหาร

ใยอาหารที่มีอยู่ในมะเฟืองมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการย่อยอาหาร โดยใยอาหารนี้สามารถกระตุ้นการเคลื่อนไหวของอุจจาระผ่านทางเดินอาหาร ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ท้องอืดและตะคริวในท้องได้อีกด้วย

รักษาเบาหวาน

เส้นใยที่ไม่ละลายน้ำในมะเฟืองสามารถป้องกันการปล่อยกลูโคสหลังจากรับประทานอาหารได้ ซึ่งส่งผลให้การควบคุมระดับอินซูลินในร่างกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมาะกับการทำเป็นอาหารว่างที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน

เพิ่มการเผาผลาญอาหาร

เพิ่มการเผาผลาญอาหารมะเฟืองเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยโฟเลตและ riboflavin ซึ่งก็จะไปช่วยในการเผาผลาญอาหารและยังส่งผลให้กระบวนการทำงานของเอนไซม์และฮอร์โมนทำงานได้อย่างราบรื่นทั่วร่างกาย

ข้อแนะนำและข้อควรระวัง

ผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะเฟือง เพราะอาจได้รับอันตรายจากการทำลายระบบประสาท ทำให้เกิดอาการสับสนมึนงง ชักเกร็ง หรืออาจป่วยรุนแรงถึงชีวิตได้ ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังใช้ยารักษาโรคอื่นอยู่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคมะเฟืองหรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ จากมะเฟือง  ส่วนผู้ที่มีสุขภาพดี ก็ควรบริโภคแต่พอดีไม่รับประทานมากจนเกินไปรวมถึงไม่ควรบริโภคติดต่อกันเป็นระยะเวลานานจนเกินไปเพาะคงส่งผลกระทบต่อสุภาพได้

สารสกัดมะเฟือง (Star Fruit Extract)

สารสกัดจากมะเฟือง อุดมไปด้วย Fruit Acid ที่มีคุณสมบัติเป็น AHA และวิตามินซีสูงให้คุณค่าในการบำรุงและปรับสภาพผิวที่หมองคล้ำจากแสงแดด มลภาวะ ฝุ่นละออง หรือความเครียด ช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ ฟื้นฟูผิวหน้าให้ดูแลกระจ่างใสด้วยธรรมชาติบำบัด ให้ผิวแข็งแรง ดูมีสุขภาพดี มีน้ำมีนวล ขาวเนียนใส

ประโยชน์ของสารสกัดมะเฟือง

  • ช่วยบุงและปรับสภาพผิวที่หมองคล้ำและมลภาวะ
  • ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวใหม่
  • ช่วยฟื้นฟูผิวให้แลดูกระจ่างใส แข็งแรง มีน้ำมีนวล
  • ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย อันเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว
  • ช่วยลดอาการอักเสบ
  • ต่อต้านอนุมูลอิสระ

สรุป

มะเฟือง มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ลดการอักเสบ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใส แข็งแรง มีน้ำมีนวล ด้วยวิตามินซีปริมาณสูงที่อยู่ในมะเฟือง จึงทำให้มีหลายแบรนด์นำสารสกัดมะเฟืองมาเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มาข้อมูล

www.chemipan.com

medthai.com

https://today.line.me

Lemon Fruit Extract ส่วนประกอบเครื่องสำอาง

Lemon Fruit Extract ส่วนประกอบเครื่องสำอาง

เลมอน เป็นผลไม้ที่จัดอยู่ในตระกูลส้ม เมื่อนำมาขยี้จะมีกลิ่นหอมแรง ลักษณะของผลเลมอนเป็นรูปกลมรี ที่ปลายผลจะมีติ่งแหลม ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกจะเป็นสีเหลือง เนื้อผลฉ่ำน้ำและมีรสเปรี้ยว ซึ่งหลายคนมักจะจำสับสนระหว่างเลมอนกับมะนาว ซึ่งมันคนละชนิดกัน มะนาวจะเป็นลูกกลม ๆ เขียว ๆ

โรงงานอาหารเสริม

ในน้ำเลมอน มีวิตามินซีสูงมาก อุดมไปด้วยกรดอินทรีย์หลายชนิดเช่น กรดซิตริก, กรดมาลิก ทั้งยังมีธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส ทั้งยังมีสารที่สำคัญอื่น ๆ อีกมากมายเช่น ฟลาโวนอยด์, ลิโมนอยด์ และเพกติน ซึ่งเป็นสารที่นำไปใช้ประโยชน์ทั้งทางการแพทย์ อาหารและเครื่องสำอาง

นอกจากนี้ เพกติน (Pectin) ยังมีสมบัติเป็นมิวโคพอลิแซกคาไรด์ที่ทาให้ผิวหนังชุ่มชื้น และเร่งกระบวนการหายของแผลได้ โยเพิ่มการไหลเวียนของเส้นเลือดในบริเวณที่ทา ส่งเสริมการเพิ่มขึ้นของคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และเพิ่มความสามารถในการให้ความชุ่มชื้นต่อผิวหนัง โดยเพิ่มปริมาณของกรดไฮยาลูรอนิก และลดการบวมและอักเสบของผิวหนังได้ เนื่องจากมีวิตามินซีที่สูงมากจึงมีสรรพคุณที่ช่วยลดสิว ลดจุดด่างดำ ลดความมันบนผิวหน้าได้เป็นอย่างดี ช่วยกระชับรูขุมขน และมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียต้านการอักเสบของผิว และลดรอยเหี่ยวย่น ช่วยให้ผิวขาวใสเปล่งปลั่งอยู่เสมอ เนื่องเป็นสารสกัดจากธรรมชาติจึงอ่อนโยนต่อผิวและไม่ระคายเคืองผิว

