เรื่อง

สร้างแบรนด์อาหารเสริม

Step Marketing ของธุรกิจสุขภาพและความงาม

Step Marketing ของธุรกิจสุขภาพและความงาม

ธุรกิจสุขภาพและความงามถือเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเมื่อไม่นานมานี้เทรนด์รักสุขภาพนั้นเป็นกระแสอย่างมาก และมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ COVID – 19  ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่หันมารักษาสุขภาพมาขึ้นทั้งภายในและภายนอก รวมถึงการใส่หน้ากากอนามัยที่ทำให้เกิดปัญหาผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นการอุดตัน อับชื้น หรือการเกิดสิวเป็นต้น

สร้างแบรนด์อาหารเสริม

ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ธุรกิจสุขภาพและความงามมากมาย จนนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นทั้งอาหารเสริมและเครื่องสำอาง ทำให้แบรนด์บางแบรนด์สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด แต่ในขณะที่บางแบรนด์กลับไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่หวังไว้และหายไปในที่สุด หรือแม้แต่มีแบรนด์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาอย่างกับดอกเห็ด

แต่การที่มีแบรนด์อาหารเสริมและเครื่องสำอางต่าง ๆ เกิดขึ้นมามากมายนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เรื่องที่ใหญ่จริง ๆ คือ ในฐานะเจ้าของแบรนด์จะทำอย่างไรที่สามารถทำให้ธุรกิจและแบรนด์ของเรานั้นอยู่รอดและเติบโตเป็นที่รู้จักได้ในสถานการณ์แบบนี้ ดังนั้นในวันนี้ทาง Kovic จึงได้รวบรวม Step Marketing สำหรับธุรกิจสุขภาพและความงามในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมและเครื่องสำอาง ที่ทำตามแล้วแบรนด์ของเราจะไม่จมหายไปจากวงการธุรกิจนี้อย่างแน่นอน

Step 1 : Brand Awearness

การทำธุรกิจหรือสร้างแบรนด์ของตัวเองสักแบรนด์หนึ่งขึ้นมา เปรียบเสมือนเราสร้างตัวตนคน ๆ หนึ่งขึ้นมา ยิ่งปัจจุบันโลกเราเข้าถึงโซเชียลมีเดียมากมาย เราจำเป็นที่จะต้องสร้างตัวตนของเราขึ้นมาในโลกออนไลน์ด้วย เท่านั้นยังไม่พอต้องทำให้พวกเขาเห็นเราในทุก ๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็นช่องทาง Facebook, Instagram, Twitter, Youtube, Google และ Line เป็นต้น

ซึ่งช่องทางเหล่านี้จะช่วยให้แบรนด์ของเราได้เข้าถึง ทำความรู้จักกับลูกค้า บอกข่าวสารต่าง ๆ แก่พวกเขา เกิดการซื้อขายเกิดขึ้น และยังสามารถรักษาลูกค้าของเราไว้กับเราไปนาน ๆ ได้อีกด้วย

Step 2 : ทำให้เราเป็นที่สนใจ

ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ต้องสามารถทำให้แบรนด์ของเราเป็นที่พูดถึงให้ได้ และถ้ายิ่งวงกว้างเท่าไหร่ยิ่งดี การทำให้เราเป็นที่สนใจบนโลกออนไลน์ ยกตัวอย่างเช่น การสร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ เจ๋ง ๆ หรือ คอนเทนต์ที่ตามกระแส ยิ่งเราจับจุดความสนใจของลูกค้ามากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งรู้ว่าคอนเทนต์แบบไหน แนวไหนที่จะโดนใจพวกเขา และทำให้เขารู้สึกอยากติดตามคอนเทนต์เราอยู่ตลอด

แต่อยากลืมว่าการเน้นการขายของมากเกินไปในคอนเทนต์ของเรา จะทำให้ลูกค้ารู้สึกถูกยัดเยียดมากเกินไป จะทำให้กลายเป็นไม่อยากติดตามเรา หรือจะเป็นการทำ Search Engine (SEO) ใน Google เพื่อให้เวลาลูกค้าค้นหาสินค้าประเภทเกี่ยวกับสุขภาพหรือความงาม แบรนด์ของเราจะขึ้นมาให้เขาเห็นเราเป็นอันดับต้น ๆ ง่านต่อการเข้าถึงและทำให้เพิ่มความน่าเชื่อถือไปได้ด้วย

Step 3 : เสนอ How to แก้ปัญหาอย่างแนบเนียน

เมื่อลูกค้าเริ่มรู้จักกับเราแล้ว แต่เราก็อยากให้เขาสนิทกับเรามากยิ่งขึ้น มาใช้บริการหรือซื้อผลิตภัณฑ์ของเรามากขึ้น คอนเทนต์ How to แก้ปัญหาในเรื่องของสุขภาพความงามต่าง ๆ ที่ลูกค้าประสบพบเจอนั้น จะยิ่งเป็นการเพิ่มความน่าสนใจ และความอยากสนิทกับเรามากยิ่งขึ้น แบรนด์ของเราอาจจะทำคอนเทนต์ How to ตบเข้าด้วยวิธีรักษาอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการมาใช้แบรนด์ของเรานั่นเอง ถือว่าเป็นการขายของไปในตัวก็ว่าได้

