เรื่อง

ผู้สูงอายุจำเป็นจะต้องกินอาหารเสริมหรือไม่

ผู้สูงอายุจำเป็นจะต้องกินอาหารเสริมหรือไม่

อาหารเสริม ถือเป็นอาหารที่ช่วยเสริม เพิ่มเติมขึ้นจากอาหารปกติ การที่เราจะต้องกินอาหารเสริมกก็เพื่อทดแทนสารอาหารบางอย่างที่เราอาจจะขาด หรือได้รับไม่เพียงพอจากอาหารมื้อปกติที่กินกันอยู่ทุกวัน รวมไปถึงบางคนที่ร่างกายผิดปกติ จนทำให้ได้รับสารอาหารบางอย่างน้อยกว่าคนธรรมดาที่มีสุขภาพร่างกายปกติ

โรงงานอาหารเสริม

แต่สำหรับผู้สูงอายุหลายท่านนั้นอาจมีความกังวลว่า เมื่อสุขภาพแย่ลงเรื่อย ๆ ไปตามกาลเวลา ทำให้ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุหรือลูกหลานของผู้สูงอายุนั้นมีคำถามเกิดขึ้นว่า ผู้สูงอายุจำเป็นต้องกินอาหารเสริมด้วยหรือไม่ วันนี้เราไปหาคำตอบในเรื่องนี้กัน

ผู้สูงอายุจำเป็นต้องกินอาหารเสริมหรือไม่

จากข้อมูลในหนังสือ “มหัศจรรย์อาหารชะลอวัย” ของคุณศัลยา คงสมบูรณ์ ระบุว่า แม้อาหารเสริมจะไม่สามารถอดแทนอาหารหลักที่ต้องบริโภคชีวิตประจำวัน แต่สำหรับผู้สูงอายุที่ปะสิทธิภาพในการย่อย และการดูดซึมสารอาหารลดลง การเสริมวิตามินและเกลือแร่ให้เหมาะสมกับสภาวะร่างกายของแต่ละคน นับเป็นความจำเป็นอย่างหนึ่ง

การเสริมวิตามิน และเกลือแร่รวมทำให้มั่นใจว่า ผู้สูงอายุได้รับสารอาหารพื้นฐานที่ร่างกายต้องการครบถ้วน ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน และลดการติดเชื้อในสูงอายุได้ วิตามินบีรวมซึ่งมีกรดโฟลิก วิตามินบร 6 และวิตามินบี 12 ในปริมาณ 100% ของความต้องการในแต่ละวัน สามารถช่วยลดระดับโฮโมซิสเตอีน (Homocysteine) ในเลือด ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และเส้นเลือดในสมองตีบ ทั้งยังช่วยเลือดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุด้วย

อาหารเสริมเพื่อผู้สูงอายุ

เมื่อร่างกายของผู้สูงอายุเริ่มดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ น้อยลง ส่งผลให้ร่างกายมีอาการต่าง ๆ ปรากฏออกมา ดังนั้นการทานอาหารเสริมจึงเป็นช่วยที่จำเป็นผู้สูงอายุ โดยอาหารเสริมเพื่อผู้สูงอายุนั้นมีดังต่อไปนี้

แคลเซียม

แคลเซียม และวิตามินดีเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างและรักษากระดูกและฟันให้แข็งแรง และส่งสัญญาณประสาทไปยังกล้ามเนื้อและหลอดเลือดเพื่อหดตัว หากผู้สูงอายุได้รับแคลเซียมในปริมาณที่ไม่เพียงพอ อาจทำให้กระดูกเปราะและหักง่ายได้ ผู้หญิงและผู้ชายที่อายุมากกว่า 50 ปี ควรได้รับแคลเซียม 1,200 มก. และ 1,000 มก. ต่อวันตามลำดับ

วิตามินดี

วิตามินดีเป็นตัวช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ ร่างกายสามารถรับวิตามินดีโดยการให้ผิวสัมผัสกับแสงแดดช่วงเช้าประมาณ 10 นาที แนะนำให้ทำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือสามารถรับประทานนมเสริมวิตามินดี , ไขมันจากปลา หรือทูน่ากระป๋อง โดยผู้สูงอายุควรได้รับวิตามินดีอย่างน้อย 600 หน่วยสากลต่อวัน

วิตามินบี 12

วิตามินบี 12 เป็นส่วนสำคัญในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงและช่วยให้เส้นประสาทแข็งแรง เมื่อายุมากขึ้นร่างกายสามารถสร้างกรดในกระเพาะย่อยสารอาหารได้น้อยลง ทำให้ได้รับวิตามินบี 12 ในปริมาณที่ไม่เพียงพอ อาจนำไปสู่โรคโลหิตจางและอ่อนเพลียง่าย โดยควรได้รับวิตามินบี 12 ประมาณ 2.4 ไมโคกรัมต่อวัน

วิตามินบี 6

วิตามินบี 6 นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันและระบบเมทาบอลิซึมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร่างกายไม่สามารถสร้างวิตามินบี 6 ได้เอง จะได้รับจากกล้วย, ผลิตภัณฑ์จากนมถั่วเหลือง, ธัญพืชต่าง ๆ หริอเนื้อสัตว์แทน ผู้สูงอายุผู้ชายควรได้รับวิตามินบี 6 ประมาณ 1.7 มก. และส่วนผู้หญิงควรได้รับประมาณ 1.5 มก. ต่อวัน

ไฟเบอร์

เมื่ออายุมากขึ้น การทำงานของอวัยวะภายในร่างกายก็เสื่อมสภาพลง ไม่ว่าจะเป็นประสาทระบบเผาผลาญ รวมถึงระบบขับถ่ายด้วย โดยผู้สูงอายุมีแนวโน้มจะเกิดอาการท้องผูกมากกว่าคนหนุ่มสาว ฉะนั้นผู้สูงอายุควรบริโภคอาหารที่มี ไฟเบอร์สูง จำพวกผักใบเขียว และผลไม้หรืออาหารเสริมที่มีส่วนผสมของไฟเบอร์ เพื่อจะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีระสิทธิภาพ

โพแทสเซียม

ในหมู่ผู้สูงอายุเรามักจะพบกับผู้ป่วยความดันโลหิตสูงอยู่เป็นจำนวนมาก ฉะนั้นร่างกายจำเป็นต้องได้รับสารอาหารโพแทสเซียม ซึ่งจะคอยควบคุมความดันโลหิต ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง อีกทั้งยังเป็นสารอาหารกระตุ้นการทำงานของเซลล์ในร่างกาย

ข้อแนะนำควรทราบก่อนกินอาหารเสริม

การเสริมสารอาหารบางอย่าง เช่น วิตามินดี, แคลเซียม มีข้อควรระวังขึ้นอยู่กับสภาวะร่างกายของแต่ละคน การกินอาหารเสริมของผู้สูงอายุจึงควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์จะดีที่สุด

ผู้สูงอายุควรกินอาหารอย่างไร เพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรง

ข้อแนะนำในการกินอาหารที่ผู้สูงอายุควรทำ เพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรง

ข้อแนะนำในการกินอาหารที่ผู้สูงอายุควรทำ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงคือ

  • กินอาหารให้เป็นเวลาสม่ำเสมอ ไม่งดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง
  • กินอาหารหลากหลาย ไม่จำเจ
  • กินอาหารมื้อเล็ก ๆ เพื่อลดปัญหาอาหารไม่ย่อย
  • กินอาหารว่างระหว่างมื้อ เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานเพียงพอ
  • กินอาหารอ่อน เคี้ยวง่าย กลืนง่าย โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีฟัน หรือใส่ฟันปลอม
  • ลดอาหารเค็มจัด เพื่อป้องกันความดันโลหิตสูง และบวมน้ำ
  • ลดอาหารทอดกรอบ และของมันเช่น กะทิ เนยเทียม เนยขาว

สรุป

ผู้สูงอายุนั้นจำเป็นจะต้องกินอาหารเสริมเพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ แต่ก็ไม่ควรนำอาหารเสริมมาแทนอาหารมื้อหลัก ควรทานอาหารมื้อหลักเป็นหลักแล้วจึงเสริมด้วยอาหารเสริม ทั้งนี้ทั้งนั้นการบริโภคอาหารเสริมก็ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงจากการกินอาหารเสริม

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน ในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตครีม รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มา : www.sanook.com

www.watsons.co.th

www.foodstory.co

รวมสารสกัดตัวเด็ด ช่วยบำรุงสมอง

รวมสารสกัดตัวเด็ด ช่วยบำรุงสมอง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สมอง เป็นอวัยวะที่มีความสำคัญมากเป็นอันดับต้น ๆ ของร่างกาย เนื่องจากคนเราจะต้องใช้งานสมองอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าเราจะทำอะไร เช่น กิน เดิน นั่ง หรือแม้แต่เวลาที่เรานอนสมองก็ยังทำงานอยู่ ดังนั้นสมองควรจะเป็นอวัยวะที่ได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด แต่กลับกันนั้นไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่นั้นเต็มไปด้วยกิจกรรมที่ส่งผลเสียต่อสมอง เช่น การสูบบุหรี่ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด การไม่ออกกำลังกาย หรือกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์

รับผลิตอาหารเสริม

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันได้มีการคิดค้นหาวิธีการในการบำรุงสมองกันออกมามากมาย ซึ่งวิธีที่ดูเหมือนจะได้ผลมากที่สุดก็คือ การรับประทานอาหารเสริมที่มีสารสกัดต่าง ๆ ที่ช่วยบำรุงสมอง เพื่อเป็นการดูแลสมองจากภายใน ดังนั้นในวันนี้ทาง Kovic จึงได้รวบรวมสารสกัดตัวเด็ดในช่วยบำรุงสมองมาฝากกัน โดยมีดังต่อไปนี้

สารสกัดที่ช่วยบำรุงสมอง

  • ใบแปะก๊วย
  • วิตามินบีรวมสกัด
  • โอเมก้า 3
  • ธาตุเหล็ก
  • นมผึ้ง
  • ไอโอดีน
  • ใบบัวบก

สารสกัดจากใบแปะก๊วย

สารสกัดจากใบแปะก๊วย เป็นหนึ่งในสารสกัดที่ขึ้นชื่อเรื่องบำรุงสมอง โดยเฉพาะกับคนที่กำลังมองหาอาหารเสริมเพื่อมาช่วยในเรื่องการเรียน หรือคนที่อยากเสริมสร้างสมาธิและความทรงจำให้ดีขึ้น เนื่องจากในใบแปะก๊วยอุดมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) และเทอร์ปินอยด์ (Terpenoids) ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้เลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ช่วยเพิ่มพูนการรับรู้ของสมองและทำให้มีสมาธิดี

นอกจากนี้ในใบแปะก๊วยก็ยังมีสารฟอสฟาติดิลซีรีน (Phosphatidylserine) ที่มีส่วนช่วยพัฒนาความทรงจำและป้องกันอาการสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ จึงบอกได้ว่าสารสกัดจากใบแปะก๊วยคืออาหารเสริมบำรุงสมองวัยเรียนอย่างแท้จริง