สารพัดประโยชน์ความสวยจากเลมอน

ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น กระจ่างใส

วิธีง่าย ๆ ที่เห็นผลจริงจากเลมอน โดยผสมน้ำมะพร้าวอ่อนสัก 2 – 3 หยด กับน้ำมะนาว 2 – 3 หยดเข้าด้วยกัน แล้วนำมาทาที่ผิว ทิ้งไว้สักพักแล้วค่อยล้างออก น้ำมะพร้าวจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ดูมีน้ำมาหล่อเลี้ยงมากขึ้น ส่วนน้ำมะนาวจะทำให้ผิวเนียน เปล่งปลั่ง กระจ่างใสขึ้นจนสังเกตได้

ตรงกันข้ามเลมอนที่อุดมไปด้วยวิตามินซีและกรดซีทริกกลับช่วยบำรุงผิวให้ดูสดใส เปล่งปลั่ง สะดุดตาใครต่อใครเลยทีเดียว แถมในวิตามินซียังมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ช่วยส่งเสริมการผลิตคอลลาเจนด้วย ซึ่งช่วยลดจุดด่างดำต่าง ๆ และความหมองคล้ำจากแสงแดด

ลดรอยดำคล้ำบริเวณข้อศอกและหัวเข่า

ถ้าบริเวณตามข้อศอกหรือหัวเข่าของเราดำคล้ำไม่ว่าด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม ลองใช้มะนาวครึ่งลูกขัดถูเบา ๆ บริเวณนั้นดู สัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง แล้วจะเห็นผลอย่างน่าอัศจรรย์ นอกจากจะหายดำเป็นปลิดทิ้งแล้ว ยังทำให้ข้อศอกและหัวเข่าเนียนนุ่ม น่าสัมผัสขึ้น

รักษาและแก้ปัญหาสิวหัวดำ

เพราะในมะนาวมีสารต้านฤทธิ์แบคทีเรียได้ เป็นตัวช่วยรักษาสิวได้เป็นอย่างดี วิธีง่าย ๆ เพียงแค่สไลด์หรือผ่านมะนาวบาง ๆ แล้วบีบให้มะนาวเล็กน้อยลงบนหน้าอย่างพอดี สิวหัวดำที่เกาะติดอยู่บนใบหน้ามานานจะค่อย ๆ เริ่มหายไปก่อนที่รู้ตัว

ช่วยทำความสะอาดผิว

นอกจากการเช็ดทำความสะอาดผิวด้วยแอลกอฮอล์และน้ำเปล่า ก็มีวิธีนี้ที่ช่วยทำความสะอาดผิวจากสิ่งสกปรกได้ แค่ผสมหยดน้ำมะนาว2 หยด เข้ากับน้ำมันหอมระเหยในปริมาณ 6 ออนซ์ต่อน้ำกลั่น มันจะทำหน้าที่เหมือนโทนเนอร์ ใช้คู่กับสำลีในการเช็ดทำความสะอาดผิวที่ยากจะลบออก

ช่วยทำให้ฟันขาวขึ้น

เพียงแค่ผสมโซดาและน้ำมะนาวเข้าด้วยกัน แล้วนำมาทาที่ฟัน จากนั้นใช้แปรงสีฟันขัดฟันของคุณให้ทั่วถึงเพื่อสครับสิ่งสกปรกที่เกาะติดตามฟันและบริเวณซอกฟัน แล้วบ้วนน้ำล้าง ทำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 – 2 ครั้ง

ริมฝีปากนุ่มเนียน อมชมพูขึ้น

เพียงทาน้ำมะนาวบาง ๆ บนริมฝีปากให้ทั่วของคุณก่อนนอน ทาให้พอดี จนรู้สึกชุ่มชื้น และล้างออกด้วยน้ำในตอนเช้า มันจะช่วยขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและริมฝีปากที่แห้งเป็นขุยให้หลุดออกไป บำรุงริมฝีปากคุณให้นุ่มอมชมพูขึ้น

แต่อย่างไรก็ตามใช่ว่าวิธีทำได้ทุกคน ถ้าบางคนมีริมฝีปากแตกแห้งอย่างรุนแรงเห็นได้ชัด แนะนำว่าไม่ควรลองเป็นอย่างยิ่ง เพราะน้ำมะนาวจะเปลี่ยนเป็นกรด กัดปากคุณให้แสบร้อน

ข้อควรระวัง

อย่าทาน้ำมะนาวลงบนริมฝีปากเอยะเกินไปนัก เพราะแทนที่มันจะช่วยบำรุงผิวปากกลับเป็นกรด กัดปากคุณให้แสบร้อนแทน

เพิ่มความแข็งแรงให้เล็บสวย

ใครจะไปคิดว่าแค่น้ำมะนาวจะเพิ่มความแข็งแรงให้เล็บได้ เพียงแค่คุณนำส่วนผสมของน้ำมันพืชที่คุณชื่นชอบ และน้ำมะนาวมามิกซ์เข้าด้วย และนำเล็บของคุณแช่ลงไป หากใครไม่เคยลอง ขอบอกว่านี่เป็นวิธีที่ดีมากและได้ผลเยี่ยมที่สุด

โดยเฉพาะถ้าเล็บของคุณแห้ง เหลืองและเปราะบางง่าย ไม่เพียงแต่มันจะช่วยให้เล็บของคุณแข็งแรงขึ้น แต่มันจะช่วยซ่อมแซมและบำรุงเล็บที่เหลืองให้อมชมพูเลือดฝาด เหมือนได้รับสารอาหารและการดูแลอย่างเต็มที่

ประโยชน์ของสารสกัดเลมอน

  • ลดสิว
  • ลดจุดด่างดำ
  • ลดความมันบนผิวหน้า
  • ช่วยกระชับรูขุมขน
  • ช่วยให้ผิวขาวใสเปล่งปลั่ง
  • ลดรอยเหี่ยวย่น
  • ส่งเสริมการเพิ่มขึ้นของคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสติน
  • ลดการบวมและอักเสบของผิวหนัง

สรุป

สารสกัดเลมอน มีวิตามินซีที่สูงมากจึงมีสรรพคุณที่ช่วยลดสิว ลดจุดด่างดำ ลดความมันบนผิวหน้าได้เป็นอย่างดี ช่วยกระชับรูขุมขน และมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียต้านการอักเสบของผิว และลดรอยเหี่ยวย่น ช่วยให้ผิวขาวใสเปล่งปลั่งอยู่เสมอ เนื่องเป็นสารสกัดจากธรรมชาติจึงอ่อนโยนต่อผิวและไม่ระคายเคืองผิว