Step 4 : เสนอบริการที่ตอบโจทย์

ขึ้นชื่อเรื่องของสุขภาพและความงาม ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการก็คงจะหนีไม่พ้นกับการเข้ามาใช้บริการเพื่อรักษาปัญหา หรืออาการที่เป็นอยู่ ซึ่งในขั้นนี้จะเป็นการเมคชัวร์ให้กับลูกค้าว่าเรานั้นสามารถรักษา หรือสินค้าของเรามีสรรพคุณที่ช่วยบรรเทาอาการ หรือบำรุงได้จริง

เราแค่ต้องมีข้อมูลและบริการต่าง ๆ ขึ้นตามเว็บไซต์ หรือตามสื่อโซเชียลขอเรา แยกตามประเภทของสินค้า หรือบริการ หรือปัญหาให้เห็นชัดเจน และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาได้ รวมถึงการมีพนังงานคอยตอบคำถามของพวกเขาได้ รวมถึงการมีพนักงานคอยตอบคำถามของพวกเขา และแนะนำการใช้บริการที่ตรงจุดก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้น

Step 5 : ดูแลลูกค้าเหมือนคนที่เรารัก

เมื่อพวกเขาเข้ามาเป็นลูกค้าของเราแล้ว สิ่งที่สำคัญมาก ๆ เลยก็คือ การรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ ดูแลพวกเขาให้เหมือนกับคนที่เรารัก โปรดจำไว้ว่าการรักษาฐานลูกค้าเดิม ประหยัดต้นทุนกว่าการสร้างลูกค้าใหม่ เพราะฉะนั้นเราจึงควรดูแลรักษาเขาเป็นอย่างดี

ตัวอย่างการรักษาฐานลูกค้าเช่น การทำ CRM ไม่ว่าจะเป็นสิทธิพิเศษต่าง ๆ หรือมี Line@ แจ้งข้อมูลข่าวสาร สิทธิประโยชน์ หรือเสนอคอนเทนต์อยู่เป็นประจำ ลูกค้าจะรู้สึกว่าพวกเขาเป็นพิเศษ และคนสำคัญ ซึ่งการทำ CRM นั้นจะสามารถช่วยให้เรารักษาฐานลูกค้าของเราไว้ได้ตลอด

Step 6 : อัพเดทข้อมูลวางแผนการตลาดสม่ำเสมอ

ถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญมาก ทางแบรนด์ต้องใส่ใจในข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่จะสื่อสารให้กับลูกค้าได้รับรู้ สื่อช่องทางไหนมีผลลัพธ์เป็นอย่างไร สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากน้อยเพียงไหน ช่องทางที่ดีอยู่แล้วก็ให้รักษามาตรฐานแบบนี้ไว้ ส่วนช่องทางที่ผลตอบรับน้อยหน่อยก็ให้นำมาวิเคราะห์ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น

ซึ่งจะเป็นแนวทางในการวางแผนการตลาดของแบรนด์ต่อไปได้ว่าเราควรมุ่งไปในทิศทางไหน มีนวัตกรรม เทคโนโลยีอะไรใหม่ ๆ เข้ามาบ้าง เราสามารถที่จะแสดงจุดเด่นของเราได้อย่างไร โดยทั้งหมดก็จะส่งผลมาถึงยอดขายที่เพิ่มมากขึ้นด้วยนั่นเอง

สรุป

การทำ Marketing นั้นสามารถทำให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักของหมู่ผู้บริโภคและสามารถทำให้อยู่รอดในวงการที่มีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพและความงามจำหน่ายอยู่เต็มท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริม เครื่องสำอาง ครีม หรือสกินแคร์ต่าง ๆ

ซึ่งในความเป็นจริงนอกจาก Marketing จะดีแล้วนั้น คุณภาพของผลิตภัณฑ์ก็ต้องดีด้วย เพราะการสร้างแบรนด์อาหารเสริมหรือเครื่องสำอางเป็นของตัวเองสักแบรนด์ คุณภาพถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะถ้าหากการตลาดดี บรรจุภัณฑ์สวยน่าใช้แค่ไหน แต่คุณภาพของผลิตภัณฑ์แย่หรือไม่ได้คุณภาพ ก็ไม่อาจสร้างยอดขายให้กับแบรนด์ได้ ดังนั้นนอกจากจะต้องทำการตลาดดีแล้ว การเลือกโรงงานผลิตอาหารเสริม ผลิตเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ให้ออกมามีคุณภาพก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่แบรนด์จะต้องใส่ใจไม่แพ้กัน

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน ในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตครีม รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มา : taokaemai.com