วิตามินบีรวมสกัด

ถ้าใครเคยสงสัยว่าวิตามินอะไรบำรุงสมอง ให้จำกันให้ดีเลยว่าคำตอบก็คือวิตามินบี โดยเฉพาะวิตามินบี 12 ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยเติมเต็มให้ระบบการทำงานของประสาทและสมองอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การที่ร่างกายได้รับวิตามินบี 12 จะส่งผลให้สมองโล่ง ปลอดโปร่ง รู้สึกสบายหัว และความคิดไหลลื่นมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ในวิตามินบีรวมจะมี โคลีน สารอาหารที่พบได้ในไข่แดง ซึ่งเป็นสาระสำคัญที่มีบทบาทอย่างมากต่อการพัฒนาสมองของเด็ก เพราะมีส่วนช่วยในการสร้างสารสื่อสัญญาณประสาทในสมอง ซึ่งมีผลต่อระบบการเรียนรู้และระบบความจำ

สารสกัดโอเมก้า 3

ส่วนประกอบสำคัญของโอเมก้า 3 ก็คือ DHA ซึ่งเป็นกรดไขมันที่มีความจำเป็นอย่างมากต่อการทำงานของเซลล์สมอง เพราะ DHA จะเป็นตัวช่วยในการเจริญเติบโตของปลายประสาท ทำให้การถ่ายทอดสัญญาณและส่งผ่านข้อมูลของเซลล์สมองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ข้อมูลอีกอย่างที่คุณควรรู้คือร่างกายของคนไม่สามารถสังเคราะห์ DHA ขึ้นเองได้ห เราจะได้รับ DHA จากการทานอาหารเท่านั้น

ธาตุเหล็กสกัด

ธาตุเหล็กเป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการนำออกซิเจนในเลือดไปเลี้ยงสมอง ทำให้เซลล์สมองสามารถเติบโตและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการได้รับธาตุเหล็กอย่างเพียงพอนั้นมีผลโดยตรงกับการพัฒนาสติปัญญา การเรียนรู้ และไอคิว

สังเกตได้จากเด็กที่มีภาวะเหล็กพร่องจะมีปัญหาเรื่องพัฒนาการ ดังนั้นธาตุเหล็กจึงมีความสำคัญมากต่อเด็กทารกและเด็กวัยกำลังโตนั่นเอง

สารสกัดจากนมผึ้ง

สารสกัดนมผึ้ง นับว่าเป็นสารอาหารที่มากคุณประโยชน์หและสามารถช่วยดูแลร่างกายได้ครบทุกมิติ ซึ่งก็รวมถึงสมองและระบบประสาทด้วยเพราะในนมผึ้งจะมีสารเรียกว่า “อะเซทิลคอลีน” (acetylcholine) ซึ่งเป็นสารที่สามารถช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น ความดันเลือดลดลง เลือดสามารถไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น ทำให้สมองและระบบประสาททำงานได้ดีและยังช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย

นอกจากนี้สำหรับผู้ที่มีอาการเครียดมา หรือเครียดบ่อย ๆ สารสกัดจากนมผึ้งก็สามารถช่วยได้ เพราะในนมผึ้งมีกรดชนิดหนึ่งที่เรียกว่า 10-HDA ซึ่งเป็นกรดจากธรรมชาติที่สามารถช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดให้กับสมอง ทำให้อารมณ์ดีมีความสุขและช่วยให้หนอนหลับสบาย

ไอโอดีน

เคยได้ยินกันไหมว่า “สมองดีเริ่มที่ไอโอดีน” ซึ่งเหตุผลที่มีคำกล่าวแบบนี้ก็เพราะไอโอดีนนั้นเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อสมองอย่างมาก โดยไอโอดีนนั้นมีส่วนช่วยสมองในการสร้างไทรอยด์ฮอร์โมน ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญที่มีบทบาทในการควบคุมการเผาผลาญสารอาหาร และสารพลังงานให้กับร่างกาย

 นอกจากนี้ไทรอยด์ยังเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์สมอง ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาการความจำ และระดับสติปัญญาอีกด้วย

สารสกัดจากใบบัวบก

ใบบัวบก เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงประสาทและสมอง เมื่อนำมาทำเป็นสารสกัดจะช่วยให้มีความเข้มข้นและคุณค่าที่เพิ่มขึ้น หากรับประทานจะช่วยให้มีความจำและระบบความคิดที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือสามารถช่วยป้องกันอัลไซเมอร์ในกลุ่มผู้สูงอายุได้

นอกจากนี้สรรพคุณของใบบัวบกยังช่วยส่งเสริมการทำงานของสารสื่อประสาทภายในสมอง ซึ่งส่งผลต่อการรักษาสมดุลของจิตใจ ช่วยให้จิตใจสงบผ่อนคลาย ลดความกังวลและกระวนกระวาย ช่วยให้นอนหลับง่าย และยังป้องกันอาการโรคซึมเศร้าได้อีกด้วย

สรุป

สารสกัดเหล่านี้นั้นสามารช่วยบำรุงสมองของคนเราจากภายในได้ก็จริง แต่อย่าลืมว่าสารสกัดเหล่านั้นเป็นสารสกัดอาหารเสริม ซึ่งอาหารเสริมไม่ใช่อาหารหลัก ดังนั้นควรกินอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้สมองทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน ในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตครีม รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มาข้อมูล

www.pakazybeauty.com

8 Step สุดง่ายในการสร้างแบรนด์อาหารเสริม

8 Step สุดง่ายในการสร้างแบรนด์อาหารเสริม

ถ้าให้พูดถึงสิ่งที่มาช่วยเสริม หรือช่วยบำรุงร่างกายในส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบำรุงผิว เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เสริมสร้างกระดูก เสริมสร้างสารอาหาร หรือแม้แต่การลดน้ำหนัก สิ่งที่ผู้บริโภคหลายคนนึกถึงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยมกันอยู่นั่นก็คือ อาหารเสริม

โรงงานอาหารเสริม

โดยอาหารเสริม หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นมีมากมายหลายประเภทตามความต้องการของผู้บริโภค ด้วยความต้องการของแต่ละคนนั่นไม่เหมือนกัน จึงทำให้ประเภทของอาหารเสริมนั้นแตกแขนงออกมาอย่างไม่จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เจ้าของแบรนด์สนใจและทำการผลิตอาหารเสริมแบรนด์ของตัวเองเพื่อนำมาจำหน่าย

แต่การผลิตอาหารเสริมนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจะต้องดูปัจจัยหลาย ๆ อย่างเช่น สำรวจความต้องการของลูกค้า หรือการค้นหาโรงงานอาหารเสริมที่มีคุณภาพ แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป เพราะในปัจจุบันก็จะมีวิธีตรวจสอบความปลอดภัยของโรงงานผลิตอาหารเสริม เช่น มาตรฐานหรือใบรับรองโรงงาน เป็นต้น เมื่อได้โรงงานที่เราถูกใจกันแล้ว เราจะก็เริ่มต้นการผลิตอาหารเสริมกันแล้ว ซึ่งในวันนี้ทาง Kovic ได้มี 8 Step สุดง่ายในการสร้างแบรนด์อาหารเสริม ที่รับรองได้เลยว่าการผลิตอาหารเสริมจะกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเจ้าของแบรนด์ไปเลย

8 Step สุดง่ายในการสร้างแบรนด์อาหารเสริม

  • Make a Concept
  • Formulation Development
  • FDA Registration
  • Packaging
  • Art Work Design
  • Marketing and Consultant
  • Manufacturing Service
  • After Sales Service

Make a Concept (การสร้างคอนเซ็ปต์)

ก่อนที่จะเริ่มทำการผลิตสินค้าออกมานั้น ขั้นแรกที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ การสร้างคอนเซ็ปต์ เพราะสิ่งนี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางต่าง ๆ ของแบรนด์ว่าจะไปในรูปแบบไหน โดยทาง Kovic ได้มีผู้ที่จะร่วมคิดและเสนอไอเดียต่าง ๆ กับลูกค้า เพื่อช่วยในการกำหนดหรือแนะแนวทางในการเริ่มต้นผลิตสินค้า และนอกจากนี้ยังเป็นผู้ช่วยในการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของลูกค้าให้เป็นสูตรเฉพาะสำหรับลูกค้า เพื่อสิทธิประโยชน์และแนวทางที่มั่นคงสำหรับลูกค้าในอนาคต

Formulation Development (การพัฒนาสูตร)

นอกจากคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ที่โดดเด่นแล้ว การมีสูตรอาหารเสริมที่โดดเด่นก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะคอนเซ็ปต์สามารถคล้ายกับแบรนด์อื่นได้ ดังนั้นการมีสูตรที่โดดเด่นต่างจากแบรนด์คู่แข่งจะยิ่งได้รับความสนใจจากผู้บริโภค ยิ่งเป็นสารสกัดใหม่ หรือกำลังอินเทรนด์จะยิ่งเพิ่มความสนใจได้มากขึ้น

โดย Kovic นั้นได้มีการพัฒนาสูตรให้เป็นไปตามจุดประสงค์ของลูกค้าที่วางแผนไว้ตั้งแต่เริ่มต้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างเฉพาะ การันตีคุณภาพในระดับสากล มีความปลอดภัยในทุก ๆ ด้าน นอกเหนือจากนั้นยังมีสิทธิพิเศษสำหรับการบริการจากเราคือ การผลิตสินค้าตัวอย่าง เพื่อให้ลูกสามารถนำไปทดลองใช้หรือนำไปแนะนำกับกลุ่มเป้าหมายของลูกค้าเพื่อทราบถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในลำดับถัดไป

FDA Registration (การจดแจ้งเลขอย.)

ผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่สามารถบริโภคได้จะต้องมีการจดแจ้งเลขทะเบียน เพื่อรับรองความปลอดของอาหารเสริมนั้น โดยจะมีการตรวจสอบหาสารอันตรายที่มีอยู่ในอาหารเสริมที่ต้องการจดแจ้งเลขกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือที่อยู่จักกันในชื่อ อย. และเมื่อทางอย.ได้ททำการตรวจสอบและพบความว่าไม่มีสร้างอันตรายในอาหารเสริมนั้น ก็จะทำการขึ้นทะเบียนเลขให้กับสินค้าตัวนั้น

ซึ่งทาง Kovic มีบริการแบบ One – Stop Service จึงมีบริการรับขึ้นจดทะเบียน อย. เพื่อความสะดวกของลูกค้าในการจัดเตรียมเอกสารและติดต่อประสารเข้ากับหน่วยงาน จึงทำให้การยื่นขอ อย. ของลูกค้านั้นเป็นเพียงเรื่องที่ง่ายดาย เพราะเรามีบุคลากรที่มีความสามารถในการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและเครื่องสำอางโดยเฉพาะ

Packaging (การเลือกบรรจุภัณฑ์)

บรรจุภัณฑ์ เป็นส่วนที่เจ้าของแบรนด์มักละเลย เพราะคิดว่ามันก็เหมือนกันหมด แต่จริง ๆ เราสามารถทำให้แตกต่างได้ โดยการเลือกรูปทรงหรือปรับเปลี่ยนให้แตกต่างออกไปจากของลูกค้าเพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับผลิตภัณฑ์ของแบรนด์

Kovic ได้มีบรรจุภัณฑ์ที่พร้อมจะแนะนำและเลือกใช้ตามความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นสีหรือไซต์ หรือรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแคปซูล ผงบลิสเตอร์ ขวดแก้ว ขวดพลาสติก อลูมิเนียม หรือฟอล์ย ที่มีให้ลูกค้าได้เลือกตามความเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์