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มา : www.chemipan.com

medthai.com

www.thairath.co.th

White Tea Extract

White Tea Extract

พูดถึงการนำชามาทำเป็นสารสกัดที่ใช้เป็นส่วนผสมของอาหารเสริมหรือเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภคหรือแม้แต่เจ้าของแบรนด์จำนวนมากก็มักจะตอบว่า ชาเขียว ซึ่งจริง ๆ แล้ว ยังมีอีก 1 ชาที่สามารถนำเอาผสมในสินค้าได้ นั่นก็คือ ชาขาว โดยวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับชาขาวกัน

รับผลิตอาหารเสริม

ชาขาวคืออะไร

ชาขาว (White Tea) คือ ชาที่ได้รับการเก็บใบชาเฉพาะส่วนของใบชาที่อยู่ยอดสุดเพียงใบเดียว ซึ่งเป็นยอดอ่อนสุดที่เพิ่งแทงยอดออกมาและยังมีอายุน้อย ๆ ลักษณะเด่นของชาขาวที่ไม่เหมือนชาอื่น ๆ ก็คือ ชาขาวจะมีลักษณะค่อนข้างนิ่มเล็กและบอบบาง หรือที่เรียกว่า ตูมชาขาว (ยอดชาขาวที่ยังตูมอยู่ ไม่บานออกรับแสงแดด) ซึ่งจะมีเส้นขนอ่อน ๆ สีขาวประกายเงินปกคลุมอยู่ ยิ่งปกคลุมมากเท่าไหร่ก็ยิ่งหมายถึงคุณภาพของชาขาวที่ดีขึ้นมาเท่านั้น จึงเป็นที่มาของชื่อ “ชาขาว

ตลอดจนไปถึงความละเอียดอ่อนในขั้นตอนการผลิต และยังต้องใช้ชาในปริมาณที่มากกว่าชาประเภทอื่นต่อการชงเพื่อให้ได้น้ำชาเพียง 1 แก้ว จึงจะได้น้ำชาขาวสีเหลืองทองอำพัน ซึ่งจะมีรสชาตินุ่มนวลกลมกล่อมและชุ่มคอแบบธรรมชาติ โดยไม่มีรสฝาดขมเหมือนชาเขียวหรือชาดำ

ส่วนในเรื่องของขั้นตอนการผลิตชาขาว หลังจากเก็บตูมชาขาวมาแล้วก็ต้องนำยอดชาที่เก็บได้มาผ่านกระบวนการทำแห้ง ซึ่งนิยมใช้วิธีการตากแดดให้แห้งในทันทีด้วยวิธีธรรมชาติโดยอาศัยลม แสงแดด หรือการอบด้วยเครื่องอบ และจะไม่ผ่านกรรมวิธีที่ไม่ผ่านกระบวนในการหมักบ่มเลย

ชาขาวต่างกับชาเขียวอย่างไร

ชาขาว คือ ใบชาที่ได้มาจากการเก็บเฉพาะส่วนยอดอ่อนใบชาส่วนเดียวเท่านั้น ในขณะที่ ชาเขียว คือใบชาที่ได้จากการเก็บยอดอ่อน ใบอ่อนใบแรกที่ติดกับยอด หรือใบอ่อนที่สองถัดลงมา และชาขาวจะไม่ผ่านกรรมวิธีการหมักเช่นเดียวกับชาเชียวหรือชาดำ จึงทำให้คุณค่าทางโภชนาการและศัลยการในการต้านอนุมูลอิสระสูงสุด เมื่อเปรียบเทียบกับชาชนิดอื่น ๆ

ชาขาวเป็นหนึ่งในชาที่ดีที่สุด าได้ยากและมีราคาแพง จึงถือเป็นชาชั้นสูง ซึ่งชาวจีนนิยมดื่มมานานกว่า 1,500 ปีแล้ว ชาขาวในแต่ละฤดูจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

  • กลุ่มที่หนึ่ง “ไป๋เฮา อิ๋นเจิน” ซึ่งเป็นชาขาวเกรดหนึ่งที่ดีที่สุด มีแค่ตุ่มตาอ่อนหุ้มด้วยขนสีขาวเท่านั้น เป็นที่นิยมสูงสุดสำหรับนักดื่มชา เพราะมีกลิ่นหอมหวานคล้ายดอกไม้ผสมกับกลิ่นหญ้าที่ตัดใหม่ ๆ
  • กลุ่มที่สอง “ไป๋ หมูตัน” คือใบชาที่ประกอบด้วยตุ่มตาหุ้มด้วยขนอ่อนและใบอ่อนเล็ก ๆ อีก 1 ใบ ให้รสชาติและสีชาเพิ่มขึ้นจากกลุ่มแรกเล็กน้อย และทั้งกลุ่มหนึ่งและกลุ่มสองจะมีปริมาณของคาเฟอีนต่ำเมื่อเทียบกับชาอื่น ๆ
  • กลุ่มที่สาม “โฉวเหมย” เป็นชาขาวเกรดต่ำลงมา เก็บได้จากการเก็บยอดอ่อนไปแล้ว มีรสชาติเข้มขึ้น ฝาด และมีกลิ่นเหม็นเขียวเล็กน้อย (ในวงการธุรกิจชา จะใช้ชาขาวเกรดนี้นำไปขายเป็นชาเขียวเกรดดีเพื่อเพิ่มมูลค่า)
  • กลุ่มที่สี่ “กงเหมย” ชากลุ่มนี้จะแตกต่างจากกลุ่มแรกและกลุ่มที่สอง มีการขั้นตอนการเก็บรักษาที่ด้อยกว่า และนักดื่มชาจะไม่นิยมดื่มชากลุ่มสามและสี่ จึงมีผู้นำชากลุ่มนี้ไปขายเป็นชาอื่นแทน