วิตามิน กับ อาหารเสริม ดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่

วิตามิน กับ อาหารเสริม ดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่

ในปัจจุบันนี้ ตลาดของวิตามินและอาหารเสริมนั้นแพร่กระจายไปอย่างกว้างขว้าง สังเกตได้จากวิตามินและอาหารเสริมมากมายหลายยี่ห้อวางขายอยู่เต็มท้องตลาด มีทั้งสรรพคุณที่ช่วยบำรุง เปลี่ยนผิวเสียให้เป็นผิวสวย ลดน้ำหนัก ลดไขมัน และอื่น ๆ อีกมากมาย

ซึ่งก็มีผู้บริโภคหลายคนทานวิตามินและอาหารเสริมรวมกันหลายประเภท เพื่อหวังการบำรุงแบบเต็มพิกัด แต่บางคนก็ยังไม่กล้าทานเพราะกลัวผลเสียที่อาจตามมา ดังนั้นในวันนี้ Kovic จะพาไปไขข้อข้องใจ ว่าจริง ๆ แล้วการทานวิตามินหรืออาหารเสริมนั้น ดีต่อสุขภาพของเราจริงหรือไม่ ถ้าอยากทาน จะต้องทานอย่างไรให้ได้ผล เราไปดูพร้อม ๆ กันเลย

วิตามิน คืออะไร

วิตามิน คือ สารอาหารที่ร่างกายของเราต้องการ เพื่อให้เซลล์ใช้ในการทำงานเจริญเติบโตและมีพัฒนาการที่ปกติ เราสามารถแบ่งวิตามินออกได้ 2 ประเภทหลัก ตามกลไกที่เกิดขึ้นในร่างกาย โดยประเภทแรกก็คือ วิตามินที่ละลายได้ในไขมัน ประกอบด้วย วิตามิน A, D, E และ K วิตามินเหล่านี้จะถูกสะสมในเนื้อเยื่อไขมันในร่างกาย ซึ่งเป็นแหล่งที่สามารถดูดซึมไปใช้ได้ง่าย

วิตามินอีกประเภท คือ วิตามินที่สามารถละลาบยได้ในน้ำ เช่น วิตามิน B และ C วิตามินกลุ่มนี้ร่างกายจะนำเข้าไปใช้ทันที โดยไม่ได้มีการเก็บสะสมไว้ในร่างกาย วิตามินส่วนเกินนอกเหนือจากที่ร่างกายต้องการใช้จะถูกขับออกผ่านปัสสาวะ ยกเว้นวิตามิน B12 ซึ่งสามารถสะสมอยู่ในตับได้เป็นปี ๆ

อาหารเสริม คืออะไร

จริง ๆ แล้ว ความหมายของคำว่า “อาหารเสริม” ในบัญญัติของเภสัชกรรมคือ อาหารจากธรรมชาติที่ต้องทานเสริมเป็นพิเศษจากมื้ออาหารหลัก 3 มื้อ เพื่อดูแลสุขภาพในภาวะต่าง ๆ เช่น ให้ร่างกายเจริญเติบโตได้ตามวัย เสริมร่างกายจากการขาดอาหาร ช่วยรักษาโรคบางชนิด หรือช่วยเสริมให้สุขภาพดีทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น

วิตามิน กับ อาหารเสริม ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร

วิตามินและอาหารเสริม แต่ละตัวมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงแตกต่างกันออกไป บางตัวช่วยบำรุงผม บางตัวช่วยบำรุงเล็บ บางตัวช่วยเสริมธาตุอาหารที่ร่างกายขาดไป ฟังดูแล้วมีประโยชน์ แต่นอกจากช่วยบำรุงแล้ว วิตามินและอาหารเสริมเหล่านี้ส่งผลเสียต่อร่างกายของเราได้ หากทานแบบไม่ถูกวิธี

วิตามินและอาหารเสริมทำให้ตับทำงานหนักขึ้น

วิตามินและอาหารเสริม หากผลิตมาแบบไม่ได้มาตรฐานมักจะมีสารเคมีปะปนมาด้วย หากทานวิตามินและอาหารเสริมเหล่านี้มาก ๆ ก็จะทำให้เรารับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว นานวันเข้า ตับก็จะยิ่งทำงานหนัก เพราะต้องคอยกรองสารอาหารที่จำเป็นไปพร้อม ๆ กัน กับกำจัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก เพิ่มโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้ตับและไตเสื่อมไวขึ้นนั่นเอง

วิตามินและอาหารเสริมที่ดูดซึมไม่หมดจะตกค้างสะสมอยู่ในร่างกาย

วิตามินและอาหารเสริมบางชนิดที่ละลายในน้ำได้ไม่ดี  ร่างกายจะดูดซึมไปใช้ยากจนเกิดเป็นสารตกค้างอยู่ เมื่อทานเป็นปริมาณมากต่อเนื่องกันก็จะตกค้างอยู่ในร่างกาย ซึ่งส่งผลเสียต่อตับ หรืออาจทำให้เลือดไม่แข็งตัว วิตามินบางชนิดหากร่างกายได้รับมากเกินไป ยิง่ทำให้เกิดนิ่วในไตได้อีกด้วย