Art Work Design (การออกแบบฉลากบรรจุภัณฑ์)

เพราะทุกวันนี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักชอบมองผลิตภัณฑ์ที่สวยสะดุดตาก่อนเสมอ ดังนั้นการออกแบบฉลากบรรจุภัณฑ์จึงกลายเป็นอีกส่วนที่ควรให้ความสนใจ เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์ให้มีภาพลักษณ์ที่ดี เพิ่มมูลค่าทางการตลาด เจาะไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกจุด

Kovic ออกแบบ Package เพื่อเป็นไปตามข้อกำหนดของการจัดทำฉลากอาหารเสริมตามที่สำนักงานอาหารและยาหรือ อย. กำหนดไว้

Marketing and Consultant (การทำการตลาด)

สินค้าดีแต่การตลาดไม่ดี ก็ทำให้เจ๊งกันมากหลายแบรนด์แล้ว ดังนั้นมีผลิตภัณฑ์ที่ดีอยู่ในมือแล้ว ก็ต้องทำการตลาดในแบรนด์อยู่ในตลาดในนานและโดดเด่นที่สุด โดยเฉพาะอย่างในปัจจุบันได้มีการแข่งขัน ตลาดออนไลน์ กันมากขึ้น ซึ่งใครที่ช่วงชิงพื้นที่ในสื่อออนไลน์ได้มากย่อมได้เปรียบคนที่มีพื้นที่น้อย

สำหรับลูกค้าที่กังวลเรื่อง Marketing หรือการตลาด ไม่ต้องกังวลเพราะทาง Kovic นั้นมีทีมงาน Marketing โดยมีบุคลากรผู้ชำนาญเฉพาะทาง ที่จะคอยชี้แนะหรือแนะนำวิธีการต่าง ๆ เพื่อทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก ซึ่งจะให้คำปรึกษา แนะนำตั้งแต่เริ่มการผลิตสินค้าไปจนถึงการวางจำหน่าย

Manufacturing Service (การบริการด้านการผลิต)

การผลิตสินค้าให้ได้คุณภาพนั้นจะต้องมีการควบคุมการผลิตทุกขั้นตอน ตั้งแต่ขั้นแรกจนได้ผลิตภัณฑ์ออกมา เพราะเมื่อผลิตภัณฑ์ดี ผู้บริโภคทานแล้วดี ก็จะเกิดการซื้อซ้ำและบอกต่อ

Kovic นั้นได้มีการควบคุมคุณภาพการผลิตในทุกขั้นตอน โดยมีการทำงานที่ยึดหลักตามมาตรฐานการผลิตในรูปแบบ GMP ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือ อย. ในกระทรวงสาธารณสุข และเน้นย้ำถึงมาตรฐานขั้นสูงสุดในขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในระดับ 100 %

After Sales Service (บริการหลังการขาย)

หลายโรงงานเป็นเพียงโรงงานรับผลิตเท่านั้นเมื่อได้ผลิตภัณฑ์ออกไปจำหน่ายแล้วไม่มีบริการหลังการขายอีกเลย ทำให้เจ้าแบรนด์หลายคนรู้สึกเคว้ง เพราะอาจไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร เมื่อถึงจุดอิ่มตัวของแบรนด์ ที่ต้องการผลิตสินค้าใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวเดิมก็ต้องมาเริ่มตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ดังนั้นควรหาโรงงานที่มีบริการหลังการขายเพื่อสนับสนุนแบรนด์อีกทางด้วย

Kovic นั้นมีบริการหลังการขาย เพื่อช่วยสนับสนุนแบรนด์ของลูกค้าให้แข็งแกร่งและก้าวหน้าไปถึงระดับที่ลูกค้าพึงพอใจ ทางเราเริ่มพร้อมที่จะเป็นที่ปรึกษาและให้ความรู้ในการเริ่มต้นธุรกิจโดยไม่ทิ้งลูกค้าไว้กลางทางอย่างแน่นอน

สรุป

การสร้างแบรนด์อาหารเสริมสักหนึ่งแบรนด์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องเลือกสรรสิ่งต่าง ๆ ในหลาย ๆ ด้านให้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพของแบรนด์ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเช่นกัน เพียงแค่จับให้ถูกจุดทุกอย่างก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายทันที แต่สิ่งสำคัญที่จะต้องมีก็คือ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ ต่อให้หลาย ๆ อย่างดี แต่คุณภาพแย่ก็ไม่มีใครซื้อ

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

Top 3 รูปแบบอาหารเสริมในการสร้างแบรนด์

Top 3 รูปแบบอาหารเสริมในการสร้างแบรนด์

ต้องยอมรับกันเลยว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ คนไทยหันมาสนใจอาหารเสริมมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ หรือ Aging Society ที่มีประชากรสูงวัยมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งสถิติล่าสุดในประเทศไทยนั้นมีผู้สูงอายุเกือบ 12 ล้านคนหรือคิดเป็น 13% ของคนไทยทั้งประเทศเลยทีเดียว

ผลิตอาหารเสริม

แน่นอนว่าเมื่อประชากรผู้สูงอายุมากขึ้น การดูแลสุขภาพ การออกกำลังกายและการเลือกรับประทานอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ตลาดอาหารเสริม จะมีตัวเลขเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 7 – 8% ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เติบโตเร็วมาก ๆ และทำให้มีผู้คนมากมายหันมาสนใจเป็นเจ้าของแบรนด์อาหารเสริมมากขึ้น สังเกตได้จากแบรนด์อาหารเสริมต่าง ๆ ที่มีให้เลือกซื้อกันอย่างมากหน้าหลายตาในท้องตลาด

ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่เจ้าของแบรนด์มือใหม่หรือผู้ที่สนใจในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมจะต้องรู้ก็คือ อาหารเสริมมีหลากหลายรูปแบบ เห็นได้จากในท้องตลาดที่มีทั้งแบบผงชงดื่ม แบบเม็ด แบบแคปซูล หรือแบบเซฟเจล แต่ในจำนวนรูปแบบอาหารเสริมเหล่านั้น ก็จะมีรูปแบบที่เป็นที่นิยม สามารถพบเห็นได้บ่อย ๆ วันนี้โควิก เคทท์ เลยจะพาทุก ๆ คนมารู้จักกับ Top 3 รูปแบบอาหารเสริมที่นิยมในการสร้างแบรนด์ จะมีรูปแบบอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลย

อาหารเสริมรูปแบบเม็ด (Tablet)

อาหารเสริมรูปแบบเม็ด เป็นรูปแบบอาหารเสริมที่สามารถพบได้ในแบรนด์ต่าง ๆ บ่อยมากที่สุด โดยลักษณะอาหารเสริมแบบเม็ดนั่นคือ การนำผงยา หรือสารสกัดต่าง ๆ ที่ต้องการมาอัดผสมรวมเป็นเม็ดในขนาดที่ต้องการได้ โดยทางเจ้าของแบรนด์นั้นสามารถกำหนดความเข้มข้น ปริมาณสารอาหาร รวมไปถึงรูปแบบของเม็ดได้อาทิเช่น ทรงกลม ทรงรี ทรงเหลี่ยม เคลือบเม็ดหรือไม่เคลือบเม็ด

ข้อดีของอาหารเสริมรูปแบบเม็ด

  • เมื่อทานเข้าไปสามารถออกฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว
  • สามารถกำหนดเวลาในการดูดซึมและออกฤทธิ์ได้
  • เก็บรักษาได้นาน สามารถเก็บได้นาน 1 – 3 ปี
  • สามารถควบคุมขนาดของสารสกัดและปริมาณของสารได้
  • สามารถกำหนดรูปทรง ขนาด และน้ำหนักตัวเม็ดได้

ข้อเสียของอาหารเสริมรูปแบบเม็ด

  • รับรู้ถึงรส และกลิ่นสัมผัสมากกว่ารูปแบบอื่น อาจทำให้ขม หรือมีกลิ่นแรงเมื่อทาน
  • เมื่อผลิตในปริมาณมาก อาจส่งผลต่อค่าใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ เช่น ค่ากล่อง ค่าฟอยล์แผงเป็นต้น
  • รับประทานยาก สำหรับผู้บริโภคบางคนอาจเกิดการสำลัก หรือติดคอ
  • บางแบรนด์มีการทำสารเคลือบหวาน ทำให้กลืนง่าย

อาหารเสริมรูปแบบซอฟเจล (Softgel)

อาหารเสริมรูปแบบซอฟเจล อาจพบได้ไม่มากเท่าอาหารเสริมรูปแบบเม็ด อาจจะด้วยรูปแบบการใช้งาน หรือสารบางอย่างที่ไม่สามารถอยู่ในรูปแบบเม็ดได้ โดยอาหารเสริมรูปแบบซอฟเจล คือ รูปแบบที่เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว เนื่องจากสารบางชนิดไม่สามารถสกัดให้อยู่ในรูปของผงแห้งได้ เหมาะสำหรับการบรรจุสารที่เป็นน้ำมันเช่น น้ำมันปลา, น้ำมันรำข้าว หรือน้ำมันดอกคำฝอย

นอกจากนี้ยังรวมไปถึงวิตามินที่ละลายได้ในน้ำมันเช่น วิตามินเอ, วิตามินดี, วิตามินอี, วิตามินเค และสารที่ละลายในน้ำมันเช่น Coenzyme Q10, Lecithin, Lutein เป็นต้น เพื่อให้สารเหล่านี้สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น

ข้อดีของอาหารเสริมรูปแบบซอฟเจล

  • เปลือกของซอฟเจลเป็นเจลาตินแบบนิ่ม ง่ายต่อการรับประทาน
  • สามารถป้องกันกลิ่นของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้ดี
  • ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมของร่างกายให้นำไปใช้ได้ดีขึ้น
  • สามารถมั่นใจได้ว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมภายใน เนื่องจากซอฟเจลนั้นจะต้องปิดสนิท ไม่รั่วซึม

ข้อเสียของอาหารเสริมรูปแบบเม็ด

  • กระบวนการผลิตอาศัยเทคโนโลยีที่มีคุณภาพสูง ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการผลิตสูง
  • หากเกิดการกดทับ มีโอกาสทำให้เกิดความเสียหายได้ง่ายกว่ารูปแบบอื่น ๆ
  • ผู้ที่มีปัญหาเรื่องสิว หน้ามัน หรือไขมันส่วนเกิน อาจหลีกเลี่ยงสารที่อยู่ในรูปแบบน้ำมัน

อาหารเสริมรูปแบบผงชงดื่ม (Powder)

อาหารเสริมรูปแบบผงชงดื่ม เป็นอาหารเสริมที่สามารถผสมผสานสารสกัดได้หลากหลายรูปแบบ แต่ก็ส่งผลให้ขนาดของซองผลิตภัณฑ์มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมไปถึงน้ำหนักของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นด้วย แต่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการใส่ในกระป๋องแทนการใส่แบบซอง

โดยอาหารเสริมรูปแบบผงชงดื่มเป็นรูปแบบอาหารเสริมที่รับประทานได้ง่าย เพียงผงผสมกับน้ำเปล่าให้เข้ากันก็สามารถทานได้ทันที โดยอาหารเสริมยอดนิยมที่ทำเป็นรูปแบบผงชงดื่มได้แก่ คอลลาเจน, ไฟเบอร์ และดีท็อกซ์เป็นต้น