สารสำคัญในชาขาว

ชานั้นถือว่ามีประโยชน์ในร่างกาย เพราะประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน แร่ธาตุ อัลคาลอยด์ กรดอะมิโน น้ำมันหอมระเหย (volatile oil) และน้ำจากกรรมวิธีการผลิตชาขาวที่ผ่านกระบวนการเพียงเล็กน้อย ทำให้ชาขาวยังคงสารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าชาชนิดอื่น อีกทั้งส่วนประกอบต่าง ๆ ของชาขาวยังส่งผลต่อกลิ่น รสชาติ และบ่งบอกถึงคุณภาพของชา โดยสารสำคัญในชาขาวมีดังต่อไปนี้

  • สารต้านอนุมูลอิสระ
  • สารคาเทซิน
  • สารฟลาโวนอยด์
  • คาเฟอีน
  • กรดอะมิโน

สารต้านอนุมูลอิสระ

สารต้านอนุมูลอิสระที่พบในชาขาวส่วนใหญ่เป็นสารโพลีฟีนอล (polyphenol) จำพวกสารคาเทชิน (catechin) ซึ่งพบมากถึง 70% ของปริมาณสารโพลีฟีนอลทั้งหมดที่มีในชาขาว มีคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพ คือ ต้านอนุมูลอิสระ ต้านมะเร็ง ลดระดับของคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ต้านแบคทีเรีย ไวรัส และป้องกันฟันผุ

เมื่อเปรียบเทียบปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระจากการบริโภคชาขาวหนึ่งแก้ว พบว่าการบริโภคชาขาวได้รับสารปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าการบริโภคผัก และผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ผักโขม บล็อกโคลี่ สตรอเบอรี่ ในสัดส่วนการบริโภคที่เท่ากัน

สารคาเทซิน

สารคาเทชินประกอบไปด้วย  Epigallocatechin (EGC), Epicatechin (EC), Catechin (C), Epigallocatechin -3-gallate (EGCG), Epicatechin-3-gallate (ECG) และ Gallocatechin (GC) สารโพลีฟีนอลเหล่านี้ สารที่พบมากที่สุด คือ EGCG พบประมาณ 50% ของประมาณสารต้านอนุมูลอิสระในชาขาว สาร

EGCG เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงมากกว่าวิตามินเอและวิตามินซีถึง 100 เท่า ทำให้มีคุณสมบัติในการช่วยยับยั้งการสร้างไนโตรซามีน (nitrosamine) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งรุนแรงได้ดีกว่าวิตามินซีมาก เพราะทำปฏิกิริยาได้เร็วและแรงกว่า

สารฟลาโวนอยด์

ชาขาวมีปริมาณของฟลาโวนอยด์ที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับชาชนิดอื่น โดยชาขาวมีปริมาณฟลาโวนอยด์ซึ่งเป็นสารประกอบของฟลาโวนอยด์มากกว่าชาชนิดอื่นถึง 14.2-21.4 เท่า ซึ่งฟลาโวนอยด์มีประสิทธิภาพสูงสุดในการต้านสารอนุมูลอิสระ สามารถช่วยป้องกันการถูกทำลายของเซลล์และเนื้อเยื่อของร่างกายจากอนุมูลอิสระและออกซิเจน

คาเฟอีน

ประโยชน์อื่น ๆ ของการดื่มชาขาวคือ มีปริมาณคาเฟอีน ที่ต่ำกว่าชาชนิดอื่นโดยมีประมาณ 15 มิลลิกรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภคของชา ซึ่งน้อยกว่าชาเขียวและชาดำที่มีปริมาณคาเฟอีน 20 มิลลิกรัม และ 40 มิลลิกรัม ตามลำดับ ทั้งนี้ สารตัวนี้เป็นที่ถกเถียงกันในวงการแพทย์ว่ามีประโยชน์ หรือ โทษกันแน่ แต่โดยทั่วไปยอมรับกันว่าถ้าดื่มไม่เกินวันละ 200 มิลลิกรัม ก็ไม่มีผลเสียต่อร่างกาย

กรดอะมิโน

ชาขาวมีคุณสมบัติช่วยผ่อนคลายได้เนื่องจากมีกรดอะมิโนไทอามีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่พบได้ตามธรรมชาติ ที่ช่วยให้รู้สึกสงบผ่อนคลายโดยที่ไม่ทำให้ง่วง

ประโยชน์ของชาขาว

  • ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
  • ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
  • ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพช่องปาก
  • ชะลอการเติบโตของเซลล์มะเร็ง

ประโยชน์ของสารสกัดชาขาว

  • ช่วยกระชับรูขุมขน
  • บำรุงผิวให้นุ่มลื่นไม่หยาบกร้าน
  • ผิวเรียบเนียนน่าสัมผัส ช่วยต่อต้าน
  • ลดแบคทีเรียบนผิว

สรุป

ชานั้นถือว่ามีประโยชน์ในร่างกาย เพราะประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน แร่ธาตุ อัลคาลอยด์ กรดอะมิโน น้ำมันหอมระเหย ทำให้ชาขาวยังคงสารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าชาชนิดอื่น 

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มา

https://medthai.com

https://www.whitenature.co.th

https://www.sanook.com

https://www.colliplus.com

โรงงานอาหารเสริม

น้ำผึ้ง เพื่อสุขภาพและความงาม

น้ำผึ้ง เพื่อสุขภาพและความงาม

น้ำผึ้ง คือ น้ำหวานที่ผึ้งเก็บมาจากต่อมน้ำหวานของดอกไม้ โดยผึ้งจะกลืนน้ำหวานลงสู่กระเพาะน้ำหวาน ซึ่งจะมีเอนไซม์ช่วยย่อยน้ำหวานแล้วนำมาเก็บไว้ในหลอดรวงผึ้ง จากนั้นน้ำผึ้งค่อยๆบ่มตัวเองโดยการระเหยน้ำออกไปจนน้ำผึ้งมีปริมาณน้ำตามที่เข้มข้นขึ้นจนได้ระดับที่เหมาะสมกับการเก็บรักษาผึ้งงานก็จะปิดฝาหลอดรวง เราเรียกน้ำผึ้งนี้ว่า “น้ำผึ้งสุก” เป็นน้ำผึ้งที่ได้มาตรฐาน คือมีน้ำอยู่ไม่เกินร้อยละ 20-21  คนโบราณจึงนิยมให้ใช้ น้ำผึ้งเดือนห้า เพราะปริมาณน้ำน้อยและมีดอกไม้หลายชนิดบานในช่วงเวลาดังกล่าว