ทานวิตามินหรืออาหารเสริมอาจทำให้โรคประจำตัวกำเริบ

วิตามินหรืออาหารเสริมบางอย่าง แม้จะมีประโยชน์กับคนทั่วไป แต่อาจเป็นอันตรายกับคนที่มีโรคประจำตัวเช่นวิตามินซี ที่มีผลกระทบ ทำให้เลือดแข็งตัวช้าขึ้น ทั้งยังเร่งให้เม็ดเลือดแดงแตกง่าย จึงเป็นอันตรยกับผู้ป่วยในกลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับเม็ดเลือดแดง หรือวิตามินเอ ที่ดูดซึมยาก คั่งค้างและสะสมในตับได้ง่าย จึงไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคไต

คอลลาเจนและกลูต้า อาหารเสริมที่ต้องระวัง

คอลลาเจนและกลูต้า อาหารเสริมยอดฮิตสำหรับคนอยากผิวขาวใสเต่งตึง แต่อันที่จริงแล้ว อาหารเสริมทั้ง 2 อย่างนี้ ยังไม่มีผลการวิจัยไหนที่จะยืนยันคุณสมบัติ ผลลัพธ์ที่แท้จริง รวมไปถึงผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายได้ ถือเป็นอาหารเสริม 2 ชนิดที่ควรระมัดระวังให้ดีก่อนตัดสินใจทาน

วิตามินกับอาหารเสริม ทานอย่างไรให้ได้ผล

ไม่ใช่ว่า วิตามินและอาหารเสริม จะส่งผลเสียไปซะหมด หากเลือกทานให้ดี ทานให้ถูก ก็จะช่วยบำรุงร่างกายได้อย่างแน่นอน

เลือกกินวิตามินกลุ่มละลายน้ำได้

หากต้องการทานวิตามิน ให้เลือกทานวิตามินที่ละลายในน้ำได้ดี เช่นวิตามินซี วิตามินบี หรือโฟเลต เพราะร่างกายจะสามารถดูดซึมไปใช้ได้ง่าย ไม่สะสมตกค้าง ไม่ทำให้ตับหรือไตต้องทำงานหนักมากเกินไป

เลือกอาหารเสริมที่เป็นโมเลกุลขขนาดเล็ก

สำหรับอาหารเสริม ก็ควรเลือกอาหารเสริมที่ผลิตแบบได้มาตรฐาน เป้นอาหารเสริมที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก ก็จะทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่า และไม่ตกค้างสะสมอยู่ในร่างกายเช่นกัน

อ่านฉลากบรรจุภัณฑ์วิตามิน / อาหารเสริม ให้ละเอียด และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

วิตามินและอาหารเสริมแต่ละชนิด จะมีวิธีการทานแตกต่างกัน บางชนิดทานครั้งเดียวตอนเช้า บางชนิดทานครั้งเดียวก่อนนอน หรือบางชนิดทานสามครั้งหลังอาหาร นอกจากนั้นยังมีข้อควรระมัดระวังและคำแนะนำอื่น ๆ ดังนั้น หากต้องการทานอาหารเสริม หรือวิตามินให้เห็นผล ควรอ่านฉลากบรรจุภัณฑ์ให้ละเอียด และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ตรวจร่างกายก่อนทานวิตามิน / อาหารเสริม

ร่างกายของคนเรานั้นมีข้อกำหนดและขีดจำกัดอยู่หลายประการ การจะทานวิตามินหรืออาหารเสริมให้เห็นผล จึงควรปรึกษาแพทย์ และเข้ารับการตรวจร่างกายหาปริมาณวิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ก่อน เพื่อเลือกทานแต่วิตามินหรืออาหารเสริม ที่ร่างกายของเราขาดไป หรือได้รับไม่เพียงพอเท่านั้น

สรุป

อาหารเสริม / วิตามินบางอย่าง ถ้าได้รับมากเกินความจำเป็น ร่างกายก็จะกำจัดออกหรือถ้ากำจัดออกไม่หมด ก็จะตกค้างอยู่ในร่างกาย นอกจากจะไม่ได้ประโยชน์และยังให้โทษ ทั้งยังทำให้เสียเงินโดยใช่เหตุอีกด้วย

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มาของข้อมูล

https://www.officemate.co.th/blog/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1/