ข้อดีของอาหารเสริมรูปแบบผงชงดื่ม

  • สามารถแต่งกลิ่น แต่งรสชาติให้ดื่มง่ายขึ้น
  • มีฤทธิ์ในการดูดซึมได้ดี
  • สามารถเพิ่มสารสกัดต่าง ๆ ได้ตามต้องการได้ในซองเดียว ไม่จำเป็นต้องรับประทานแบบเม็ดครั้งละลายเม็ด

ข้อเสียของอาหารเสริมรูปแบบเม็ด

  • สามารถใส่ได้เพียงสารสกัดที่ละลายได้ในน้ำ ส่วนสารสกัดที่ละลายในไขมันจะต้องผ่านเทคนิคเอนแคปซูเลชั่นให้ละลายน้ำได้จึงจะสามารถทำเป็นผงได้
  • ต้องเก็บให้พ้นจากความชื้น เพื่อลดความเสี่ยงต่อความเสียหาย
  • ถ้าผลิตในปริมาณมากส่งผลต่อขนาดและน้ำหนักของผลิตภัณฑ์ ราคาก็จะสูงตาม

สรุป

รูปแบบอาหารเสริมนั่นเป็นเพียงตัวเลือกในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมเท่านั้น ไม่ใช่ว่ารูปแบบไหนได้รับความนิยมมากที่สุดก็จะไปผลิตรูปแบบนั้น การเลือกรูปแบบอาหารเสริมควรเลือกจากอาหารเสริมที่ต้องการผลิต ว่าผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นั้นเป็นอย่างไร ใช้สารสกัดอะไร และควรเลือกรูปแบบอาหารเสริมแบบไหนถึงจะเหมาะกับผลิตภัณฑ์ของแบรนด์มากที่สุด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ออกมาสมบูรณ์และมีคุณภาพมากที่สุด

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มา : www.at-z.co.th

อาหารเสริมหรือเสริมอาหาร อย่างไหนกันแน่

อาหารเสริมหรือเสริมอาหาร อย่างไหนกันแน่

อาหารเสริม เป็นผลิตภัณฑ์ที่เสริมสารอาหารในร่างกาย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพียงพอ หรือช่วยบำรุงส่วนต่าง  ๆ ในร่างกายเช่น ช่วยให้ผิวพรรณกระจ่างใส ลดน้ำหนัก หรือแม้แต่ล้างพิษในร่างกาย แต่อาหารเสริมนั้นไม่ใช่อาหารหลัก ไม่สามารถทานแทนอาหารมื้อหลักได้ ซึ่งในวงการนี้จะมีคำหนึ่งที่ทำให้หลายคนสับสนกัน นั่นก็คือคำว่า อาหารเสริมหรือเสริมอาหาร ทำให้ผู้คนเกดความสับสนว่าตกลงสองคำนี้มันคือคำเดียวกันไหม แล้วตกลงต้องใช้คำไหน วันนี้โควิกจะพาไปดูกัน

โรงงานอาหารเสริม

อาหารเสริมหรือเสริมอาหารจะเอาอะไรกันแน่

ก่อนอื่นเราจะต้องมาทำความเข้าใจถึงคำว่า “อาหารเสริม” และ “เสริมอาหาร” ก่อนว่ามีความหมายอย่างไร ในกรณีใดจึงจะใช้คำว่า “อาหารเสริม” และในกรณีใดจึงใช้คำว่า “เสริมอาหาร”

คอมพลีเมนต์ทารีฟู้ด (complementary food) คือ อาหารเสริมตามธรรมชาติ ซึ่งจะให้ในเด็กทารกอายุตั้งแต่แรกเกิดถึง ๑ ปี ให้ควบคู่กับนมแม่ หรือนมผงดัดแปลงสำหรับทารกเพื่อให้ทารกมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องและไม่ขาดสารอาหาร

ซับพลีเมนต์ทารีฟู้ด (supplementary food) คำนี้ใช้ขยายสำหรับวัยอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยผู้ใหญ่และวัยผู้สูงอายุ ซึ่งมักจะหมายถึง อาหารที่ใช้เสริมอาหารหลักในภาวะขาดสารอาหาร

คณะกรรมการอาหารและยา(อย.)ได้บัญญัติศัพท์ขึ้นมา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือซับพลีเมนต์ทารีฟู้ด (supplementary food)  ซึ่งหมายถึงผลิตภัณฑ์ที่กินเพื่อเสริมอาหารหลักที่กินตามปกติ

แนวความคิดหรือความเชื่อเรื่องผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

การที่คนหันมาใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างแพร่หลายนั้น เกิดมาจากแนวความคิดหรือความเชื่อที่แตกต่างกัน ซึ่งพอจะประมวลแนวความคิดหรือความเชื่อได้ ดังนี้

เพื่อเสริมอาหาร

กลุ่มนี้มีแนวคิดว่าอาหารที่กินอยู่นั้นมีคุณค่าทางโภชนาการที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายจึงใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อให้ได้รับคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอ

เพื่อเสริมสุขภาพ

คนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่มีแนวความคิดใหม่ๆ มีความคิดว่าการป้องกันดีกว่าการแก้ไข ดังนั้นจึงคิดว่า ทำอย่างไรจึงจะมีสุขภาพดี พยายามจะดูแลสุขภาพตนเองให้ดีที่สุด เมื่อมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารออกมาก็คิดว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะช่วยเสริมสุขภาพได้

กลัวโรคภัยไข้เจ็บ

เป็นธรรมดาของมนุษย์ที่มักจะกลัวโรคร้ายแรง เช่นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคความดันเลือดสูง ฯลฯ และกลัวการรักษาทางการแพทย์ เช่น เป็นโรคมะเร็งต้องผ่าตัด ต้องฉายแสง ดังนั้นเมื่อมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิดโฆษณาว่าสามารถป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ฯลฯ ได้ คนกลุ่มนี้ก็จะหาซื้อผลิตภัณฑ์นั้นมาบริโภค

เชื่อตามผลการวิจัยโดยไม่ได้ศึกษาติดตาม

ในต่างประเทศจะมีการวิจัยต่าง ๆ ออกมามาก พอมีผลงานวิจัยออกมาชิ้นหนึ่งก็จะมีคนผลิตสิ้นค้าออกมาขาย เช่น กระดูกอ่อนปลาฉลาม เขาพบว่า กระดูกอ่อนปลาฉลามไม่มีเส้นเลือดฝอยมาหล่อเลี้ยง และก้อนมะเร็งที่โตได้เพราะมีเส้นเลือดฝอยมาเลี้ยง เขาก็มีความคิดว่าถ้าเอากระดูกอ่อนปลาฉลามมาให้คนไข้กินสารในนั้นซึ่งไม่รู้ว่าเป็นอะไรจะไปป้องกันไม่ให้เส้นเลือดฝอยเกิดขึ้นได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วมะเร็งก็ไม่โต นี้คือ สมมติฐานขั้นต้นของเขา และเขากำลังจะวิจัยต่อไปอีกว่าสารตัวนั้นคืออะไร ในปัจจุบันก็ทราบแล้วแต่ยังวิจัยไปไม่ถึงขั้นไหน ผู้ผลิตก็พร้อมใจกันไปล่าปลาฉลามมาใส่แคปซูลขาย โดยยังไม่ทราบแน่ชัดว่าผลงานวิจัยนั้นผิดหรือถูก คนที่มีสตางค์หน่อยก็แห่ไปซื้อมากิน ทั้งที่ราคาก็สูงมาก

หลงเชื่อคำโฆษณาเกินจริง

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก่อนจะผลิตหรือนำเข้ามาจำหน่ายได้ จะต้องขออนุญาตนำเข้าและขึ้นทะเบียน ต่อคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดย อย.จะจัดผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และห้ามมีการโฆษณาสรรพคุณ ในแง่การรักษาโรคได้ ที่ผ่านมามักมีการลักลอบโฆษณาหรืออวดอ้างสรรพคุณว่า สามารถรักษาโรคร้ายแรงได้ เช่น โรคมะเร็ง อัมพาต หอบหืด ผู้บริโภคที่หลงเชื่อคำอวดอ้างดังกล่าวก็จะซื้อหาผลิตภัณฑ์นั้นมาบริโภค

เห่อตามฝรั่ง

คนไทยมักมีค่านิยมตามฝรั่ง อะไรที่เป็นของฝรั่งต้องดี เมื่อฝรั่งแนะนำว่าดีคนไทยก็ว่าดีตาม และไปซื้อหามาบริโภคตามอย่างฝรั่ง

ของที่หาได้ยากและแพงต้องดี

เช่น รังนก กว่านกแต่ละตัวจะสร้างรังได้ต้องใช้น้ำลายเท่าไร เมื่อคนไปเก็บมา นกก็ต้องสร้างรังใหม่ เพราะนกนางแอ่นจะไม่วางไข่บนรังนกชนิดอื่น บางตัวสร้างจนน้ำลายมีเลือดปน เมื่อได้มาลำบากราคาจึงต้องแพง คนบางกลุ่มจะคิดว่า ของหายาก ของแพงต้องดี หากได้กินคงดีต่อสุขภาพ

จริง ๆ แล้วความเชื่อต่าง ๆเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยังมีอีกมากมาย แต่ขอนำเสนอแค่พอสังเขป ความเชื่อเหล่านี้ทำให้คนเกิดความมั่นใจผิดๆ จนไม่สนใจอาหารประจำวัน ไม่ปฏิบัติตนเพื่อสุขภาพที่ดี การจะมีสุขภาพที่ดีนั้นมีปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน เช่น พันธุกรรม การออกกำลังกาย อาหาร ดังนั้นสารอาหารเพียงตัวใดตัวหนึ่งจึงไม่สามารถทำให้สุขภาพดีได้

สรุป

อาหารเสริมนั้นเป็นอาหารหลักที่ต้องทานเสริม เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดสารอาหาร แต่สำหรับผู้ที่กำลังต้องการเสริมความแข็งแรงและป้องกันไม่ให้ร่างกายพบเจอปัญหาต่าง ๆ นั้นควรเลือกทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทั้งนี้ก็แยกกันออกแล้วใช่หรือไม่ ว่าอาหารเสริมกับเสริมอาหารต่างกันอย่างไร

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มาข้อมูล : kovic.co.th

วิตามิน กับ อาหารเสริม ดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่

วิตามิน กับ อาหารเสริม ดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่

ในปัจจุบันนี้ ตลาดของวิตามินและอาหารเสริมนั้นแพร่กระจายไปอย่างกว้างขว้าง สังเกตได้จากวิตามินและอาหารเสริมมากมายหลายยี่ห้อวางขายอยู่เต็มท้องตลาด มีทั้งสรรพคุณที่ช่วยบำรุง เปลี่ยนผิวเสียให้เป็นผิวสวย ลดน้ำหนัก ลดไขมัน และอื่น ๆ อีกมากมาย

ซึ่งก็มีผู้บริโภคหลายคนทานวิตามินและอาหารเสริมรวมกันหลายประเภท เพื่อหวังการบำรุงแบบเต็มพิกัด แต่บางคนก็ยังไม่กล้าทานเพราะกลัวผลเสียที่อาจตามมา ดังนั้นในวันนี้ Kovic จะพาไปไขข้อข้องใจ ว่าจริง ๆ แล้วการทานวิตามินหรืออาหารเสริมนั้น ดีต่อสุขภาพของเราจริงหรือไม่ ถ้าอยากทาน จะต้องทานอย่างไรให้ได้ผล เราไปดูพร้อม ๆ กันเลย