โรงงานอาหารเสริม

คุณภาพของน้ำผึ้งที่ได้มานั้นย่อมขึ้นอยู่กับวัตถุดิบ หรือชนิดของเกสรดอกไม้ที่ผึ้งได้ไป รวมถึงแหล่งของพืชและพื้นดินนั้นๆ ที่ผึ้งเจริญเติบโตอยู่ เพราะฉะนั้นน้ำผึ้งที่ได้จากรังผึ้งในป่าใหญ่ จึงมีความสมบูรณ์และมีแร่ธาตุอาหารที่แตกต่างจากน้ำผึ้งเลี้ยง ส่วนน้ำผึ้งเลี้ยงจะมีการเติมน้ำหวานจากน้ำตาลและเกสรเทียมซึ่งทำให้คุณค่าลดน้อยลงไป วิธีสังเกตว่าเป็นน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติทำได้โดยการนำน้ำผึ้งใส่ไว้ในขวด ตั้งทิ้งไว้สักพัก จะพบว่ามีเกสร ดอกไม้ลอยอยู่ด้านบน ซึ่งเป็นลักษณะตามธรรมชาติของน้ำผึ้งป่านั่นเอง

มาดูถึงคุณประโยชน์ของน้ำผึ้งกันบ้าง จะพบว่าในน้ำผึ้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นเดียวกับที่มีในผักใบเขียวและยังมีวิตามินบี ซี ฟอสฟอรัส แคลเซียม เกลือแร่ และกรดอะมิโน

สารสำคัญในน้ำผึ้ง

น้ำผึ้งประกอบด้วย

1.น้ำ ประมาณร้อยละ 20

2.น้ำตาล ประมาณร้อยละ 79 น้ำตาลชนิดต่างๆ เช่น กลูโคส ฟรักโทส และลีวูโลส  โดยมีปริมาณน้ำตาล “ฟรักโทส” มากกว่าน้ำตาล “กลูโคส” เล็กน้อย ทำให้น้ำผึ้งไม่ตกผลึก และมีรสหวานกว่าน้ำตาลชนิดอื่นๆ

3.กรด  ประมาณร้อยละ 0.5 กรดที่พบมาก คือ กรดกลูโคนิก วิตามิน (ไรโบฟลาวิน ไนอะซิน) เอนไซม์ ทำให้น้ำผึ้งมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย

4.แร่ธาตุ ประมาณร้อยละ 0.5 แร่ธาตุต่างๆ ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส โดยน้ำผึ้งที่มีสีเข้ม จะมีปริมาณแร่ธาตุสูงกว่าน้ำผึ้งที่มีสีอ่อน

จะเห็นได้ว่าองค์ประกอบหลักของน้ำผึ้ง คือน้ำตาล และเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและนำไปใช้ประโยชน์ได้ง่าย โดยน้ำผึ้ง 100 กรัม จะให้พลังงาน 303 แคลอรี

ประโยชน์ของน้ำผึ้ง

1. รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลและลดการอักเสบ
น้ำผึ้งถือว่าเป็นยารักษาแผลชั้นเลิศ โดยสามารถใช้แก้ไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้ผลชะงัดนัก โดยให้ใช้น้ำผึ้งทาบริเวณที่ถูกไฟไหม้น้ำร้อนลวก ยิ่งทาบ่อยยิ่งดี หรือถ้าเกิดถูกมีดบาดหรือมีบาดแผล หลังจากล้างทำความสะอาดแผลให้สะอาดแล้ว ให้น้ำผึ้งทาหรือจะใช้น้ำผึ้งผสมกับผงขมิ้นชัน คลุกเคล้าให้เข้ากันดี แล้วนำมาทาบริเวณที่เป็นแผล จะช่วยลดการอักเสบและช่วยให้แผลหายเร็ว เพราะทั้งน้ำผึ้งและขมิ้นชันนั้น มีสรรพคุณรักษาบาดแผล สมานเนื้อเยื่อและบำรุงผิวอีกด้วย

2. รักษาโรคผิวหนังจากเชื้อรา
ใช้ผงขมิ้นผสมน้ำผึ้งทาบริเวณกลากเกลื้อน วันละ 2 ครั้ง

3. ต้านข้ออักเสบ
ผสมน้ำส้มแอปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ช้อนชาลงในน้ำร้อน เติมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ชงดื่มวันละ 2 ครั้ง

4. แก้อาการท้องผูกและแก้ท้องเสีย
น้ำผึ้งเป็นทั้งยาระบายและแก้ท้องเสีย กล่าวคือถ้าเป็นน้ำผึ้งเก่าคือน้ำผึ้งที่มีอายุ 1 ปีขึ้นไปจะช่วยแก้ท้องเสีย แต่ถ้าเป็นน้ำผึ้งใหม่ประเภทเพิ่งเก็บจากรังไม่นานจะมีสรรพคุณเป็นยาระบาย โดยเฉพาะในเด็กเล็กๆ ก่อน 6 เดือน ชาจะเป็นยาระบายในเด็กอ่อนที่ปลอดภัยยิ่ง การใช้น้ำผึ้งแท้สักประมาณ 1 ช้อนชา ผสมน้ำต้มสุกสัก 3 ช้อนหรืออาจกินร่วมกับผักผลไม้ เช่น การกินกล้วยน้ำว้าสุกจิ้มน้ำผึ้งหรือมันต้มสุกจิ้มน้ำผึ้ง ช่วยลดอาการท้องผูกได้เช่นกัน