โรงงานอาหารเสริม

น้ำผึ้ง เพื่อสุขภาพและความงาม

น้ำผึ้ง เพื่อสุขภาพและความงาม

น้ำผึ้ง คือ น้ำหวานที่ผึ้งเก็บมาจากต่อมน้ำหวานของดอกไม้ โดยผึ้งจะกลืนน้ำหวานลงสู่กระเพาะน้ำหวาน ซึ่งจะมีเอนไซม์ช่วยย่อยน้ำหวานแล้วนำมาเก็บไว้ในหลอดรวงผึ้ง จากนั้นน้ำผึ้งค่อยๆบ่มตัวเองโดยการระเหยน้ำออกไปจนน้ำผึ้งมีปริมาณน้ำตามที่เข้มข้นขึ้นจนได้ระดับที่เหมาะสมกับการเก็บรักษาผึ้งงานก็จะปิดฝาหลอดรวง เราเรียกน้ำผึ้งนี้ว่า “น้ำผึ้งสุก” เป็นน้ำผึ้งที่ได้มาตรฐาน คือมีน้ำอยู่ไม่เกินร้อยละ 20-21  คนโบราณจึงนิยมให้ใช้ น้ำผึ้งเดือนห้า เพราะปริมาณน้ำน้อยและมีดอกไม้หลายชนิดบานในช่วงเวลาดังกล่าว

โรงงานอาหารเสริม

คุณภาพของน้ำผึ้งที่ได้มานั้นย่อมขึ้นอยู่กับวัตถุดิบ หรือชนิดของเกสรดอกไม้ที่ผึ้งได้ไป รวมถึงแหล่งของพืชและพื้นดินนั้นๆ ที่ผึ้งเจริญเติบโตอยู่ เพราะฉะนั้นน้ำผึ้งที่ได้จากรังผึ้งในป่าใหญ่ จึงมีความสมบูรณ์และมีแร่ธาตุอาหารที่แตกต่างจากน้ำผึ้งเลี้ยง ส่วนน้ำผึ้งเลี้ยงจะมีการเติมน้ำหวานจากน้ำตาลและเกสรเทียมซึ่งทำให้คุณค่าลดน้อยลงไป วิธีสังเกตว่าเป็นน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติทำได้โดยการนำน้ำผึ้งใส่ไว้ในขวด ตั้งทิ้งไว้สักพัก จะพบว่ามีเกสร ดอกไม้ลอยอยู่ด้านบน ซึ่งเป็นลักษณะตามธรรมชาติของน้ำผึ้งป่านั่นเอง

มาดูถึงคุณประโยชน์ของน้ำผึ้งกันบ้าง จะพบว่าในน้ำผึ้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นเดียวกับที่มีในผักใบเขียวและยังมีวิตามินบี ซี ฟอสฟอรัส แคลเซียม เกลือแร่ และกรดอะมิโน

สารสำคัญในน้ำผึ้ง

น้ำผึ้งประกอบด้วย

1.น้ำ ประมาณร้อยละ 20

2.น้ำตาล ประมาณร้อยละ 79 น้ำตาลชนิดต่างๆ เช่น กลูโคส ฟรักโทส และลีวูโลส  โดยมีปริมาณน้ำตาล “ฟรักโทส” มากกว่าน้ำตาล “กลูโคส” เล็กน้อย ทำให้น้ำผึ้งไม่ตกผลึก และมีรสหวานกว่าน้ำตาลชนิดอื่นๆ

3.กรด  ประมาณร้อยละ 0.5 กรดที่พบมาก คือ กรดกลูโคนิก วิตามิน (ไรโบฟลาวิน ไนอะซิน) เอนไซม์ ทำให้น้ำผึ้งมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย

4.แร่ธาตุ ประมาณร้อยละ 0.5 แร่ธาตุต่างๆ ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส โดยน้ำผึ้งที่มีสีเข้ม จะมีปริมาณแร่ธาตุสูงกว่าน้ำผึ้งที่มีสีอ่อน

จะเห็นได้ว่าองค์ประกอบหลักของน้ำผึ้ง คือน้ำตาล และเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและนำไปใช้ประโยชน์ได้ง่าย โดยน้ำผึ้ง 100 กรัม จะให้พลังงาน 303 แคลอรี

ประโยชน์ของน้ำผึ้ง

1. รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลและลดการอักเสบ
น้ำผึ้งถือว่าเป็นยารักษาแผลชั้นเลิศ โดยสามารถใช้แก้ไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้ผลชะงัดนัก โดยให้ใช้น้ำผึ้งทาบริเวณที่ถูกไฟไหม้น้ำร้อนลวก ยิ่งทาบ่อยยิ่งดี หรือถ้าเกิดถูกมีดบาดหรือมีบาดแผล หลังจากล้างทำความสะอาดแผลให้สะอาดแล้ว ให้น้ำผึ้งทาหรือจะใช้น้ำผึ้งผสมกับผงขมิ้นชัน คลุกเคล้าให้เข้ากันดี แล้วนำมาทาบริเวณที่เป็นแผล จะช่วยลดการอักเสบและช่วยให้แผลหายเร็ว เพราะทั้งน้ำผึ้งและขมิ้นชันนั้น มีสรรพคุณรักษาบาดแผล สมานเนื้อเยื่อและบำรุงผิวอีกด้วย

2. รักษาโรคผิวหนังจากเชื้อรา
ใช้ผงขมิ้นผสมน้ำผึ้งทาบริเวณกลากเกลื้อน วันละ 2 ครั้ง