วิตามิน คืออะไร

วิตามิน คือ สารอาหารที่ร่างกายของเราต้องการ เพื่อให้เซลล์ใช้ในการทำงานเจริญเติบโตและมีพัฒนาการที่ปกติ เราสามารถแบ่งวิตามินออกได้ 2 ประเภทหลัก ตามกลไกที่เกิดขึ้นในร่างกาย โดยประเภทแรกก็คือ วิตามินที่ละลายได้ในไขมัน ประกอบด้วย วิตามิน A, D, E และ K วิตามินเหล่านี้จะถูกสะสมในเนื้อเยื่อไขมันในร่างกาย ซึ่งเป็นแหล่งที่สามารถดูดซึมไปใช้ได้ง่าย

วิตามินอีกประเภท คือ วิตามินที่สามารถละลาบยได้ในน้ำ เช่น วิตามิน B และ C วิตามินกลุ่มนี้ร่างกายจะนำเข้าไปใช้ทันที โดยไม่ได้มีการเก็บสะสมไว้ในร่างกาย วิตามินส่วนเกินนอกเหนือจากที่ร่างกายต้องการใช้จะถูกขับออกผ่านปัสสาวะ ยกเว้นวิตามิน B12 ซึ่งสามารถสะสมอยู่ในตับได้เป็นปี ๆ

อาหารเสริม คืออะไร

จริง ๆ แล้ว ความหมายของคำว่า “อาหารเสริม” ในบัญญัติของเภสัชกรรมคือ อาหารจากธรรมชาติที่ต้องทานเสริมเป็นพิเศษจากมื้ออาหารหลัก 3 มื้อ เพื่อดูแลสุขภาพในภาวะต่าง ๆ เช่น ให้ร่างกายเจริญเติบโตได้ตามวัย เสริมร่างกายจากการขาดอาหาร ช่วยรักษาโรคบางชนิด หรือช่วยเสริมให้สุขภาพดีทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น

วิตามิน กับ อาหารเสริม ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร

วิตามินและอาหารเสริม แต่ละตัวมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงแตกต่างกันออกไป บางตัวช่วยบำรุงผม บางตัวช่วยบำรุงเล็บ บางตัวช่วยเสริมธาตุอาหารที่ร่างกายขาดไป ฟังดูแล้วมีประโยชน์ แต่นอกจากช่วยบำรุงแล้ว วิตามินและอาหารเสริมเหล่านี้ส่งผลเสียต่อร่างกายของเราได้ หากทานแบบไม่ถูกวิธี

วิตามินและอาหารเสริมทำให้ตับทำงานหนักขึ้น

วิตามินและอาหารเสริม หากผลิตมาแบบไม่ได้มาตรฐานมักจะมีสารเคมีปะปนมาด้วย หากทานวิตามินและอาหารเสริมเหล่านี้มาก ๆ ก็จะทำให้เรารับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว นานวันเข้า ตับก็จะยิ่งทำงานหนัก เพราะต้องคอยกรองสารอาหารที่จำเป็นไปพร้อม ๆ กัน กับกำจัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก เพิ่มโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้ตับและไตเสื่อมไวขึ้นนั่นเอง

วิตามินและอาหารเสริมที่ดูดซึมไม่หมดจะตกค้างสะสมอยู่ในร่างกาย

วิตามินและอาหารเสริมบางชนิดที่ละลายในน้ำได้ไม่ดี  ร่างกายจะดูดซึมไปใช้ยากจนเกิดเป็นสารตกค้างอยู่ เมื่อทานเป็นปริมาณมากต่อเนื่องกันก็จะตกค้างอยู่ในร่างกาย ซึ่งส่งผลเสียต่อตับ หรืออาจทำให้เลือดไม่แข็งตัว วิตามินบางชนิดหากร่างกายได้รับมากเกินไป ยิง่ทำให้เกิดนิ่วในไตได้อีกด้วย

ทานวิตามินหรืออาหารเสริมอาจทำให้โรคประจำตัวกำเริบ

วิตามินหรืออาหารเสริมบางอย่าง แม้จะมีประโยชน์กับคนทั่วไป แต่อาจเป็นอันตรายกับคนที่มีโรคประจำตัวเช่นวิตามินซี ที่มีผลกระทบ ทำให้เลือดแข็งตัวช้าขึ้น ทั้งยังเร่งให้เม็ดเลือดแดงแตกง่าย จึงเป็นอันตรยกับผู้ป่วยในกลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับเม็ดเลือดแดง หรือวิตามินเอ ที่ดูดซึมยาก คั่งค้างและสะสมในตับได้ง่าย จึงไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคไต

คอลลาเจนและกลูต้า อาหารเสริมที่ต้องระวัง

คอลลาเจนและกลูต้า อาหารเสริมยอดฮิตสำหรับคนอยากผิวขาวใสเต่งตึง แต่อันที่จริงแล้ว อาหารเสริมทั้ง 2 อย่างนี้ ยังไม่มีผลการวิจัยไหนที่จะยืนยันคุณสมบัติ ผลลัพธ์ที่แท้จริง รวมไปถึงผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายได้ ถือเป็นอาหารเสริม 2 ชนิดที่ควรระมัดระวังให้ดีก่อนตัดสินใจทาน

วิตามินกับอาหารเสริม ทานอย่างไรให้ได้ผล

ไม่ใช่ว่า วิตามินและอาหารเสริม จะส่งผลเสียไปซะหมด หากเลือกทานให้ดี ทานให้ถูก ก็จะช่วยบำรุงร่างกายได้อย่างแน่นอน

เลือกกินวิตามินกลุ่มละลายน้ำได้

หากต้องการทานวิตามิน ให้เลือกทานวิตามินที่ละลายในน้ำได้ดี เช่นวิตามินซี วิตามินบี หรือโฟเลต เพราะร่างกายจะสามารถดูดซึมไปใช้ได้ง่าย ไม่สะสมตกค้าง ไม่ทำให้ตับหรือไตต้องทำงานหนักมากเกินไป

เลือกอาหารเสริมที่เป็นโมเลกุลขขนาดเล็ก

สำหรับอาหารเสริม ก็ควรเลือกอาหารเสริมที่ผลิตแบบได้มาตรฐาน เป้นอาหารเสริมที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก ก็จะทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่า และไม่ตกค้างสะสมอยู่ในร่างกายเช่นกัน

อ่านฉลากบรรจุภัณฑ์วิตามิน / อาหารเสริม ให้ละเอียด และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

วิตามินและอาหารเสริมแต่ละชนิด จะมีวิธีการทานแตกต่างกัน บางชนิดทานครั้งเดียวตอนเช้า บางชนิดทานครั้งเดียวก่อนนอน หรือบางชนิดทานสามครั้งหลังอาหาร นอกจากนั้นยังมีข้อควรระมัดระวังและคำแนะนำอื่น ๆ ดังนั้น หากต้องการทานอาหารเสริม หรือวิตามินให้เห็นผล ควรอ่านฉลากบรรจุภัณฑ์ให้ละเอียด และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ตรวจร่างกายก่อนทานวิตามิน / อาหารเสริม

ร่างกายของคนเรานั้นมีข้อกำหนดและขีดจำกัดอยู่หลายประการ การจะทานวิตามินหรืออาหารเสริมให้เห็นผล จึงควรปรึกษาแพทย์ และเข้ารับการตรวจร่างกายหาปริมาณวิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ก่อน เพื่อเลือกทานแต่วิตามินหรืออาหารเสริม ที่ร่างกายของเราขาดไป หรือได้รับไม่เพียงพอเท่านั้น

สรุป

อาหารเสริม / วิตามินบางอย่าง ถ้าได้รับมากเกินความจำเป็น ร่างกายก็จะกำจัดออกหรือถ้ากำจัดออกไม่หมด ก็จะตกค้างอยู่ในร่างกาย นอกจากจะไม่ได้ประโยชน์และยังให้โทษ ทั้งยังทำให้เสียเงินโดยใช่เหตุอีกด้วย

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มาของข้อมูล

https://www.officemate.co.th/blog/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1/

เคล็ดลับออกแบบฉลากสินค้าเพิ่มยอดขาย

เคล็ดลับออกแบบฉลากสินค้าเพิ่มยอดขาย

การจะมีแบรนด์อาหารเสริมสักตัวนั้นไม่ใช่ง่าย เพราะเจ้าของแบรนด์นั้นจะต้องมีหลายอย่างให้ต้องคิด ถ้าการคิดค้นอาหารเสริมที่ต้องการขาย การค้นหาโรงงานที่รับผลิต การคิดค้นสูตร การหาตลาด หรือการออกแบบบรรจุภัณฑ์

โรงงานอาหารเสริม

แต่เมื่อได้ของที่ต้องการมาครบจนเกิดเปิดอาหารเสริมพร้อมวางจำหน่ายหรือได้ทำการจำหน่ายไปแล้ว สังเกตหรือไม่ว่าทำไมแบรนด์ของเราถึงขายไม่ค่อยได้ ทั้งที่สรรพคุณนั้นแน่นไปด้วยคุณภาพขนาดนั้น อาจจะเป็นเพราะฉลากสินค้าของเรานั้นไม่โดดเด่นเหมือนของแบรนด์อื่นหรือเปล่า ดังนั้นถ้าอยากให้สินค้าของเราปังทุกด้าน ฉลากสินค้าก็สำคัญนะ

แต่เจ้าของแบรนด์หลายคนอาจจะกังวลว่าแล้วจะทำยังไงให้ฉลากสินค้าของเราให้ปังละ วันนี้เราได้รวบรวมเคล็ดลับที่ดีที่สุดในการนำเสนอฉลากติดสินค้า เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล จากการออกแบบที่ดีนั้นจะยิ่งสร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์ของเราได้เป็นอย่างดี และจำไว้เสมอว่าฉลากติดสินค้าที่ดีจำเป็นจะต้องใส่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์กับลูกค้าเสมอ

7 ข้อที่ควรมีในฉลากติดสินค้า

  • โลโก้
  • ชื่อของสินค้า
  • คำอธิบายสั้น ๆ
  • ส่วนผสมของอาหาร (ถ้ามี)
  • ชื่อโรงงาน
  • บาร์โค๊ต
  • ข้อมูลบริษัทของเรา

เมื่อเราตัดสินใจแล้วว่าจะนำข้อมูลไปใส่ไว้ในฉลากสินค้ายังไง สามารถเริ่มการออกแบบดีไซน์ฉลากสินค้าเราได้เลย เรามาเรียบเคล็ดลับน่ารู้ในการออกแบบฉลากติดสินค้าเพิ่มเติมต่อกันเลย เลือกขนาด และรูปแบบฉลากติดสินค้าโดยดูจาก รูปร่างแพ๊คเกจจิ้ง

ก่อนที่เราจะเริ่มออกแบบดีไซน์ฉลากติดสินค้า ควรเริ่มจากการวัดรูปร่างแพ็คเกจจิ้งของเรา โดยองค์ประกอบที่จำเป็นต้องใช้ก็คือ สี รูปแบบ รูปร่าง และอื่น ๆอีกมากมาย สิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือ เราจำเป็นจะต้องเลือกฉลากติดสินค้าให้เหมาะสมกับแพ็คเกจจิ้งของเรา เมื่อได้เลือกขนาด และ รูปแบบของแพ็คเก็ตจิ้งเรียบร้อยแล้วตอนนี้ก็มาเริ่มออกแบบกันเลย