5. แก้นอนไม่หลับ
น้ำผึ้งเป็นยาระงับประสาทอ่อนๆ ชงน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นหรืออาจใส่ในชาดอกไม้ เช่น ชาดอกคาโมมายล์ ดื่มก่อนนอนจะช่วยให้หลับสบายขึ้น

6. บำรุงเลือด
เทน้ำผึ้งครึ่งช้อนโต๊ะใส่แก้ว บีบน้ำมะนาว 1 ซีก ใส่เกลือนิดหน่อยเติมน้ำร้อน ดื่มเป็นยาบำรุงเลือด

7. บรรเทาอาการไอ
ถ้าเป็นหวัดก็ให้ใช้น้ำผึ้งผสมกับน้ำคั้นจากขิงแก่  หรือใช้น้ำผึ้งผสมกับน้ำคั้นจากใบกะเพราแดงและน้ำคั้นจากใบเสนียด แก้ไอ และบรรเทาอาการหอบหืด ได้ผลชะงัดนักกับอาการไอที่ไม่ค่อยมีเสมหะ แต่ถ้าไอมีเสมหะ ก็จะใช้น้ำผึ้งผสมกับผงดีปลีแทน

8. เป็นอาหารสุขภาพสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
 

สำหรับด้านความงาม น้ำผึ้งมีสรรพคุณ ดังนี้

เพื่อผิวหนังที่ชุ่มชื้น
น้ำผึ้งเป็นผลิตผลจากธรรมชาติที่  ในน้ำผึ้งมีสารเพิ่มความชุ่มชื้น มีฮอร์โมนมีสารที่มีฤทธิ์สารต้านอนุมูลอิสระ จึงสามารถผสมในสมุนไพรอื่นที่มีสรรพคุณในการบำรุงผิวเช่น นม กล้วย มะละกอ ขมิ้น บัวบก มะม่วง เป็นต้น โดยพอกหน้า ทิ้งไว้สักครู่ประมาณ 5 นาทีแล้วล้างออก
สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวเสี้ยนหรือต้องการบำรุงผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ มีวิธีง่ายๆ ดังนี้ หลังจากล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นและเช็ดให้แห้งแล้ว นำกล้วยหอมครึ่งลูกมาบดผสมกับน้ำผึ้งไม่ผ่านความร้อน แล้วนำมาทาบนหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออก ให้ใช้น้ำผึ้งไม่ผ่านความร้อนจะมีเอนไซม์ ซึ่งทำให้หน้าคุณชุ่มชื่นและนุ่มนวลขึ้น

เพื่อผมเงางาม
หลังสระผมเสร็จนำน้ำผึ้งไม่ผ่านความร้อนผสมกับน้ำมะกอกอย่างละ 3 ช้อนโต๊ะ นำมาชโลมผมแล้วทิ้งไว้ซัก 3-5 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ผมคุณจะนิ่มและเงางามตามธรรมชาติปราศจากสารเคมีใดๆ

สรุป

คุณภาพของน้ำผึ้งที่ได้มานั้นย่อมขึ้นอยู่กับวัตถุดิบ หรือชนิดของเกสรดอกไม้ที่ผึ้งได้ไป รวมถึงแหล่งของพืชและพื้นดินนั้นๆ ที่ผึ้งเจริญเติบโตอยู่ ฉะนั้นการนำเอาน้ำผึ้งมาจึงต้องเลือกน้ำผึ้งที่ดีที่สุดมา เช่นเดียวกันกับการผลิตเครื่องสำอางที่มีการใช้น้ำผึ้งเป้นส่วนผสม จะต้องเลือกน้ำผึ้งที่มีคุณภาพ เพื่อให้สินค้าน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิง  http://www.th.wikipedia.org , https://www.doctor.or.th/

Guava Leaf Extract ส่วนประกอบเครื่องสำอาง

Guava Leaf Extract ส่วนประกอบเครื่องสำอาง

ฝรั่ง เป็นผลไม้ที่คนไทยต่างคุ้นชื่อกันอยู่แล้ว ด้วยรูปร่าง รสชาติหรือประโยชน์ต่อร่างกาย แต่รู้หรือไม่ว่าไม่ใช่แค่ผลของฝรั่งเท่านั้นที่เราสามารถทานแล้วดีต่อสุขภาพได้ แต่ใบฝรั่งนั้นก็มีสรรพคุณต่อร่างกายและผิวพรรณของเราอีกด้วย วันนี้เราไปดูกันว่าใบฝรั่งนั้นมีดีอย่างไร

โรงงานอาหารเสริม

ถิ่นกำเนิดฝรั่ง

ฝรั่ง คือ ผลไม้ ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกากลาง จากนั้นจึงได้มีการนำเข้ามาปลูกในประเทศไทย ฝรั่งเป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ชมพู่ เหมาะสำหรับการนำมาทานสด เพราะมีรสชาติหวานกรอบ ซึ่งฝรั่งพันธุ์ที่นิยมปลูกไว้รับประทานได้แก่ ฝรั่งแป้นสีทอง ฝรั่งกิมจู ฝรั่งไร้เม็ด และฝรั่งกลมสาลี่

ฝรั่งเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด โดยจัดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทุกชนิด ในฝรั่งน้ำหนัก 165 กรัม จะให้วิตามินซีสูงถึง 377 มิลลิกรัม ซึ่งมีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 5 เท่า

ฝรั่ง เป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากฝรั่งอุดมไปด้วยกากใยอาหารเมื่อรับประทานจะทำให้อิ่มนาน

สารสกัดจากใบฝรั่ง (Guava Leaf Extract)

สารสกัดใบฝรั่ง มีองค์ประกอบเป็นน้ำมันหอมระเหย ซึ่งประกอบด้วย Caryophyllene cineol นอกจากนี้ยังมี Tannin, sesquiter penoids และ triterpenoid compounds มีสรรพคุณ แก้ท้องเสีย ท้องร่วง ท้องเดิน เป็นยาห้ามเลือด ใส่แผลสด ใช้ใบ 2 – 3 ใบเคี้ยว ๆ ระงับกลิ่นปาก แก้ฝี เป็นยาล้างแผล ดูดหนองและถอนพิษบาดแผลื แก้เหงือกบวม แก้พิษเรื้อรัง แก้ปวดเนื่องจากเล็บขบ แก้แพ้ยุง

ใบฝรั่งมีฤทธิ์ต่อระบบทางดินอาหาร ลดการบีบรัดตัวของลำไส้ เพราะมีสารแทนนิน จัดเป็นยาสมานรักษาอาการท้องร่วงเฉียบพลันได้ดี ซึ่งเห็นนักเภสัชศาสตร์ มักนำยอดอ่อนชของฝรั่ง ปิ้งไฟต้มน้ำดื่ม หรือใช้ใบฝรั่ง 10 – 15 ใบบดผสมน้ำ 1 แก้ว กรองแล้วดื่ม 3 นาที เหยาะเกลือ ดื่มแก้ปวดท้อง และยังสามารถดับกลิ่นปาก ดับกลิ่นลมหายใจเหม็นได้อีกด้วย

นอกจากนี้ในใบฝรั่งยังมีสาร quercetetin มีฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์สาร prostaglandin ใช้รักษาโรคอหิวาตกโรค ต่อประสาท มีฤทธิ์คล้ายมอร์ฟีน ป้องกันโรคลักปิดลักเปิด มีวิตามินซีมาก ต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ดังนั้น ใบฝรั่งจึงถูกนำมาใช้ประโยชน์ทางยา เช่น แก้ท้องร่วง ล้างแผลสด แก้เหงือกบวม พิษเรื้อรัง ดูดหนองฝี รักษาโรคตามผิวหนัง แก้แพ้ยุง ดับกลิ่นปาก กลิ่นสุรา ผสมปรุงกลิ่นเครื่องสำอาง และน้ำยาบ้วนปาก

ประโยชน์ของใบฝรั่ง

  • มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง
  • ช่วยชะลอวัยและริ้วรอยต่าง ๆ
  • ช่วยดับกลิ่นปาก
  • ช่วยบรรเทาอาการปวดฟัน เหงือกบวม
  • ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิดหรือโรคเลือดออกตามไรฟัน
  • ช่วยรักษาอาการท้องเสีย ป้องกันโรคลำไส้อักเสบ
  • ช่วยรักษาอาการท้องเดิน ท้องร่วง
  • ใช้แก้แพ้ยุง
  • ใช้รักษาบาดแผล
  • ใช้เป็นยาล้างแผล ดูดหนอง ถอนพิษบาดแผล แก้พิษเรื้อรัง น้ำกัดเท้า

การนำสารสกัดใบฝรั่งไปใช้

  • ใช้ผสมในผลิตภัณฑ์ครีมให้ความชุ่มชื้นผิว โลชั่นทามือ
  • ใช้ผสมในผลิตภัณฑ์ครีมรักษาสิว ลบเลือนริ้วรอยแห่งวัย
  • ด้วยคุณสมบัติการปกป้องผิว สามารถใช้ผสมนผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดได้
  • ปริมาณการใช้ 1% – 5% ผสมกับผลิตภัณฑ์ โดยเริ่มจากปริมาณน้อยแล้วทดสอบประสิทธิภาพ สามารถเพิ่มอัตราส่วนได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ทุกครั้ง

สรุป

สารสกัดใบฝรั่งนั้นมีคุณสมบัติทั้งยาและผสมลงเครื่องสำอางเพื่อบำรุงผิวพรรณ แต่ส่วนมักจะนำสารสกัดนี้มักจะใช้ในการผลิตเครื่องสำอางมากกว่าอาหารเสริม เนื่องจากมีสรรพคุณต้านการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการแพ้  และอุดมไปด้วยวิตามินซี

จึงช่วยเสริมประสิทธิภาพในการลดสิวอักเสบ บรรเทาอาการถูกทำลายของผิวหนังจากการเกิดสิว ลดริ้วรอยและจุดด่างดำจากสิว นิยมใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์รักษาสิว ลดอาการอักเสบของสิว ผลิตภัณฑ์สบู่และโฟมล้างหน้า

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มาข้อมูล

www.bth.co.th

https://hd.co.th

www.asianbioplex.com

www.chemipan.com

Carrot Extract ส่วนประกอบเครื่องสำอาง

Carrot Extract ส่วนประกอบเครื่องสำอาง

แครอท คือ พืชในแถบเอเชียตะวันออกและเอเชียกลาง เป็นที่นิยมปลูกและรับประทานทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีหลายขนาดตั้งแต่ขนาดเล็กเท่าดินสอไปจนถึงขนาดใหญ่ และมีหลากหลายสีเช่น สีม่วง สีเหลือง แต่ที่นิยมรับประทานนั้นจะเป็นสีส้ม และยังจัดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอีกด้วย

แครอทเป็นผักหรือผลไม้

แครอท เป็นผัก เพราะแครอทคือส่วนของราก ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของพืชนั่นเอง แครอทจึงไม่ใช่ผลไม้

แครอทอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ เช่น เบตาแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี 2 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และยังมีสาระสำคัญคือสาร ฟอลคารินอล (falcarinol) ซึ่งช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็งเป็นต้น สำหรับประโยชน์ของแครอทที่เด่น ๆ ก็จะเป็นการนำมาใช้ประกอบอาหารได้อย่างหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นของหวานของคาว ทั้งผัด ทอด แกง ต้ม ซุป สลัด ยำ และยังมีเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอย่างน้ำแครอทปั่นอีกด้วย

สารสกัดแครอท

สารสกัดแครอท อุดมไปด้วยแคโรทีน มีคุณสมบัติช่วยควบคุมความมัน กระชับรูขุมขน อุดมไปด้วยสารแคโรทีน, วิตามินซี, วิตามินบี 3, วิตามินบี 6 ซึ่งจะช่วยบำรุงผิว ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน เพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิวหนัง เหมาะสำหรับผิวที่แพ้ง่าย

ประโยชน์ของสารสกัดแครอทต่อผิวพรรณ

  • วิตามินเอ จะเป็นตัวช่วยในการเสริมสร้างการเจริญเติบโตเนื้อเยื่อของร่างกาย ซึ่งแครอทอุดมไปด้วยวิตามินเอ ซึ่งอยู่ในรูปของเบต้าแคโรทีน
  • ช่วยชะลอกระบวนการแก่ เนื่องจากแครอทเองมีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมาก ซึ่งอนุมูลอิสระเป็นสาเหตุของปัญหาผิว ริ้วรอย ผิวหนังอักเสบ
  • ปกป้องผิวจากแสงแดด เนื่องจากแครอทอุดมไปด้วยแคโรทีนอยด์ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับแสงแดด และช่วยรักษาผิวไหม้จากแดด ด้วยการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • เสริมสร้างการสร้างคอลลาเจน โดยวิตามินซีในแครอท จะช่วยการสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญ สำหรับความยืดหยุ่นของผิว ลดริ้วรอย ชะลอการแก่
  • ช่วยลดความหมองคล้ำ จุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
  • ลดและปกป้องผิวจากการเกิดสิว เนื่องจากแครอทจะมี Essential oil ที่จะช่วยให้ระบบการย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ ก็จะช่วยลดการเกิดสิวได้
  • รักษาแผลเป็น หนึ่งในประโยชน์ของแครอทการมีผลทางการรักษาบรรเทาแผลเป็น ด้วยวิตามินเอ ที่มากในแครอท และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการสร้างเซลล์เนื้อเยื่อ

สรุป

แครอทเป็นผัก ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ ซึ่งช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็ง รวมไปถึง ช่วยบำรุงผิว ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน เพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิวหนัง เหมาะสำหรับผิวที่แพ้ง่าย

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มา : https://kovic.co.th/

อัพเดทสารสกัดเทรนใหม่ สำหรับผิวกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย

อัพเดทสารสกัดเทรนใหม่ สำหรับผิวกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย

เทรนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หน้าผม ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นในวงการธุรกิจเครื่องสำอางก็จะต้องมีการอัพเดทเทรนเหมือนกัน เพราะเมื่อเวลาผ่านไปเทคโนโลยีหรือสารสกัดต่าง ๆ ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้นถ้าหากคุณอยากเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางที่ทันสมัย คุณจะต้องคอยอัพเดทเทรนอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอยยิ่งต้องอัพเดตในไวอยู่ตลอด เพราะในวงการนี้การแข่งขันค่อนข้างสูง ถ้าคุณไม่ทำให้สินค้าให้มีความทันสมัย สินค้าของคุณก็จะถูกกลืนหายไปในตลาด ดังนั้นวันนี้เราจะมาอัพเดทสารสกัดที่ช่วยเรื่องผิวขาวกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอยมาฝากเจ้าของแบรนด์ที่กำลังจะผลิตเครื่องสำอางมาฝากกัน

JeJu Sakura Flower Extract

สารสกัดจากดอกซากุระเกาหลี เป็นสายพันธุ์ที่มีปริมาณสารกลุ่ม flavonoid, Vitamin C และ Phenolic สูง เป็นสาร Anti – Oxidant ที่มีประสิทธิภาพ ดูแลผิวจากการทำร้ายของอนุมูลอิสระที่มากับแสงแดด หรือรังสีต่าง ๆ ช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใส อย่างเป็นธรรมชาติ ริ้วรอยแลดูจางลง

White Balance

White Balance ถูกสกัดมาจากสาร Phenol ที่เป็นสารอนุพันธ์จากพืชธรรมชาติที่มีคุณสมบัติหลายอย่างแล้ว ความพิเศษคือ Ingredient ตัวนี้จะเป็น Micro Bioactive คือจะดูแลผิวโดยไม่ทำร้ายแบคทีเรีย Probiotic บนผิว ส่งผลดีกับการดูแลผิวคือ ช่วยดูแลผิวที่หมองคล้ำให้แลดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ รอยแดง แลดูจางลง และผิวแลดูสม่ำเสมอ

EnerO2

สารที่พัฒนาด้วยคอนเซฟ Energy & Moisturizing การใช้ชีวิตในปัจจุบันที่ผู้คนใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ผิวจึงเกิดความเหนื่อยล้า ผิวหน้าแลดูหมองคล้ำไม่สดใส สารตัวนี้จะมาช่วยทำให้ปัญหานั้นจางไป ผิวแลดูกระจ่างใส ผิวดูสม่ำเสมอ แลดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยสารผสมของ Protein Complex อันส่วนประกอบธรรมชาติของผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นและริ้วรอยดูจางลง

Saponaria Plants Stem Cell

สารนวัตกรรมเพื่อผิวดูอ่อนเยาว์จากสารต้นอ่อนของพืชหายากบนเทือกเขาเอลฟ์ Saponaria Pumila ดอกไม้ธรรมชาติที่ต้องปรับตัว ให้อาศัยในธารน้ำแข็งที่หนาวเย็นของเทือกเขาแอลป์ ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อรักษาสภาพให้คงอยู่ผ่านเทคโนโลยีการสกัดที่ทำให้สารสกัดที่มีประสิทธิภาพช่วยในการปรนนิบัติผิวที่มีริ้วรอย ทำให้ผิวแลดูเรียบเนียน รู้สึกยืดหยุ่นและรู้สึกกระชับขึ้น

Brightiplex

เป็นสารที่รวบรวม สารสกัดจากพืชสมุนไพรที่โดดเด่นในการบำรุงผิวทั้งจากจีน เกาหลีและญี่ปุ่น รวมไว้ในตัวเดียวกัน เช่นสารสกัดจากรากโบตั๋นที่ได้ชื่อว่าเป็น The king of flower สารสกัดจากราก Oughon ที่เป็นสมุนไพรจีน นอกจากนี้ยังผสมผสานกับสารตระกูล Whitening อย่าง แอลฟาอัลบูติน ช่วยดูแลผิวหมองคล้ำ

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://kovic.co.th/