3. ต้านข้ออักเสบ
ผสมน้ำส้มแอปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ช้อนชาลงในน้ำร้อน เติมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ชงดื่มวันละ 2 ครั้ง

4. แก้อาการท้องผูกและแก้ท้องเสีย
น้ำผึ้งเป็นทั้งยาระบายและแก้ท้องเสีย กล่าวคือถ้าเป็นน้ำผึ้งเก่าคือน้ำผึ้งที่มีอายุ 1 ปีขึ้นไปจะช่วยแก้ท้องเสีย แต่ถ้าเป็นน้ำผึ้งใหม่ประเภทเพิ่งเก็บจากรังไม่นานจะมีสรรพคุณเป็นยาระบาย โดยเฉพาะในเด็กเล็กๆ ก่อน 6 เดือน ชาจะเป็นยาระบายในเด็กอ่อนที่ปลอดภัยยิ่ง การใช้น้ำผึ้งแท้สักประมาณ 1 ช้อนชา ผสมน้ำต้มสุกสัก 3 ช้อนหรืออาจกินร่วมกับผักผลไม้ เช่น การกินกล้วยน้ำว้าสุกจิ้มน้ำผึ้งหรือมันต้มสุกจิ้มน้ำผึ้ง ช่วยลดอาการท้องผูกได้เช่นกัน

5. แก้นอนไม่หลับ
น้ำผึ้งเป็นยาระงับประสาทอ่อนๆ ชงน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นหรืออาจใส่ในชาดอกไม้ เช่น ชาดอกคาโมมายล์ ดื่มก่อนนอนจะช่วยให้หลับสบายขึ้น

6. บำรุงเลือด
เทน้ำผึ้งครึ่งช้อนโต๊ะใส่แก้ว บีบน้ำมะนาว 1 ซีก ใส่เกลือนิดหน่อยเติมน้ำร้อน ดื่มเป็นยาบำรุงเลือด

7. บรรเทาอาการไอ
ถ้าเป็นหวัดก็ให้ใช้น้ำผึ้งผสมกับน้ำคั้นจากขิงแก่  หรือใช้น้ำผึ้งผสมกับน้ำคั้นจากใบกะเพราแดงและน้ำคั้นจากใบเสนียด แก้ไอ และบรรเทาอาการหอบหืด ได้ผลชะงัดนักกับอาการไอที่ไม่ค่อยมีเสมหะ แต่ถ้าไอมีเสมหะ ก็จะใช้น้ำผึ้งผสมกับผงดีปลีแทน

8. เป็นอาหารสุขภาพสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
 

สำหรับด้านความงาม น้ำผึ้งมีสรรพคุณ ดังนี้

เพื่อผิวหนังที่ชุ่มชื้น
น้ำผึ้งเป็นผลิตผลจากธรรมชาติที่  ในน้ำผึ้งมีสารเพิ่มความชุ่มชื้น มีฮอร์โมนมีสารที่มีฤทธิ์สารต้านอนุมูลอิสระ จึงสามารถผสมในสมุนไพรอื่นที่มีสรรพคุณในการบำรุงผิวเช่น นม กล้วย มะละกอ ขมิ้น บัวบก มะม่วง เป็นต้น โดยพอกหน้า ทิ้งไว้สักครู่ประมาณ 5 นาทีแล้วล้างออก
สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวเสี้ยนหรือต้องการบำรุงผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ มีวิธีง่ายๆ ดังนี้ หลังจากล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นและเช็ดให้แห้งแล้ว นำกล้วยหอมครึ่งลูกมาบดผสมกับน้ำผึ้งไม่ผ่านความร้อน แล้วนำมาทาบนหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออก ให้ใช้น้ำผึ้งไม่ผ่านความร้อนจะมีเอนไซม์ ซึ่งทำให้หน้าคุณชุ่มชื่นและนุ่มนวลขึ้น

เพื่อผมเงางาม
หลังสระผมเสร็จนำน้ำผึ้งไม่ผ่านความร้อนผสมกับน้ำมะกอกอย่างละ 3 ช้อนโต๊ะ นำมาชโลมผมแล้วทิ้งไว้ซัก 3-5 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ผมคุณจะนิ่มและเงางามตามธรรมชาติปราศจากสารเคมีใดๆ

สรุป

คุณภาพของน้ำผึ้งที่ได้มานั้นย่อมขึ้นอยู่กับวัตถุดิบ หรือชนิดของเกสรดอกไม้ที่ผึ้งได้ไป รวมถึงแหล่งของพืชและพื้นดินนั้นๆ ที่ผึ้งเจริญเติบโตอยู่ ฉะนั้นการนำเอาน้ำผึ้งมาจึงต้องเลือกน้ำผึ้งที่ดีที่สุดมา เช่นเดียวกันกับการผลิตเครื่องสำอางที่มีการใช้น้ำผึ้งเป้นส่วนผสม จะต้องเลือกน้ำผึ้งที่มีคุณภาพ เพื่อให้สินค้าน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิง  http://www.th.wikipedia.org , https://www.doctor.or.th/