ร่างรูปแบบดีไซน์ฉลากสินค้าบนแพ็คเกจจิ้ง

เพื่อช่วยเพิ่มยอดขาย เราควรมีข้อมูลสินค้าที่เหมาะสมใส่ไว้ในข้อความอย่างถูกต้อง หากเราคิดอย่างนักการตลาดเรามาลองตั้งคำถามต่อว่า ความต้องการของลูกค้าคืออะไร และ ลูกค้าจะได้อะไรจากสินค้าของเรา ?  การอธิบายรายละเอียดสินค้าบนฉลากติดสินค้าของเราเป็นกุญแจสำคัญที่สุดในการสร้างภาพลักษณ์ที่สอดคล้องกันกับกลุ่มเป้าหมายและการออกแบบที่โดดเด่นสำหรับพวกเขาเพื่อเพิ่มความสนใจในผลิตภัณฑ์ของเรา 

การออกแบบถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในโลกปัจจุบัน ดังนั้นหากต้องการทำให้สินค้าของเราโดดเด่นจากคู่แข่งขันคนอื่น ห้ามมองข้ามขั้นตอนนี้เด็ดขาด

ใช้ Typography ในการนำเสนอข้อความ

เพื่อให้ข้อความของเราน่าสนใจ และ น่าอ่านมากขึ้นควรเลือกการใช้รูปแบบข้อความแบบ Typography ในการนำเสนอข้อความเพื่อดึงดูดลูกค้าทั้งรายเก่าและรายใหม่ หรือลูกค้าขาจร โดยเฉพาะลูกค้าที่ให้ความสำคัญในภาพลักษณ์ของตัวสินค้าเป็นพิเศษ

ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้จะช่วยเพิ่มยอดขายและการรับรู้ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี และ ยังสร้างความเป็นแบรนด์ของเราได้ดีอีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อตอบสนองลูกค้าบางกลุ่มเพื่อให้เกิดการแชร์ในโลกโซเชียลมีเดีย การเลือกฟอนต์ก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะฟอนตืที่สวยและอ่านง่ายจะช่วยดึงดูดลูกค้าได้ดี ซึ่งเราสามารถเลือกได้เว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น ฟอนต์ไทยยอดนิยม

เว้นพื้นที่ว่างเพื่อให้อ่านตัวหนังสือง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น

ข้อความที่ใหญ่เกินไปสามารถรบกวนสายตาผู้อ่านได้ง่ายมาก ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับฟอนต์ที่เราเลือกใช้ด้วย หากเราใช้ฟอนต์ที่มีความเข้ม และ คม เมื่อนำข้อความมาเรียงด้วยกันแล้วจะดูหนาขึ้น ซึ่งนี่จะทำให้ข้อความดูไม่น่าสนใจ และเยอะมากจนเกินไป เพราะฉะนั้นหากเราเว้นช่องว่างระหว่างข้อความไว้ก็จะช่วยให้ลูกค้าอ่านข้อความได้ง่าย และ สบายตามากยิ่งขึ้น

คุณภาพงานพิมพ์ที่คุณห้ามเมิน!

การเพิ่มคุณภาพงานพิมพ์ จะยิ่งทำให้สินค้าของเราดูน่าสนใจ และ ดูแพงมากยิ่งขึ้น ด้วยรูปแบบการเคลือบงานพิมพ์ที่มันวาว หรือ การเคลือบงานพิมพ์ผิวด้านนี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการพิจารณาสินค้าของลูกค้า เพราะลูกค้าหลายคนมีความชอบส่วนตัวที่เฉพาะแต่ทั้งนี้การนำเสนอคุณภาพที่ดีที่สุดก็ไม่มีคำว่าผิดหวังแน่นอน ในบางครั้งการเลือกรูปแบบกระดาษ หรือ รูปแบบการพิมพ์สามารถทำให้ฉลากติดสินค้าดูน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น เรียนรู้รายละเอียดฉลากติดสินค้าเพิ่มเติมได้เลย

หลายคนคิดว่าฉลากของผลิตภัณฑ์ไม่สำคัญมากเท่าไหร่นัก เพราะหลายคนมักให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์อย่างเดียง แต่อย่างไรก็ตามฉลากติดสินค้าก็คือเครื่องมือการนำเสนอในการขายและสามารถนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับลูกค้าที่กำลังมองหาสินค้าชนิดนั้นอยู่ และยังเป็นการช่วยกระตุ้นการขายสินค้าได้ดีมากยิ่งขึ้น

สรุป

การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งเพื่อต่อสู้กับผู้แข่งขันรายอื่น สิ่งสำคัญที่สุดนั่นก็คือชื่อแบรนด์ของเราจะต้องบ่งบอกถึงสิ่งที่เราต้องการขาย และทำให้ลูกค้านึกถึงตัวสินค้าได้ทันทีเมื่อเห็นชื่อแบรนด์ของเรา วิธีนี้เป็นวิธีที่สามารถเพิ่มโอกาสการขายที่มีคุณภาพได้อย่างมากเลยทีเดียว

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มาของข้อมูล

https://kovic.co.th/

วิธีเลือกอาหารเสริมให้คุ้มค่า

วิธีเลือกอาหารเสริมให้คุ้มค่า

ถ้าพูดเทรนด์ที่กำลังมาแรงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายคนก็ต้องคนนึกถึงเทรนด์สุขภาพ เพราะไม่ว่าใครก้ต่างหันมาดูแลตัวเองกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมไปถึงการทานอาหารเสริมและวิตามิน แต่การเลือกอาหารเสริมและวิตามินนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จึงต้องมีวิธีการเลือกอาหารเสริมมาฝากกัน เพื่อให้ทุกคนเลือกซื้อกันอย่างคุ้มค่า ปลอดภัย ทานแล้วได้ประโยชน์ตตามความต้องการ

ผลิตอาหารเสริม

ดังนั้นเพื่อให้เราได้ทานอาหารเสริมได้อย่างคุ้มค่า เราจะต้องมีวิธีการเลือกอาหารเสริม โดยวิธีดังกล่าวมีดังต่อไปนี้

อาหารเสริม คืออะไร

คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ความหมาย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไว้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้รับประทานโดยตรง นอกเหนือจากการรับประทานอาหารหลักตามปกติ ซึ่งมักอยู่ในรูปลักษณะเป็นเม็ด แคปซูล ผง ของเหลว หรือลักษณะอื่นและมีจุดมุ่งหมายสำหรับบุคคลทั่วไปที่มีสุขภาพปกติ ไม่ใช่สำหรับผู้ป่วย หากผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว จะต้องเป็นของเหลวที่บริโภคโดยไม่มุ่งหมายเพื่อให้มีรสชาติ บริโภคในลักษณะต่างจากเครื่องดื่มทั่วไป หรือเป็นของเหลวข้นสำหรับหยดใส่ผักหรือน้ำผลไม้ เพื่อมุ่งหมายในการให้สารบางอย่าง

วิธีเลือกอาหารเสริมให้คุ้มค่า

คำนึงถึงความจำเป็นต่อร่างกาย

ร่างกายแต่ละคนต้องการสารอาหารเสริมแตกต่างกันไปตามสภาพเช่น หนุ่มสาวที่เพิ่งอายุ 20 ยังไม่เผชิญกับปัญหากระดูกพรุน ก็อาจไม่จำเป็นต้องทานอาหารเสริมอย่างพวกแคลเซียม หรือคนที่ไม่ได้มีปัญหาผิวหนังเป็นพิเศษ อาจไม่จำเป็นต้องทานวิตามินเอเสริม เพราะที่รับจากอาหารก็เพียงพอแล้ว และหากทานมากเกินไป วิตามินเอก็อาจสะสมในร่างกายจนเป็นโทษได้

ดังนั้น การจะเลือกซื้ออาหารเสริมและวิตามินสักกระปุก ควรถามตัวเองก่อนว่าจำเป็นหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เราซื้อโดยไร้ประโยชน์

ดูส่วนประกอบและปริมาณที่เหมาะสม

ฉลากของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและวิตามิน มักจะมีระบุไว้เสมอว่าผลิตภัณฑ์ตัวนั้นประกอบด้วยสารอาหารอะไรบ้าง และมีปริมาณเท่าไหร่ต่อหนึ่งหน่วย บริโภค เช่น อาหารเสริมบำรุงผิว มีส่วนประกอบของ Strawberry Extract ซึ่งเราต้องดูให้ดี แนะนำมาเปรียบเมียบว่าปริมาณที่เราทานเข้าไปคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของ RDA หรือปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้รับประทานต่อวัน ซึ่งหากอาหารเสริมมีปริมาณสารอาหารไม่ถึง 100% ของ RDA เราก็จำเป็นต้องรับวิตามินและเกลือแร่จากอาหารเพิ่มเติมอีก

เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีการรับรอง

อาหารเสริมและวิตามินทุกชนิดที่เราจะทาน ต้องมั่นใจก่อนว่ามี อย. อย่างถูกต้องครบถ้วน ซึ่งแสดงว่า ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา นอกจากนี้มาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) ก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะบ่งบอกถึงมาตรฐานในอุตสาหกรรมการผลิตยาและเครื่องสำอาง และในสหรัฐอเมริกาก็ยังมีองค์กร NSF ไว้สำหรับตรวจสอบและควบคุมสารปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์อีกด้วย ซึ่งถ้าอาหารเสริมและวิตามินที่เราจะซื้อมีเครื่องหมายมาตรฐานเหล่านี้ ก็เป็นอันมั่นใจได้ในอีกระดับหนึ่ง

ดูวิธีการทานที่ถูกต้อง

วิธรการทานอย่างถูกต้อง เป็นอีกหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้อย่างอื่น ก่อนซื้อจึงต้องอ่านฉลากให้ดีว่า ผลิตภัณฑ์ควรทานเวลาใด ทานพร้อมกับอาหารได้หรือไม่ ต้องทานวันละกี่ครึ่ง / กี่เม็ด และนอกจากนี้หากเราซื้อวิตามินอาหารเสริมหลายตัวมาทานร่วมกัน ต้องอย่าลืมว่าสารอาหารแต่ละตัวอาจออกฤทธิ์ส่งเสริมหรือหักล้างกันได้ด้วย เช่นธาตุเหล็กจะดูดซึมได้ดีหากทานร่วมกันกับวิตามินซี แต่จะดูดซึมได้แย่ลงหากทานพร้อมกับแคลเซียม ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราต้องศึกษารู้ไว้ก่อนทาน

อย่าตามกระแส และอย่าเห็นแก่ของถูก

การโฆษณาก็เป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยดึงดูดลูกค้าได้ดี เช่นโฆษณาวิตามินเพื่อผิวใส ผิวขาว 1 แถม 1 อาจล่อตาล่อใจหลายคนให้อยากซื้อมาลอง แต่อย่าเพิ่งใจร้อน เราควรพิจารณาสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ให้ดีกว่าก่อนว่าจริงหรือไม่

โดยศึกษาจากหลาย ๆ แหล่งและบางครั้งของถูกก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป ต้องดูก่อนว่าผลิตภัณฑ์ผ่านการรับรองหรือไม่ ส่วนประกอบและคุณสมบัติเป็นอย่างไร เพื่อให้ตัดสินใจเลือกซื้อได้อย่างฉลาดและคุ้มค่า

สิ่งสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับอาหารเสริม

  • อาหารเสริมเหล่านี้ ทำหน้าที่เพียงแค่ทดแทนสารอาหารที่เราขาดไปเท่านั้น
  • ปัจจุบันอาหารเสริมหาซื้อได้ง่ายและสะดวก ไม่มีแพทย์มาอนุมัติหรือเขียนใบสั่งยา ทำให้ผู้ป่วยบางคนเป็นโรค
  • ผู้ซื้อบางคนคิดว่า ทานในปริมาณมากได้ แต่ผู้ซื้ออาจลืมนึกไปว่าสารอาหารบางอย่างการทานมากไป น้อยไปหรือการทานต่อเนื่องติดต่อกัน อาจเกิดโทษต่อร่างกายได้
  • ผู้ซื้อส่วนใหญ่มักหลงเชื่อและคิดว่า มีคนใช้แล้วได้ผลดีมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทำให้ผิวขาวหรือลดน้ำหนัก ซึ่งจริง ๆ แล้วควรตรวจสอบจากผลการวิจัยและมาตรฐานที่ตัวสินค้านั้นได้รับก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์

สรุป

อาหารเสริมไม่ใช่อาหารหลักที่เราทานทั่วไป ดังนั้นควรพักผ่อนให้เพียงพอและทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ก็จะช่วยดูแลสุขภาพของเราให้แข็งแรงไปได้อีกยาวนาน แต่สำหรับใครที่จำเป็นต้องทานอากหารเสริม ก็อย่าลืมพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ ให้ดีก่อนเสมอ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองและเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพจากอาหารเสริมที่ทานเข้าไปมากที่สุดนั่นเอง

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มาของข้อมูล

https://www.mannaturecococap.com/blog/read/24

How to เป็นเจ้าของแบรนด์อาหารเสริมเงินล้าน 8 ขั้นตอน

How to เป็นเจ้าของแบรนด์อาหารเสริมเงินล้าน 8 ขั้นตอน

ปัจจุบันธุรกิจอาหารเสริมนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากคนยุคใหม่ มีไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตที่ค่อนข้างเร่งรีบ อยากผอม อยากขาว อยากสวยไวกันมากขึ้นเลยจำเป็นต้องมีอาหารเสริมมาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนยุคใหม่ จึงทำให้มีหลายคนอยากมีธุรกิจอาหารเสริมเป็นของตัวเอง

ผลิตอาหารเสริม

แต่ส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตรงไหน ต้องติดต่อกับใคร ดำเนินการอย่างไร หาโรงงานผลิตอาหารเสริมจากที่ไหน และทำยังไงให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ วันนี้เราเลยจะมาพูดถึง How to เป็นเจ้าของแบรนด์อาหารเสริมเงินล้านใน 8 ขั้นตอนกัน

มีลิสต์อาหารเสริมที่ต้องการผลิตไว้ในใจ

ก่อนอื่นเลยเจ้าของแบรนด์นั้นจะต้องรู้ว่า อาหารเสริมที่ต้องการผลิตนั้นจะผลิตออกมาในรูปแบบใด เนื่องจากว่าในปัจจุบันนั้นอาหารเสริมมีรูปแบบที่หลากหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริมเพื่อผิวขาว อาหารเสริมลดน้ำหนัก อาหารเสริมคอลลาเจน อาหารเสริมบำรุงสุขภาพ โดยมีทั้งแบบเม็ด แบบแคปซูล แบบผงชงดื่มให้ได้เลือกกันอย่างมากมาย

เพราะฉะนั้น เราจะต้องทำวิเคราะห์หรือเจาะความต้องการของเรากันก่อนว่าอยากได้อาการเสริมแบบใด เช่น อยากได้อาหารเสริมลดหน้ำหนัก จะเอาแบบผงหรือเม็ดเป็นต้น

ปรึกษากับโรงงานผลิตที่ดี ได้คุณภาพ

โรงงานผลิตที่ดีได้คุณภาพก็ทำให้ได้สินค้าออกมาดีและมีคุณภาพ เพราะฉะนั้นเราจะต้องเลือกโรงงานที่ดีและมีคุณภาพ โดยสำรวจก่อนว่าโรงงานที่เราเล็งไว้มีมาตรฐานอะไรรับรองบ้างเช่น GMP, HACCP, ISO, อย.หรือแม้แต่ HALAL สำหรับเจ้าของแบรนด์ที่ต้องการผลิตสินค้าให้กลุ่มผู้นับถือศาสนาอิสลามสามารถทานได้

โดยหลังจากเลือกโรงงานและพูดคุยกับทางพนักงานขายเบื้องต้นแล้ว เจ้าของแบรนด์สามารถเลือกได้ว่าจะใช้สูตรที่ทางโรงงานมีอยู่แล้วหรือต้องการพัฒนาสูตรใหม่กับทางโรงงานเพื่อให้ได้สูตรที่เฉพาะแบรนด์ของตัวเองเพื่อสร้างความแตกต่างก็สามารถเพิ่มยอดขายได้เช่นกัน โดยทั้งสองแบบมีความแตกต่างกันทั้งนี้

  • ใช้สูตรมาตรฐานของโรงงาน เราสามารถตั้งชื่อแบรนด์ของเราได้เลย หลังจากนั้นทางโรงงานจะเอาชื่อและสูตรไปทำการยื่น อย.ให้ ระยะเวลาก็แล้วแต่สูตร ข้อดีของแบบนี้คือ สามารถนำไปขายได้เลยไม่ต้องเสียเวลาคิดค้นสูตรใหม่
  • คิดค้นสูตรใหม่ โดยคิดค้นไปพร้อมกับโรงงาน เริ่มจากกำหนดความต้องการของตัวสูตรเช่นผลลัพธ์ที่ต้องการหรือ สารสกัด ตัวหลักที่ต้องการใช้ จากหลังทางฝ่ายคิดค้นและวิจัยสูตรจะทำการคิดสูตรมาให้เลือก เมื่อได้สูตรที่ตรงใจแล้วก็ดำเนินการยื่นอย.ได้เลย ข้อดีของแบบนี้คือสินค้าของเราจะมีสูตรที่ไม่มีเหมือนใคร และสามารถความโดดเด่นได้

ในการยื่นอย.นั้น เราจะต้องดูในดีว่าโรงงานที่เราผลิตนั้นมีเจ้าหน้าที่ที่คอยช่วยเรื่องอย. หรือไม่ เพราะถ้าหากว่าโรงงานนั้นไม่มี เราจะต้องทำการยื่นขออย.เอง ซึ่งจะทำให้เวลาเป็นอย่างมาก แนะนำให้เลือกโรงงานรับผลิตอาหารเสริมที่มีบริการ One Stop – Service จะดีที่สุด เพราะจะมีบริการที่คอยช่วยเหลือเจ้าของแบรนด์ครบทุกขึ้นตอน ไม่ทิ้งเราไว้กลางทางแน่นอน

กำหนดเป้าหมาย ทิศทางของแบรนด์

มีอาหารเสริมดี แต่ไม่มีทิศทางของแบรนด์เลย ของดีแค่ไหนก็ขายไม่ออกนะ เพราะฉะนั้นข้อนี้จึงเป็นข้อที่สำคัญอย่างมากเพราะจะทำให้เจ้าของแบรนด์นั้น ทราบถึงการวางแผนและดูทิศทางของแบรนด์ในการสร้างอาหารเสริมให้มีจุดขายที่น่าสนใจและแตกต่างนั่นเอง

เมื่อได้สูตรที่ตรงใจก็เปิดผลิตแบบครบวงจรทันที

เมื่อสูตรนั้นผ่านมาตรฐานอย.เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ก็เริ่มทำการผลิตแบบครบวงจรทันทีโดยที่เราต้องเลือกโรงงานผลิตอาหารเสริมที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ ถูกต้องตามกฎหมาย และถ้าโรงงานมีบริการแบบครบวงจรด้วยนัน จะช่วยให้เจ้าของแบรนด์สบายขึ้นแน่นอน

เมื่อทุกอย่างพร้อมก็ออกแบบบรรจุภัณฑ์

ขั้นตอนนี้ทางเจ้าของแบรนด์อาจจะเป็นฝ่ายออกแบบแล้วนำมาเสนอให้กับโรงงานก็ได้ แต่สำหรับเจ้าของแบรนด์บางเจ้าที่ไม่มีหัวทางด้านการออกแบบ ทางโรงงานก็จะมีฝ่ายกราฟฟิคที่จจะคอยให้คำปรึกษา ออกแบบโลโก้หรือบรรจุภัณฑ์มาให้เจ้าของแบรนด์ได้เลือกใช้ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด

ปรึกษากับทีมการตลาด

การตลาดเป็นส่วนที่สำคัญส่วนหนึ่งในการขายสินค้า เพราะถ้าเราเจาะกลุ่มตลาดไม่ถูก เราจะขายสินค้าไม่ได้เลย ซึ่งถ้าหากเรามีทีมการตลาดที่แข็งแรงอยู่แล้ว ก็สามารถสบายใจหายห่วงได้ แต่ถ้าไม่มีล่ะ ? ลองปรึกษากับทางทีมการตลาดของโรงงานดูสิ เขาจะช่วยในการวางแผนจำหน่าย รวมไปถึงการวิเคราะห์ตลาดธุรกิจอาหารเสริม ที่สามารถช่วยให้เจ้าของแบรนด์จำหน่ายสินค้าได้อย่างประสบความสำเร็จ

วางแผนการเงิน

วางแผนทางการเงินไม่ว่าจะเป็นการทำบัญชี รายรับรายจ่าย เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจอย่างไม่คาดคิด จะได้มีเงินทุนสำรองเอาไว้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนั่นเอง

หาตัวแทนจำหน่าย

การหาตัวแทนจำหน่ายเป็นวิธีเพิ่มยอดขายที่หลาย ๆ แบรนด์เลือกใช้กัน เพราะจะทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำหรือเป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็ว และเพื่อขยายธุรกิจให้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วอีกด้วย ยิ่งตัวแทนจำหน่ายเยอะเท่าไหร่ โอกาสในการเติบโตด้านยอดขายก็จะเพิ่มสูงขึ้นมากเท่านั้น

สรุป

การจะเป็นเจ้าของแบรนด์อาหารเสริมนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นเดียวกัน เพราะเจ้าของแบรนด์จะต้องพิจารณาให้ด้านต่าง ๆ ให้ละเอียดและรอบคอบ เพื่อให้สินค้าของเรานั้นโดดเด่นกว่าเจ้าอื่นในตลาด ซึ่งจะส่งผลถึงยอดขาย เพียงเท่านี้การเป็นเจ้าของแบรนด์เงินล้านก็ไม่ไกลเกินเอื้อม

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มาข้อมูล

kovic.co.th

รู้จริงเรื่องอาหารเสริม จากปากผู้เชี่ยวชาญ

รู้จริงเรื่องอาหารเสริม จากปากผู้เชี่ยวชาญ

อาหารเสริม หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นสิ่งที่ ”เสริม” เข้ามา ซึ่งในปัจจุบันนั้นกนะแสของการทานอาหารเสริมก็ดังมากและอยู่ในกระแสมาอย่างยาวนาน ส่งผลให้มีแบรนด์อาหารต่าง ๆ ออกมาแพร่หลาย รวมไปถึงธุรกิจโรงงานรับผลิตอาหารเสริมที่เติบโตตามขึ้นไปด้วย

แต่กระแสของอาหารที่หลาย ๆ คนมักเข้าใจผิดก็คือ การทานอาหารเสริมนู่นนั่นนี่ จะช่วยป้องกันหรือเสกสร้างสารพัดสิ่งวิเศษให้แก่สุขภาพของเราได้อยู่ไม่ขาด ดังนั้นก่อนที่เราจะตามกระแสการทานอาหารเสริมใด ๆ ลองมาฟัง ดร.นพ.ปณต จาก See Doctor Now ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารเสริม รวมถึงเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้อาหารเสริมกันก่อน ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปดูกันเลย

อาหารเสริม คืออะไร ?