New Normal ด้านสุขภาพหลัง COVID-19

New Normal ด้านสุขภาพหลัง COVID-19

การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ กับโลกทั้งใบอย่างชัดเจน ผู้คนจำนวนไม่น้อยหันมาสนใจรักษาสุขภาพ และเริ่มใส่ใจกับปัญหาสุขภาพของตัวเองมากยิ่งขึ้น  ความปกติแบบใหม่ ( New Normal) หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร เมื่อเรายังต้องอยู่กับ COVID-19 ไปจนกว่าจะมีค้นพบยาหรือวัคซีนป้องกันสำเร็จ    เราจะให้ความใส่ใจในเรื่องเหล่านี้มากขึ้น

1. Good Health : เราให้ความสำคัญกับสุขอนามัยมากขึ้น

เราเรียนรู้และปรับพฤติกรรมเพื่อสู้กับเชื้อโรคมากกว่าที่ผ่านมา เราหันมาใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้านหรืออยู่ในที่ชุมชน รวมทั้งเราล้างมือกันบ่อยขึ้น หลายคนพกเจลแอลกอฮอลล์ติดตัวเสมอ ระมัดระวังการจับ สัมผัสสิ่งต่าง ๆ เมื่ออยู่ในที่สาธารณะกันอย่างจริงจัง  และเกิด Proactive Healthcare Platform แพลทฟอร์มการดูแลสุขภาพและการป้องกันความเจ็บป่วยนั้นมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น โครงสร้างพื้นฐานของเมือง อาคาร บ้านจะต้องมีบริการและแพลตฟอร์มสุขภาพและสุขภาพจิตเป็นบริการพื้นฐาน 

2. Physical Distancing : เราคำนึงถึงการเว้นระยะห่างทางกายภาพ

เราพบว่าโรคติดต่อจำนวนไม่น้อย รวมถึงไวรัส COVID-19 ติดต่อถึงกันผ่านการจับมือ สัมผัส ถูกเนื้อต้องตัวกัน หรือแม้แต่การยืนพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด ที่อาจมีละอองน้ำลาย หรือสารคัดหลั่งกระเด็นออกมาโดนร่างกายของเราได้ และนำมือนั้นไปเช็ด ขยี้ ลูบดวงตา จมูกหรือปาก หากละอองน้ำลายหรือสารคัดหลั่งมีเชื้อโรคปะปนอยู่ เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายได้โดยง่าย

เมื่อได้รับรู้ถึงช่องทางหรือความเสี่ยงที่จะรับเชื้อ ทำให้เราเริ่มหาทางป้องกันการรับเชื้อด้วยตัวเอง เช่น เราจะเริ่มขยับตัวถอยห่าง เมื่อรู้สึกว่ามีคนเข้าใกล้ตัวเรา หรือหากมีใครสักคนในบริเวณนั้น ไอ จาม เราจะระมัดระวังตัวมากขึ้น รวมไปถึงมาตรการป้องกันตัวเองที่ภาครัฐออกมา อย่างเช่น การเว้นระยะห่างทางกายภาพกับบุคคลอื่น (Physical distancing) มีการงดเว้นสัมผัสใกล้ชิดกัน การจัดที่นั่งในที่ทำงานที่มีระยะห่างระหว่างพนักงาน การลดจำนวนคนโดยสารลิฟต์ ฯลฯ

3. Privacy : เราต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและเป็นวงกว้างของไวรัส COVID-19 ทำให้หลายคนเริ่มไม่มั่นใจในความปลอดภัยหากต้องออกมาอยู่ในที่สาธารณะ หรือคนพลุกพล่าน ทำให้มองหาพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น การเว้นระยะห่างทางกายภาพ (Physical Distancing) หรือการงดเว้นการร่วมกลุ่ม รวมตัวกัน การรณรงค์อยู่บ้านเพื่อหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อ จึงกลายเป็นกฎข้อบังคับสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส ถึงแม้ว่ามาตรการนี้ก็จำกัดการทำกิจกรรมหลายๆ อย่างในชีวิตประจำวันไป   

แต่ในขณะที่เราถูกจำกัดการทำกิจกรรมบางอย่าง เราก็ได้รับสิทธิ์ให้ทำบางอย่างมากขึ้นนั้นคือ การได้พื้นที่ส่วนตัวกลับคืนมา ได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวที่บ้านมากขึ้น ได้เวลาส่วนตัวคืนมามากขึ้น

4. Immunity : เราตระหนักได้ว่าการมีภูมิคุ้มกันแข็งแรงเป็นสิ่งจำเป็น

ภูมิคุ้มกันในร่างกายของคนเราเปรียบเหมือนกองกำลังที่คอยปกป้อง ดูแล คุ้มครองร่างกายไม่ให้เชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมเข้ามารุกรานได้ กองกำลังของเราจะจัดการเชื้อโรคได้นั้น ต้องทำให้กองกำลังของเราแข็งแรงเสียก่อน