อาหารเสริม หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Dietary Supplements) คือ อาหารชนิดหนึ่งตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 เพราะฉะนั้นการบริโภคอาหารเสริม ก็สามารถบริโภคได้ในลักษณะที่เป็นอาหารชนิดหนึ่ง ไม่สามารถอวดอ้างสรรพคุณว่ามีฤทธิ์ในการรักษาโรค บรรเทาอาหารเปลี่ยนแปลงร่างกาย หรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างต่าง ๆ ของร่างกายทุกชนิดได้ เพราะว่าไม่มีใครหรือหน่วงงานใดมารับรอง

เหมือนกับเราทานอาหาร ขนม ซึ่งอยู่ในภายใต้พระราชบัญญัติอาหารเหมือนกัน แม้รูปร่างหน้าตาของมันจะมีลักษณะคล้ายยา เช่น เป็นเม็ด แคปซูล ผงชงดื่ม แต่ก็ไม่ใช่ยา เพราะอะไรที่จะถูกจัดให้เป็นยานั้น ต้องมีการขึ้นทะเบียนตำรับยา ทั้งในต่างประเทศและทะเบียนตำรับยาในประเทศไทย อันนี้จะอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2522

และยาแตกต่างกับอาหารเสริมอย่างมาก การจะขึ้นทะเบียนตำรับยาได้นั้น ต้องมีการพิสูจน์เชิงประจักษ์ทางหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่า ยาตัวนั้นมีผลออกฤทธิ์ตามที่กล่าวอ้างจริง ๆ เช่น ยาตัวนี้เมื่อทานเข้าไปแล้วภายในเวลา 30 นาทีจะลดหรือหายจากอาการปวดหัว ก็จะมีสรรพคุณนี้เขียนอยู่ในฉลากยา อะไรก็ตามวัตถุออกฤทธิ์ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการทำงานของร่างกาย เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของร่างกาย ต้องขึ้นทะเบียนเป็นยาทั้งหมดไม่ใช่อาหาร อาหารเราทานเพื่ออยู่ แต่ยาเราทานเพื่อรักษาโรค ทำให้การทำงานของร่างกายเปลี่ยนแปลงไป

หน้าที่ขององค์การอาหารและยา คือ ดูเอกสารที่ส่งมาเพื่อขึ้นทะเบียนยา ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ถ้าขอเป็นอาหารเสริม มีสรรพคุณเพื่อบำรุงร่างกาย ถ้าเข้าเกณฑ์การเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ก็รับรองให้ตราอย. แต่คนที่เอาไปทำอย่างอื่นต่อเมื่อได้ตรานั้นมาแล้ว มันต้องเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของสังคม และเจ้าของผลิตภัณฑ์ด้วยที่จะไม่โกงคนอื่น การพูดเกินจริงมันคือการหลอกลวง มันก็ทำให้คนสับสนได้

เลือกอาหารเสริมอย่างไรให้ปลอดภัย

วิธีสังเกต อาหารเสริม อย่างแรกต้องดูก่อนว่ามี อย.หรือเปล่า ถ้าไม่มีให้ทิ้งไปเลย เพราะของที่ถือว่าเป็นอาหารทุกชนิด ต้องมีอย.รับรอง อย.จะรับรองว่าอาหารตัวนี้ปลอดภัย ซึ่งอย.จะรับรองแค่ว่าอาหารตัวนี้ปลอดภัยนะครับ ไม่ได้รับรองสรรพคุณอะไร แต่ถ้าเป็นยาจะไม่มีอย. จะเขียนบนฉลากว่าเป็นตำรับยา มีเลขตำรับยา

อย่างที่สองให้ดูที่ฉลากว่าอาหารเสริมนั้นมีสรรพคุณว่าอย่างไร ส่วนใหญ่จะมีสรรพคุณทั่วไปว่าใช้บำรุงร่างกาย จะเขียนแค่นั้น แต่เวลาโฆษณาจะเป็นอีกแบบหนึ่ง มีการโม้ขึ้นมา ทานแล้วขาว ทานแล้วผอม จะสังเกตได้ง่ายๆ ว่าของไหนที่ไม่ได้มีสรรพคุณนั้นจริง จะจดทะเบียนเป็นอาหารเสริมแล้วอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง โดยไม่ได้ระบุในฉลากของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ซึ่งจริง ๆ ผิดตามพระราชบัญญัติโฆษณานะครับ

การที่อวดอ้างว่าทานแล้วทำให้หายโรค ทานแล้วตื่นมากระปรี้กระเปร่า มีสุขภาพดี กินแล้วฉลาด รักษาได้ทุกโรคเลย ถ้ามันมีจริง ๆ คงรวยระดับโลกแล้ว ต้องดูด้วย อย่างบางบริษัทที่ใหญ่ระดับโลก เขาคงไม่กล้าโฆษณาเกินจริง เพราะเรื่องราวพวกนี้มันค่อนข้างรุนแรง ต้องมีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก พวกนี้จะไม่ค่อยโฆษณาเกินจริงเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นมาเอง ส่วนมากจะเกินจริง ที่สำคัญเลยให้ดูที่ฉลากว่ามีสรรพคุณอะไร มีอย.รับรองไหม

เราจำเป็นจะต้องทาน อาหารเสริม หรือไม่ ?

อย่างที่บอก มันเสริมเข้ามา และมันคืออาหารชนิดหนึ่งที่ใช้กิน เพื่อเสริมจากอาหารที่ทานอยู่ ถ้าเกิดทานอาหารดีอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องทานอาหารเสริมก็ได้ อาหารเสริมคืออาหารชนิดหนึ่ง จะทานหรือไม่ทานก็ได้แล้วแต่ชอบ และบางอาหารเสริมก็ไม่ได้มีสรรพคุณตามที่โฆษณา

ถ้าถามว่าจำเป็นต้องทานไหม ตอบเลยว่าไม่จำเป็น แต่ถ้าอยากทานก็ทานได้ อย่างเช่นถามว่าคนเราต้องดื่มเหล้าหรือเปล่า ก็แล้วแต่คน ถ้าอยากทานก็ทานไปเถอะ แต่ไม่ใช่ว่าทานอาหารเสริมแล้วมันจะมีประโยชน์อะไรต่อร่างกายนะ ถ้าถามว่าควรทานเพื่อรักษาโรคอะไรบ้างอย่าง หรือเพื่อให้ร่างกายเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น อันนี้บอกได้เลยว่าไม่จริง

ข้อระวังเกี่ยวกับอาหารเสริม

เรื่องของการส่งผลเสียต่อร่างกาย อย่างแรกต้องดูว่าที่เราทานคืออะไร อย่างที่สองคือต้องดูปริมาณที่ทานเข้าไป

ยกตัวอย่างเช่น วิตามินที่ทานเข้าไป ถ้าเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำจะไม่ค่อยมีปัญหาในการทานเกิน เช่น วิตามินซี วันนี้กิน 100 มิลลิกรัม วันต่อมาทาน 3000 มิลลิกรัม ทานติดต่อกันไปสามเดือน ก็ไม่เป็นไรนะ เพราะมันถูกขับออกทางปัสสาวะหมด ถ้าร่างกายนำไปใช้อย่างเพียงพอแล้ว ร่างกายมันไม่เก็บไว้ มันทิ้งหมด ถ้าเราทานเกินก็ไม่มีปัญหาเรื่องการสะสม ก็เหมือนเราไม่ได้กินอะไรไป

ส่วนวิตามินเอ ดี อี เค เป็นวิตามินชนิดที่ไม่ละลายในน้ำนะครับ ละลายในไขมันเท่านั้น แล้วร่างกายไม่ได้ขับไขมันออก น้ำร่างกายเราขับออกทางปัสสาวะ เหงื่อ ลมหายใจ แต่ไขมันไม่ได้ถูกขับออก เลยต้องถูกเผาผลาญออกเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้ากินวิตามินเอ ดี อี เคไปเรื่อย ๆ มันสะสม และก่อให้เกิดโรคที่ผิดปกติ ไม่ควรทานเกินที่ควรจะทาน

วิตามินในทางการแพทย์ ตามปกติหมอจะเป็นผู้สั่งให้คนไข้ทานในบางคน ในกรณีที่มีหลักฐานชัดเจนว่า คนไข้ขาดวิตามินบางชนิด เช่น คนไข้มาด้วยโรคลักปิดลักเปิด หมอต้องรักษาคนไข้คนนี้ด้วยการให้วิตามินซีเสริมเข้าไป วิตามินเหล่านี้ถือเป็นอาหารเสริม ซึ่งการให้ในทางการแพทย์มีข้อบ่งชี้เดียวคือ ในกรณีที่คนไข้ขาด การที่จะบอกว่าคนๆ นี้ขาด คือแสดงอาการ หรือไปเจาะตรวจ แต่ก็แพง ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปเจาะ ถ้าเราไม่มีอาการอะไร ก็แสดงว่าร่างกายเราปกติ ถ้าผิดปกติ มันจะแสดงอาการ

การดูโรงงานที่ผลิตอาหารเสริมก็สำคัญ

อาหารที่ดี ย่อมต้องมาจากโรงงานอาหารเสริมที่ดี เพราะฉะนั้นเวลาที่เลือกซื้ออาหารเสริมสักตัวหนึ่ง ควรที่จะดูให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นส่วนประกอบ สารสกัดต่าง ๆ คำเตือน ตราอย. และรวมไปถึงชื่อโรงงานผลิต เพื่อที่เราจะได้นำชื่อโรงงานแห่งนั้นไปตรวจสอบในอินเตอร์เน็ตว่าเป็นโรงงานที่ได้มาตรฐานหรือไม่ โดยโรงงานที่ได้มาตรฐานควรมี ใบรับรอง ต่อไปนี้

  • ISO
  • HACCP
  • GMP
  • HALAL
  • อย.

ไม่ใช่แค่ผู้บริโภคเท่านั้นที่ควรดูใบรับรองเหล่านี้จากโรงงาน เจ้าของแบรนด์หรือผู้ริเริ่มสร้างแบรนด์อาหารเสริมก็ควรตรวจสอบเช่นกัน เพราะมันจะเป็นตัวยืนยันว่าโรงงานที่เราสนใจหรือเลือกผลิตอาหารเสริมด้วยนั้นมีคุณภาพและปลิดภัย เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพสู่มือผู้บริโภค

สรุป

อาหารเสริม หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นสิ่งที่ ”เสริม” เข้ามา ไม่ใช่ตัวที่จะสามารถทานเป็นอาหารหลักได้ ดังนั้นควรทานอาหารเสริมให้เหมาะสม พอดีกับความต้องการ และควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มาของข้อมูล