ชอบคุณข้อมูลจาก : https://kovic.co.th/

เทรนด์ธุรกิจมาแรงในปี 2019

เทรนด์ธุรกิจมาแรงในปี 2019

ธุรกิจในประเทศไทยนั้นมีหลากหลายประเภทตามความต้องการของผู้บริโภค โดยแต่ละธุรกิจนั้นต้องการคำนึงในหลาย ๆ เรื่องอย่างเช่นเศรษฐกิจของประเทศ อำนาจในการซื้อสินค้าและบริการ รวมไปถึงวามต้องการของผู้บริโภค ซึ่งแต่ละธุรกิจนั้นก็ยังมีเงื่อนไขต่าง ๆ ที่แตกต่างกันไปเฉพาะรายที่อาจกระทบกับผลการดำเนินงานของผู้ประกอบการที่มีโอกาสอยู่รอด จะต้องมีความยืดหยุ่นในการปรับตัวและไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาจุดแข็ง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตามความรวดเร็วของเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภค แต่ถึงอย่างนั้นในปี 2019 นั้นก็ได้มีธุรกิจที่กำลังรุ่งและมาแรงด้วยเช่นกัน โดยธุรกิจเหล่านั้นมีดังต่อไปนี้

ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ

ด้วยกระแสการตื่นตัวและใส่ใจดูแลสุขภาพนั้น ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องการสุขภาพในด้านต่าง ๆ ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็น อาหารเพื่อสุขภาพ บริการทางการแพทย์ การจัดกิจกรรมกีฬา รวมไปถึงธุรกิจอาหารเสริมเพื่อสุขภาพก็มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นวิตามินต่าง ๆ อาหารเสริมบำรุงสุขภาพ เป็นต้น เพราะด้วยชีวิตประจำวันที่เร่งรีบของผู้คนในแต่ละวันนั้นทำให้คนเราได้รับสารอาหารต่าง ๆ  ไม่เพียงพอ จึงทำให้คนเราจะต้องหาอาหารเสริมมาประทาน ส่งผลไปถึงธุรกิจโรงงานผลิตอาหารเสริมก็จะได้รับความนิยมไปด้วย เพราะมีผู้คนมากมายที่สนใจผลิตอาหารเสริม

ธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี

การใช้ชีวิตและกิจกรรมต่าง ๆ ในช่องทางออนไลน์ของผู้บริโภคนั้นที่นับวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ทำให้มีการแข่งขันกันอย่างมากในช่องทางออนไลน์ของผู้ประกอบการค้าปลีกและไม่ใช้ค้าปลีก อีกทั้งยังส่งผลไปถึงการซื้อขายสินค้าออนไลน์มีแนวโน้มขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่อง

ธุรกิจท่องเที่ยว

ถึงแม้ว่าจะมีหลายปัจจัยที่กระทบการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนของค่าเงินสกุลต่าง ๆ  ความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยและการแข่งขันดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะจีนไปยังประเทศของตนเองจึงส่งผลในการท่องเที่ยวนั้นชะลอตัวลง แต่ได้มีแรงสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวอาทิ การเปิดจุดคืนภาษีตามแหล่งค้าปลีกเพิ่มขึ้น การส่งเสริมเอกลักษณ์พื้นถิ่นในแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีในด้านการท่องเที่ยว

ธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง

ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาเก็ต ร้านสะดวกซื้อของค้าปลีกสมัยใหม่นั้น รองรับความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่และรวมไปถึงรองรับการใช้บริการของนักท่องเที่ยวด้วย ประกอบกับการเติบโตสูงของการค้าปลีกออนไลน์ทำให้มูลค่าตลาดของธุรกิจค้าปลีกค้าส่งโดยรวมมีแนวโน้มเติบโตได้

ธุรกิจต่าง ๆ นั้นย่อมมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามพฤติกรรมของผู้บริโภค ถ้าผู้บริโภคมีความต้องการซื้อหรือบริการมากขึ้นเท่าไหร่ ธุรกิจนั้นก็จะยิ่งเติบโตมากเท่านั้น ซึ่งธุรกิจอาหารเสริมนั้นก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่กำลังมาแรง ทำให้ส่งผลถึงธุรกิจโรงงานรับผลิตอาหารเสริมมีการเติบโตมากขึ้นเช่นกัน โดยโควิก เคทท์นั้น เป็นโรงงานผลิตอาหารเสริมที่อยู่ในวงการอาหารเสริมมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี รับผลิตสินค้าอย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริม เครื่องสำอาง ครีมและยาสมุนไพร และกระบวนการผลิตที่ทันสมัยเพื่อให้เจ้าของแบรนด์มีสินค้าที่ได้คุณภาพนำไปจำหน่ายจนประสบความสำเร็จ

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย