เรื่อง

ทำไมถึงควรมีแบรนด์เป็นของตัวเอง

ทำไมถึงควรมีแบรนด์เป็นของตัวเอง

หากสังเกตให้ดีจะเห็นได้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านนั้น การทำ Personal Branding หรือ การสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองจำหน่ายในโลกออนไลน์ เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบรนด์เสื้อผ้า อาหาร และรวมไปถึงการสร้างแบรนด์อาหารเสริมหรือเครื่องสำอางด้วย เนื่องจากในปัจจุบันผู้คนหันมาบริโภคอาหารเสริมมากขึ้น อาจจะเพื่อต้องการดูแลสุขภาพ เพิ่มเติมสารอาหารต่าง ๆ ในกับร่างกาย หรือเพื่อบำรุงในส่วนต่าง ๆ ที่ต้องการ ในส่วนของเครื่องสำอางก็เพื่อบำรุงผิวพรรณหรือแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับผิวพรรณให้ดีขึ้น ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงทำให้อาหารเสริมและเครื่องสำอางกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจมาก จึงส่งผลให้มีแบรนด์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เหล่านี้เกิดขึ้นมาอย่างมากมาย

แต่การที่มีแบรนด์ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มากขึ้น ทำให้เกิดการสร้างความแตกต่างระหว่างแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น การสร้างคาแรคเตอร์ การสร้างคอนเทนต์ให้โดน แล้วยิ่งในปัจจุบันที่เทคโนโลยีต่าง ๆ มีความก้าวหน้าขึ้น การเจริญเติบโตของโซเชียลมีเดีย ทำให้ผู้คนสามารถเข้าหากันได้มากขึ้น นั้นหมายความว่าผู้บริโภคก็จะสามารถเห็นแบรนด์ของเราได้ง่ายขึ้น

ด้วยความก้าวหน้าเทคโนโลยีนี้ส่งผลให้ผู้คนมากมายต่างอยากผลิตอาหารเสริมหรือผลิตเครื่องสำอางที่เป็นแบรนด์ของตัวเองออกมาสักแบรนด์หนึ่ง แต่บางคนอาจจะยังมีความลังเลอยู่ระหว่างนำเงินมาลงทุนสร้างแบรนด์ของตัวเอง หรือจะเป็นเป็นตัวแทนแบรนด์ผลิตภัณฑ์สักแบรนด์หนึ่ง วันนี้ทาง Kovic ได้มีบทความดี ๆ ในการสร้างแบรนด์ ว่าทำไมเราถึงควรมีแบรนด์เป็นของตัวเอง โดยมีดังต่อไปนี้

การสร้างแบรนด์ของตัวเอง ไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนดัง

การที่เราสร้างคอนเทนต์ออกมาจากประสบการณ์ของตัวเองทั้งเรื่องของงานและไลฟ์สไตล์นั้น จะช่วยให้เรารู้จักและเข้าใจความสามารถของตัวเองมากขึ้น และช่วยสร้างคอนเนกชั่นใหม่ ๆ ให้กับตัวเองได้ด้วย อันจะนำมาซึ่งรายได้ โอกาสทางการค้าอย่างของเราเองก็เริ่มจากการเขียนบล็อกเล่าสตอรี่ไปเรื่อย ๆ เพราะไม่อยากเก็บคอนเทนต์และรูปสวย ๆ เอาไว้ดูคนเดียว

แค่บล็อกนั้นก็ได้พาเราไปเราไปเจอบล็อกเกอร์คนอื่น ๆ ในสายงานต่าง ๆ และทำให้เราเข้าใจการทำ Marketing Online มากขึ้นถ้าหากว่าคอนเทนต์ของเรามีสาระที่แข็งแกร่งพอและมีคนเข้ามาดูเยอะ ก็ยิ่งทำให้แบรนด์ที่เราสร้างขึ้นมานั้น มีความชัดเจนและโดดเด่นออกมาจากคนอื่น ๆ ได้

ช่วยให้คนเชื่อถือเรามากขึ้น

ตัวแบรนด์ของเราที่สร้างขึ้นมากับมือนั้น จะเป็นสิ่งที่บอกว่าเราคือใคร มีความสามารถ เชี่ยวชาญในเรื่องใด ซึ่งทุกอย่างจะถูกส่งผ่านออกมาทางคอนเทนต์ที่สร้างและไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันของเรา คนนอกที่ได้เห็นก็จะมั่นใจได้ว่าเราเก่งในด้านนั้นจริง ๆ และมีความไว้ใจจนอยากจะร่วมงานด้วย

เราจะมีคุณค่าในตัวเองมากขึ้น

เพียงแค่เราต้องทำอย่างไรก็ได้ให้คนหันมาจดจำชื่อเรา เนื้อหาของเรา ที่ทั้งเฉพาะและแตกต่างจากคนอื่น ๆ เช่น ถ้าเขานึกถึงการดูแลผิวพรรณ ก็จะนึกถึงอาหารเสริมหรือเครื่องสำอางของแบรนด์เราเป็นอันดับแรก ยิ่งเราสร้างคอนเทนต์ที่ให้ประโยชน์กับเขาได้มากเท่าไหร่ เขาก็จะประทับใจในตัวเรามากเท่านั้น แล้วก็ยิ่งทำให้มูลค่าของเราสูงขึ้นได้เรื่อย ๆ

สร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้ชีวิต

บางทีก็ต้องเข้าใจว่างานประจำในฝันมันไม่มีจริง เราเคยพยายามหางานที่ตัวเองอยากทำ แต่ไม่ว่าจะหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอที่ถูกใจซักที เพราะฉะนั้นการสร้างแบรนด์ให้ตัวเองจึงเป็นทางเลือกใหม่ที่ไม่ควรมองข้าม ถ้าเราได้สรุปมาแล้วว่าจะทำอะไร แนวไหน จากนั้นก็สร้างคอนเทนต์เกี่ยวกับเรื่องราวนั้น ๆ อย่างชัดเจนก็จะทำให้มีโอกาสที่คนจะหาแบรนด์เราเจอได้มากขึ้น และมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะทำให้ลูกค้าเห็นว่าแบรนด์ของเราน่าสนใจ และสามารถสร้างยอดขายได้

สร้างรายได้เสริมไปจนถึงรายได้หลัก

จริง ๆ แล้วทุกคนก็อยากทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างอย่างเช่นเรื่องเงิน และความไม่แน่นอนในชีวิต ทำให้เราต้องคิดให้รอบคอบก่อนจะตัดสินใจทำอะไรซักอย่างหนึ่ง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องเริ่มสร้างแบรนด์ตัวเอง เพราะงานนี้ต้องใช้เวลาและความอดทนสูงกว่าจะเห็นผลเป็นรูปธรรม

ซึ่งถ้าตัวเรามีความชัดเจนและสามารถหากลุ่มคนที่อยู่ในสายงานเดียวกันและมีคนที่สนใจในแบรนด์ของเราได้นั้น ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก ๆ เพราะมันจะทำให้มีโอกาสในการจ้างงานกันเกิดขึ้น และยิ่งเราใส่ใจดูแลแบรนด์ของเรามากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้สามารถเปลี่ยนอาชีพเสริมเหล่านี้ให้กลายเป็นอาชีพหลักได้เร็วขึ้นเท่านั้น

ช่วยให้เราทำงานได้หลากหลาย

โดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยี เรื่องหลัก ๆ คงหนีไม่พ้นการสร้างคอนเทนต์ เหมือนกันการบอกกับคนอื่นว่าเรามีอะไรมานำเสนอบ้างอย่างเช่น เคล็ดลับในการเขียนบล็อก เทคนิคการทำเว็บให้ติด Search Engine การตัดวิดีโอ ไปจนถึงการแชร์เรื่องราวที่เราชอบทำให้เวลาว่าง อย่างเช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ

นอกจากนี้เรายังหสามารถสร้างคอนเทนต์ เรื่องราวต่าง ๆ จากการใช้โทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียวได้อีกด้วย มี App หลายตัวที่ช่วยให้ชีวิตเราสะดวกขึ้น อย่างเช่น Note ตัวนี้เราใช้เป็นประจำเลย คิดอะไรออกก็พิมพ์ ๆ เอาไว้ก่อนเป็นไอเดีย แล้วก็เขียนต่อขยายไปเรื่อย ๆ ยิ่งก่อนนอนนะสมองยิ่งลื่นเลย

สามารถทำงานด้วยตัวคนเดียวได้

เราไม่จำเป็นต้องจ้างทีมงานเยอะแยะเพื่อสร้างบริษัท แต่เราใช้แค่ความสามารถของเรานั้นในการสร้างเรื่องราวที่เป็นประโยชน์ต่อสร้างและแบรนด์ได้ อย่างเช่น การเขียนบล็อก ทำคลิปวิดีโอ ทำโฟโต้อัลบั้ม หรือจะไลฟ์บนเฟซบุ๊ค หรือยูทูปก็ได้ ซึ่งก็ช่วยดึงดูดคนที่สนใจของแบรนด์ของเราให้เข้ามา ที่สำคัญช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย

สร้างเครือข่ายคนทำงาน และวงคนรู้จัก

ตัวคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่เราสร้างขึ้นจะช่วยดึงดูดคนที่มีความสนใจคล้าย ๆ กัน คนที่อยากจะเรียนรู้เกี่ยวกับความเชี่ยวชาญที่เรามี หรือคนต้องการมาช่วยทำงานที่มีผลงานในสไตล์ที่เข้ากัน อย่างเช่น เรากำลังมองหาคนช่วยทำการตลาดออนไลน์ แล้วคนที่เราได้เจอทางออนไลน์ก็ทำสายนั้นพอดี แต่ไม่ถนัดงานออกแบบ เราก็สามารถร่วมงานกันได้ แถมยังแบ่งบันความรู้ซึ่งกันและกัน ที่สำคัญคือการเอาตัวเองเข้าไปอยู่ตามกรุ๊ปต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสายงาน ซึ่งนั่นจะทำให้เราได้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกมากมายด้วย

ได้เป็นตัวของตัวเอง

แน่นอนว่าเมื่อเป็นแบรนด์ของตัวเอง เราจะสามารถใส่ความเป็นของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีและสนุกมาก ๆ เราสามารถทำได้ทุกวันโดยไม่ต้องฝืนเลย ที่สำคัญคือช่วยเติมเต็มชีวิต ทำให้เราอยู่อย่างมีความหมาย

เป็น Portfolio ชั้นดี

เพราะทุกอย่างคือผลงานที่ผ่านกระบวนการคิดและทำจากเราคนเดียว เรียกว่าได้ว่าเป็นงานของเรา 100% ซึ่งงานเหล่านี้แหละที่จะช่วยยกระดับและเพิ่มมูลค่าให้ตัวคุณ เริ่มทำได้จากการโฟกัสความสนใจของเราก่อนว่าอยากทำ อยากเป็นอะไร จากนั้นก็คัดงานที่เกี่ยวข้องกับสิ่งนั้นออกมานำเสนอให้มีความน่าสนใจ ยิ่งเรามีผลงานมาก คนที่เข้ามาหาก็จะเข้าใจในตัวตนของคุณมากขึ้น

สรุป

การมีแบรนด์เป็นของตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่ดีในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการได้ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำ การสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง ได้เรียนรู้ในการทำธุรกิจเป็นต้น และที่สำคัญในปัจจุบันการสร้างแบรนด์สักแบรนด์ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเราไม่ต้องไปสร้างโรงงาน หรือซื้อเครื่องจักรต่าง ๆ มาเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ออกมา เนื่องจากมีโรงงานรับผลิตอาหารเสริม หรือโรงงานผลิตเครื่องสำอาง ที่พร้อมจะบริการอย่างมากมาย เพียงแต่ต้องศึกษาและโรงงานให้ดี เลือกโรงงานที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และได้รับการรับรอง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ถูกผลิตออกมาอย่างมีคุณภาพ

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน ในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตครีม รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มา : www.specialtyinnovation.com

ปั้นแบรนด์ด้วยเทรนด์ธรรมชาติ รักษ์สิ่งแวดล้อม

ปั้นแบรนด์ด้วยเทรนด์ธรรมชาติ รักษ์สิ่งแวดล้อม

โลกร้อนขึ้นทุกวันเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้แล้ว แต่ต้นเหตุที่ทำให้เกิดโลกร้อนนั้นน้อยมากที่จะตระหนักรู้ว่า แค่เพียงเปิดคอมพิวเตอร์ เปิดแอร์ ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า สบู่ ยาสีฟัน เครื่องสำอาง ทานอาหาร และอื่น ๆ อีกมากมายในชีวิตประจำวันก็ตกเป็นผู้ทำลายสิ่งแวดล้อมได้โดยไม่รู้ตัว เพราะในทุกอุตสาหกรรมการผลิตที่เกิดขึ้นโดยมนุษย์นั้นยากที่จะเลี่ยงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมหรือธรรมชาติ

สร้างแบรนด์อาหารเสริม

ด้วยเหตุการณ์ภาวะโลกร้อนต่าง ๆ ทำให้ผู้คน หน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ หันมาให้ความสำคัญกับการรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยหันมาสร้างภาพลักษณ์ไปจนถึงปรับผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อสร้างกระตระหนักรู้ให้เกิดในกลุ่มชน จนกลายเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดช่วยเสริมภาพลักษณ์อันดีแก่แบรนด์

โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์อาหารเสริมและเครื่องสำอาง ที่ผู้บริโภคหันมาสนใจแบรนด์ที่มีการเลือกสรรจากที่มาจากธรรมชาติ หรือสินค้าที่เป็นแนวรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อม จึงทำให้เทรนด์รักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขยายกว้างขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ดังนั้นในวันนี้ทาง Kovic ได้มีคำแนะนำในการปั้นแบรนด์ด้วยเทรนด์ธรรมชาติ รักษ์สิ่งแวดล้อม

เทคนิคการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ ด้วยพลังรักษ์สิ่งแวดล้อม

การสร้างแบรนด์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการผลิตอาหารเสริม การผลิตเครื่องสำอาง ผลิตครีมหรือแม้แต่การผลิตสบู่ก็ตาม อาจใช้กลยุทธ์แบบเน้นไปที่การบริโภคอย่างยิ่งยืน และสร้างการจดจำแบรนด์ที่ดีให้เกิดขึ้นในหมู่ผู้บริโภค โดยสร้างความรับรู้ว่าแบรนด์นี้เกิดขึ้นมาท่ามกลางความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงใจ ด้วยภาพลักษณ์อันชัดเจน ภายใต้เทคนิคนี้

  • Green Business จากภายในสู่ภายนอก
  • ยกระดับสู่ Green Marketing
  • สร้างความแตกต่างของแบรนด์ส่งต่อผู้บริโภค
  • ปลูกฝังค่านิยมในองค์กรรักษ์สิ่งแวดล้อม
  • รักษามาตรฐานให้ต่อเนื่อง

Green Business จากภายในสู่ภายนอก

ก่อนจะสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ผู้บริโภคจดจำได้ จะต้องเริ่มจากการทำความรู้จักตัวตนของแบรนด์ให้ท่องแท้ก่อนว่า เราคือใคร ทำอะไร และตอบโจทย์ใครได้บ้าง ภายใต้กฎ 3 ข้อคือ

  • ทำไมผู้บริโภคต้องเลือกแบรนด์เรา
  • แบรนด์เราจะโดดเด่นได้อย่างไร
  • แบรนด์จะให้ประโยชน์อะไรกับผู้บริโภค

เพื่อประเมินตัวเองให้ขาด แล้วจะทำให้รู้ถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ชัดเจน ขณะเดียวกันภายใต้โจทย์การปั้นแบรนด์ให้มีพลังจุดกระแสรักษ์สิ่งแวดล้อม การออกแบบโลโก้ แพ็กเก็จจิ้งต่าง ๆ ต้องใส่ใจเรื่องความเป็น Green Business ด้วย

ยกระดับสู่ Green Marketing

แม้ในเรื่องของกลยุทธ์ CSR จะมีรูปแบบหลากหลายที่แต่ละองค์กรพยายามหยิบมาใช้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าในโลกของธุรกิจยุคใหม่ คำว่า “Green” ดูจะหนักแน่นและมีน้ำหนักมากกว่าประเด็นอื่น ๆ ด้วยกระแสของโลกร้อน Green Marketing ได้กลายเป็นโจทย์ให้องค์กรขนาดใหญ่และเล็กต่างนำไปคิดและทำการตีความออกมาในรูปแบบของกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง บางองค์กรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ถึงขนาดตั้งงบและวางแผนระยะยาว ที่จะใช้เรื่องนี้เป็นหนี่งในแบรนดิ้งองค์กร

สร้างความแตกต่างของแบรนด์ส่งต่อผู้บริโภค

นอกจากตัวตนของแบรนด์ การตลาดด้านสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจน การสื่อสารเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ให้ผู้บริโภคตระหนักรู้ว่าแบรนด์ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ดังนั้นหน้าที่หลักที่ผู้ประกอบการจะต้องทำก็คือ การสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนในทุกจุดสัมผัส เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นและรู้สึกแตกต่าง เช่น แบรนด์ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ ให้คุณค่ากับการใช้วัสดุแทนไม้หรือแบรนด์เครื่องดื่มที่ให้คุณค่ากับการใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิล สิ่งเหล่านี้คือการนำมาเล่าถึงความแตกต่างของแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมให้ผู้บริโภคได้ตระหนักและเห็นคุณค่า

ปลูกฝังค่านิยมในองค์กรรักษ์สิ่งแวดล้อม

หากคนในองค์กรตั้งแต่พนักงานระดับล่างยันผู้บริหารระดับสูง ยังไม่รู้ว่าแบรนด์เรามีคุณค่าอะไร ก็ยากที่จะทำให้คนภายนอกหรือกลุ่มลูกค้าเข้าถึงคุณค่าของแบรนด์ได้ ดังนั้น Brand Image ควรเริ่มจากคนภายในออกไปสู่ภายนอก เพื่อให้ทุกคนกลายเป็น Brand Ambassador ด้วยตนเอง และขยายฐานรากออกไปสู่งานบริการที่อาจต้องสื่อสารแทนองค์กรหรือกับลูกค้าต่อไป

ด้วยเหตุนี้เจ้าของแบรนด์จึงต้องมีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การปิดไฟ การควบคุมการใช้พลังงาน ลดการใช้กระดาษ หรือแม้แต่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คนในองค์กรสามารถทำได้เพื่อโลกที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

รักษามาตรฐานให้ต่อเนื่อง

อย่าให้ผู้บริโภคเข้าใจว่า การให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมที่แบรนด์ทำขึ้นเป้นอะไรที่ฉาบฉวย แค่ CSR ที่ทำตามนโยบายปีต่อปีโดยไม่มีความต่อเนื่องเพียงพอ เพราะนั่นเท่ากับว่าที่ลงแรงลงเงินทุนเพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์ไปสู่แบรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อมนั้นเสียเปล่า

ถึงแม้ว่าวันนี้ หรือปีนี้อาจไม่เห็นผลแต่ค่อยเป็นค่อยไป และต่อเนื่องคงมาตรฐานเดิม นี่คือการเปลี่ยนแปลงแบรนด์เป็นแบรนด์ที่ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมที่แท้จริง ดังนั้นถ้าคิดจะใช้กลยุทธ์ในการสร้างภาพลักษณ์อันดีให้แก่แบรนด์ตัวเองด้วยการรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นมิตรกับธรรมชาติก็ควรทำให้เป็นประจำสม่ำเสมอ

สรุป

การรักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นมิตรต่อธรรมชาติมาเป็นกลยุทธ์ทางการตลาด กระตุ้นยอดขาย ต้องตอบโจทย์ให้ได้ตั้งแต่วันแรกก่อนว่า แบรนด์พร้อมจะอยู่กับเรื่องนี้ไปอีกยาวนานหรือไม่ ถ้าเทรนด์ใหม่มาแรงจะปรับให้ไปด้วยกันกับการรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างไร โดยไม่ให้เสียภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ปูทางมานานไปพร้อม ๆ กับการเรียกยอดขายจากผู้บริโภคให้ทันเทรนด์โลกที่เปลี่ยนไว

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน ในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตครีม รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มา : www.bangkokbanksme.com

10 เรื่องต้องโฟกัสก่อนก้าวข้ามมาเป็นเจ้าของแบรนด์

10 เรื่องต้องโฟกัสก่อนก้าวข้ามมาเป็นเจ้าของแบรนด์

การจะเป็นเจ้าของแบรนด์สักแบรนด์หนึ่งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะแบรนด์ธุรกิจอาหารเสริมและเครื่องสำอาง เพราะในปัจจุบันวงการธุรกิจเหล่านี้มีคู่แข่งรายใหม่เกิดขึ้นมาไม่เว้นแต่ละวัน ไหนจะคู่แข่งที่เป็นแบรนด์ดัง ๆ ที่ยึดฐานลูกค้าเอาไว้จำนวนมาก ทำให้การแข่งขันในธุรกิจเหล่านี้ดุเดือดอย่างมาก

สร้างแบรนด์อาหารเสริม

แต่ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่อยากจะมีแบรนด์อาหารเสริมหรือเครื่องสำอางสักแบรนด์ ซึ่งการอยากมีแบรนด์ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ถึงแม้ตลาดนี้จะดุเดือดมากก็ตาม แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะฉะนั้น เราจะต้องมีสิ่งที่ต้องโฟกัสก่อนจะก้ามเข้ามาเป็นเจ้าของแบรนด์อาหารเสริมหรือเครื่องสำอาง

ทำไมธุรกิจถึงต้องมีแบรนด์ ?

ปัจจุบันการแข่งขันทางการตลาดมีสูงขึ้น เนื่องจากธุรกิจมีคู่แข่งจำนวนมากขึ้น สินค้าหรือบริการของธุรกิจมีความแตกต่างกันน้อยลง ธุรกิจจึงใช้แนวคิดสร้างแบรนด์ และมุ่งรักษาแบรนด์ของสินค้าให้แกร่งอยู่เสมอ

 ความหมายของการสร้างแบรนด์ คือ การที่นักการตลาดสร้างควาสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์ของสินค้า กับผู้บริโภคเป้าหมาย โดยใช้เครื่องมือทางการตลาด ซึ่งประกอบด้วย ตราสินค้า คุณภาพของสินค้าและเครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ ทั้ง Online และ Offline  ที่จะทำให้ผู้บริโภครู้จักแบรนด์ และมีความรู้สึกที่ดีต่อแบรนด์นั้น

10 สิ่งที่ต้องโฟกัส ก่อนจะเข้ามาเป็นเจ้าของธุรกิจอาหารเสริมหรือเครื่องสำอาง

  • มองหากลุ่มลูกค้า
  • หา Concept
  • เลือกหาโรงงาน
  • ทดลองสูตร
  • โฟกัสขวดบรรจุ
  • Packaging
  • วิธีการจัดจำหน่าย
  • ศึกษาโมเดลธุรกิจ
  • วางโครงสร้างการคิดราคา
  • Online Marketing

มองหากลุ่มลูกค้า

เชื่อว่าเจ้าของแบรนด์มือใหม่หลาย ๆ คน ที่เริ่มต้นจากการอยากมีธุรกิจของตัวเองซักตัว มักจะเริ่มจากการมองหาโรงงานที่รับผลิตอาหารเสริมหรือรับผลิตเครื่องสำอางก่อนเป็นอันดับแรก จะไปดูสูตรของสินค้าต่าง ๆ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเอาไปขายให้ใคร จริง ๆ การหาโรงงานก่อนหรือดูสูตรไม่ใช่เรื่องแย่ แต่ก็ไม่เรื่องที่ควรทำเป็นอย่างแรกเหมือนกัน

ซึ่งอย่างแรกที่ควรทำเลยก็คือ มองหากลุ่มลูกค้าของเราก่อน ว่าเรานั้นอยากจะทำสินค้าเพื่อเจาะตลาดคนกลุ่มนั้น เมื่อได้กลุ่มคนที่ต้องการแล้ว สิ่งต่าง ๆ หลังจากนั้นจะง่ายขึ้น ไม่ว่าจะการเลือกประเภทสินค้า สูตรของสินค้า สิ่งเหล่านั้นจะกลายเป็นสิ่งที่ช่วยให้ลูกค้าสนใจแบรนด์ของเรามากขึ้น ดังนั้นควรเริ่มต้นจากการหาสิ่งที่ตัวเองถนัด และมีตลาดรองรับ มองหาลูกค้าก่อนเสมอ

หา Concept

อย่างบอกที่ในข้อแรกถ้ามองหากลุ่มลูกค้าเจอก่อนอะไรหลายอย่างก็จะง่ายขึ้น อย่างเช่นการ หา Concept ให้กับสินค้าหรือแบรนด์ ต้องยอมรับก่อนว่าในปัจจุบันนี้การแข่งขันทางด้านคุณภาพและราคาอาจไม่พออีกต่อไป หากเราไม่สามารถหาจุดเด่นของสินค้า หรือแบรนด์ของเราได้ อาจทำให้แลรนด์ของเราตายหายจากตลาดไปเลย

ดังนั้นเราควรมองหา Concept ของสินค้าหรือแบรนด์ที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เพื่อช่วงชิงความสนใจของลูกค้าในตลาด

เลือกหาโรงงาน

ถึงส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของการมีแบรนด์กันแล้ว ต้องยอมรับกันเลยว่าสินค้าที่ดีนั้นย่อมต้องมาจากโรงงานที่ดี ดังนั้นการหาโรงงานสักที่เพื่อผลิตสินค้าที่เราจะนำไปขายนั้น เราจะต้องศึกษาข้อมูลให้ เพราะแต่ละโรงงานจะมีจุดเด่นและสิ่งที่ถนัดไม่เหมือนกัน เวลาเลือกโรงงานควรเลือกโรงงานที่ถนัดในการผลิตสินค้าที่เราต้องการด้วย เพื่อให้สินค้าออกมามีคุณภาพ

ทดลองสูตร

ถ้าไม่ลอง เราจะรู้กันอย่างไร เพราะฉะนั้นเราควรทดลองสูตรของสินค้าก่อนขายจริง เพื่อให้ทราบถึงปัญหาต่าง ๆ และทำให้การแก้ไขได้ทัน ดีกว่านำเอาไปจำหน่ายแล้วมีปัญหาตามมาให้แก้อย่างไม่หยุดหย่อน หากเป็นแบบนั้นก็จะส่งผลเสียต่อสินค้าหรือแบรนด์ได้ นอกจากนี้การทดลองสูตรควรทดลองจนเราอินไปกับสินค้าตัวนั้นจริง ๆ เพื่อที่เวลาตอบคำถามต่าง ๆ จากลูกค้า ก็จะสามารถตอบได้ราวกับเราเป็นตัวสินค้านั้นเอง

โฟกัสขวดบรรจุ

“แค่ขวดใส่สินค้าจะขวดอะไรที่ใส่ก็ได้” หากคิดแบบนี้รับรองได้เลยว่าสินค้าของเราอยู่ในตลาดไม่ได้ยาวแน่ ๆ ถึงแม้ในด้านอาหารเสริมจะไม่ค่อยได้ประสบกับปัญหาเรื่องขวดบรรจุเท่าไหร่นัก แต่ในด้านของเครื่องสำอางโดยเฉพาะ ครีม นั้นเกิดปัญหาได้อย่างไม่หยุดหย่อน ไม่ว่าจะเป็น ขวดปั๊มสวยมาก แต่หัวปั๊มไม่ออก, หลอดหักใน หรือแม้แต่กระปุกครีมข้างในเกิดการระเหย ซึ่งสั่งเหล่าอาจสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าและทำให้โอกาสในการเกิดซื้อซ้ำลดน้อยลง เพราะฉะนั้นควรตรวจสอบให้ดี เรื่องพวกนี้ก็สำคัญไม่แพ้ตัวเนื้อสินค้าเลย

Packaging

การที่เราจะขายสินค้าได้หรือไม่ได้นั้น Packaging มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นสิ่งที่ลูกค้าเห็นก่อนเป็นอันดับแรก ลูกค้าจะสนใจสินค้าหรือมองภาพลักษณ์ของแบรนด์อย่างไรก็ขึ้นอยู่กับ Packaging อย่างเดียว ดังนั้นควรออกแบบ Packaging ให้ตรงกับความชื่นชอบของกลุ่มเป้าหมาย โดดเด่น มีเอกลักษณ์ แต่อย่าลืมใส่ความแบรนด์ของเราลงไปด้วย เพื่อให้ลูกค้ามองเห็นสิ่งที่แบรนด์ต้องการสื่อสารให้กับลูกค้า

วิธีการจัดจำหน่าย

เราควรมองหาวิธีการจัดจำหน่ายให้ดี ไม่ว่าจะเป็นช่องทางไหนก็ตาม ทางออนไลน์จะขายทางไหน อย่างไร ทางออฟไลน์จะขายที่ไหน อย่างไร เรื่องนี้คิดให้รอบคอบ เพราะการมีช่องทางขายที่หลากหลายสามารถทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้ง่ายกว่าแบรนด์ที่มีช่องทางขายสินค้าน้อย

ศึกษาโมเดลธุรกิจ

สำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ ที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นธุรกิจอย่างไร ให้ลองศึกษาโมเดลของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จดู ให้ไปศึกษาข้อดีข้อเสียมากกว่า 1 ที่ เพื่อทำการค้นคว้า และปรับให้เหมาะสมกับแบรนด์ของเราให้มากที่สุด

วางโครงสร้างการคิดราคา

การวางโครงสร้างการคิดราคานั้น เราจะต้องรู้ก่อนว่าต้นทุนมีอะไรบ้างเช่น ต้นทุนการผลิต ต้นทุนขนส่ง ต้นทุนการบริหารจัดการ ต้นทุนขาย ต้นทุนทางการตลาด ดังนั้นควรตั้งราคาขายให้สมดุลกับราคาทุนทั้งหมด แต่ที่สำคัญการตั้งราคาสูง ๆ เพราะกลัวขาดทุนทีหลังอันนี้ก็ไม่ได้เหมือนกัน เพราะถ้าแพงแบบไร้เหตุผล ลูกค้าก็ไม่ซื้อเหมือนกัน

Online Marketing

Online Marketing เป็นเรื่องต้องรู้ และรู้ให้ลึก อย่าคิดว่ามันง่าย มันอาจจะง่ายเมื่อ 5 ปีก่อน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ว่าแบรนด์ไหน ๆ ก็ต่างทำ Online Marketing กันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Content การยิงแอดโฆษณาต่าง ๆ ดังนั้นควรศึกษาเอาไวช่วยให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักมากขึ้น

สรุป

การสร้างแบรนด์อาหารเสริมหรือเครื่องสำอางเป็นของตัวเองสักหนึ่งแบรนด์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มีเรื่องที่ต้องให้โฟกัสหลายจุด แต่ถ้าเราโฟกัสทุกจุดให้ออกมาได้นั้น ก็จะทำให้แบรนด์ของเรากลายเป็นแบรนด์ที่พร้อมสู่ในตลาดของธุรกิจ และสามารถโดดเด่นจนสามารถดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน ในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตครีม รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มา : www.terrabkk.com

adsidea.net

สร้างแบรนด์ของตัวเองแบบมืออาชีพ

สร้างแบรนด์ของตัวเองแบบมืออาชีพ

ในการเริ่มต้นทำธุรกิจอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริม เครื่องสำอาง ยาสมุนไพร ครีมหรือแม้แต่สบู่ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเริ่มต้นทำธุรกิจเหล่านั้นเป็นอันดับแรก ๆ คือ แบรนด์ (Brand) และการสร้างแบรนด์ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งทำให้เป็นข้อได้เปรียบในการทำธุรกิจ เนื่องจากความรู้สึกที่มีต่อสินค้า หรือบริการจากแบรนด์นั้น ๆ ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า หรือไปใช้ต่าง ๆ นั้น โดยส่วนใหญ่มาจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์และชื่อเสียงของบริษัทที่เป็นเจ้าของแบรนด์นั้นเป็นหลัก นั่นคือส่วนสำคัญส่วนหนึ่งตามความหมายของการสร้างแบรนด์

สร้างแบรนด์อาหารเสริม

การสร้างแบรนด์ นั้นไม่ใช่แค่การสร้างโลโก้ สร้างชื่อสินค้า หรือแพคเกจจิ้ง แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในส่วนของผู้ดำเนินธุรกิจจำเป็นต้องสร้างความรู้สึกที่ดี และความผูกพันระหว่าง แบรนด์ กับตัวผู้บริโภคให้ดีอีกด้วย ดังนั้นทาง Kovic จึงมีวิธีการสร้างแบรนด์แบบมืออาชีพให้สามารถดำรงอยู่ได้ในระยะยาวกัน

แบรนด์ (Brand) คืออะไร

การจะสร้างแบรนด์ เราต้องมารู้จักคำว่า “แบรนด์” กันก่อน ซึ่ง แบรนด์หรือตราสินค้า คือภาพลักษณ์และมุมมองความคิดที่ลูกค้ามีต่อบริษัท หรือสินค้าและผลิตภัณฑ์ แบรนด์เป็นความรู้สึกที่ถูกสื่อสารผ่าน ชื่อ คำศัพท์ การออกแบบ สัญลักษณ์ หรือประสบการณ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าสามารถจดจำและจำแนกบริษัท สินค้า หรือบุคคลออกจากคู่แข่งได้

วิธีสร้างแบรนด์ของตัวเองแบบมืออาชีพ

  • Build the Brand
  • Logo Design
  • Brand Awareness
  • Brand Royalty
  • Keep Relationship
  • New Line of Products

จุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์ (Build the Brand)

เมื่อคุณกำลังคิดที่จะเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง การสร้างแบรนด์นั้นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ และตัวคุณเองจำเป็นต้องรู้ว่าธุรกิจอะไรอยู่ ธุรกิจที่ต้องการเริ่มนั้นเกี่ยวกับอะไร แล้วเริ่มต้นธุรกิจนี้เพราะอะไร ทำไมถึงต้องการเริ่มต้นธุรกิจนี้ การหาจุดยืนของธุรกิจตัวเองเพื่อให้ผู้บริโภคหรือกลุ่มลูกค้า สามารถคาดหวังต่อสิ่งต่าง ๆ จากธุรกิจของเราได้ เพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจว่า จะได้ประโยชน์หรือความคุ้มครองจากเราอย่างไรบ้าง

ซึ่งจุดนี้ต้องแน่ใจว่าแบรนด์ของสินค้าเราสามารถทำได้จริง ๆ มิเช่นนั้น จะกลายเป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ส่งผลดีต่อธุรกิจของเราเท่าไหร่นัก เมื่อมีจุดยืน คุณยังจำเป็นต้องสร้างความเป็นตัวของตัวเองลงไปใน แบรนด์ สินค้าของคุณด้วย เช่น มีความซื่อสัตย์ในการให้ข้อมูล ที่ทำให้ลูกค้าเห็นอย่างสม่ำเสมอ ความสุภาพในการให้บริการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะก่อให้เกิดความผูกพัน และความรู้สึกที่ดีในระยะยาวต่อธุรกิจ ดังนั้นการสร้างแบรนด์จึงเป็นหัวใจสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจ ซึ่งหัวใจสำคัญของการสร้างแบรนด์ที่ดี ควรทำให้แบรนด์มีความน่าสนใจ มีจุดดึงดูด มีจุดเด่นและมีจุดยืนที่เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด

การสร้างโลโก้ (Logo Design)

ในการเริ่มต้นธุรกิจใด ๆ นั้น โลโก้ (Logo) เปรียบเสมือน การสร้างสัญลักษณ์เพื่อเป็นตัวแทนของสินค้า บริการ ธุรกิจ รวมถึงความรู้สึกด้วย ทั้งส่วนชื่อโลโก้ สัญลักษณ์ของโลโก้ หรือแม้แต่สีของโลโก้ สิ่งเหล่านี้มีความจำเป็นในการจดลิขสิทธิ์เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบ เทคนิคในการออกแบบโลโก้ คือควรกำหนดเป้าหมายไว้อย่างชัดเจนว่า เราต้องการให้ผู้บริโภคเห็นแล้วนึกถึงอะไรเป็นอันดับแรก ในส่วนของตัวสโลแกน หรือคำบรรยายติดปากสั้น ๆ ของแบรนด์นั้นมีไว้เพื่อทำให้ผู้บริโภคสามารถจดจำแบรนด์ของเราได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

การสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness)

ในการเริ่มต้นธุรกิจ การสร้างการรับรู้ของแบรนด์นั้น ไม่ใช่เพียงแค่การใช้เงินจำนวนมาก กับการลงโฆษณา การประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ผู้บริโภคทราบว่ามีแบรนด์ของเราอยู่เท่านั้น เพราะการทำให้คนรู้จักแบรนด์นั้น “ไม่ได้แปลว่าต้องมีคนซื้อเสมอไป”

การสร้างการรับรู้ หรือการทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักคือ การที่เราสามารถนำแบรนด์ไปทำให้เป็นที่รู้จักไม่ว่าจะเป็นรู้จัก ชื่อแบรนด์ คุณภาพของสินค้าที่เราสร้างขึ้น เพื่อให้เกิดความผูกพันกับแบรนด์ในระยะยาว การสร้างการรับรู้แบรนด์นั้น มีสิ่งที่เราต้องคิดถึงอยู่เสมอคือ จะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคนึกถึงแบรนด์ของเราเมื่อพูดถึงสินค้าในกลุ่มนี้

ความจงรักภักดีที่มีต่อแบรนด์ (Brand Royalty)

การจะทำให้การดำเนินธุรกิจของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ การสร้างความจงักภักดีต่อแบรนด์ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการสร้างแบรนด์ เนื่องจากการรักษาฐานลูกค้าเดิมพร้อมกับสร้างฐานลูกค้ารายใหม่นั้น ถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์

การที่ผู้บริโภคซื้อสินค้าเหตุผลหนึ่งคือผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในแบรนด์นั้น ๆ จนทำให้เกิดการเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์เดิมซ้ำ ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่แบรนด์จำเป็นต้องรักษามาตรฐานนี้ไว้ให้ดี อย่างไรก็ตามการทำให้ผู้บริโภคไม่หนีไปไหน ยังมีปัจจัยอื่น ๆ มา ร่วมด้วยไม่ว่าจะเป็น การบริการลูกค้าสัมพันธ์ที่ดี การตอบแทนสังคม โดยการนำกำไรที่ได้จากการทำธุรกิจไปจัดกิจกรรมเพื่อสาธารณะประโยชน์ ก่อให้เกิดความรู้สึกดีต่อแบรนด์เป็นต้น

ทำความเข้าใจลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ (Keep Relationship)

เป็นที่แน่นอนว่าในการเริ่มต้นทำธุรกิจนั้น ลูกค้า ถือเป็นส่วนสำคัญมาก ที่จะทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ ดังนั้นเพื่อทำให้กลุ่มลูกค้าอยู่กับแบรนด์ของเราไปนาน ๆ ไม่หนีหายไปไหน เจ้าของธุรกิจจึงจำเป็นที่จะต้องคอยพัฒนาตัวสินค้า และบริการของตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อที่คู่แข่งจะตามไม่ทัน

ซึ่งสามารถทำได้โดยการสังเกต สอบถาม วัดความรู้สึกของกลุ่มลูกค้าอยู่เนือง ๆ ไม่ใช่เพียงแค่ใช้เพียงความรู้สึกของเจ้าของธุรกิจเป็นเครื่องตัดสิน

การแตกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับแบรนด์ (New Line of Products)

เมื่อแบรนด์ของคุณเริ่มมีสินค้าใหม่ หรือบริการใหม่ ๆ ที่ต้องทำภายใต้แบรนด์สินค้าเดิมที่มีอยู่ ทำให้สินค้าหรือบริการนั้น ๆ ดูไม่แตกต่างจากสินค้าหรือบริการเดิมมากนัก หากเป็นเช่นนั้นอาจมีผลทำให้ลูกค้าเกิดความสับสนต่อแบรนด์

นอกจากการแตกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้แบรนด์มีความน่าสนใจมากขึ้นแล้ว การเปิดตลาดใหม่เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ ก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ เช่น การขยายแบรนด์ไปสู่ตลาดต่างประเทศโดยไม่ทิ้งฐานลูกค้าเก่าที่อยู่ในประเทศ ซึ่งวิธีนี้เป็นการสร้างแบรนด์สู่สากลอย่างเต็มรูปแบบ

สรุป

การสร้างแบรนด์สักแบรนด์หนึ่ง จำเป็นต้องใช้เวลาในการสร้าง ไม่ใช่ว่าสร้างขึ้นมาแล้วประสบความสำเร็จในทันที นอกเหนือจากการสร้างแบรนด์แล้ว การบริหารแบรนด์ให้มีชื่อเสียง มีคุณภาพ ก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากเช่นกัน ยิ่งหากเป็นองค์กรที่มีขนาดใหญ่แล้ว ยิ่งต้องดูแลรักษาคุณภาพของแบรนด์ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นต่อแบรนด์และไม่เปลี่ยนใจไปจากแบรนด์

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน ในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตครีม รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มา : www.toward-goal.com

thaiwinner.com

สร้างแบรนด์อาหารเสริม

ทำไมการมีแบรนด์นั้นถึงสำคัญต่อธุรกิจ

ทำไมการมีแบรนด์นั้นถึงสำคัญต่อธุรกิจ

การทำธุรกิจในยุคนี้ที่การเปลี่ยนแปลงต่าง  ๆ เข้ามามีบทบาทอย่างมากมาย ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน แถมเศรษฐกิจโลกที่มีการชะลอตัวและการค้าที่มีสินค้าจากเพื่อนบ้านหรือระแวกใกล้เคียงเข้ามา ทำให้การทำการตลาดโดยเฉพาะผู้ค้ารายย่อย ๆ นั้นเต็มไปด้วยอุปสรรคต่าง ๆ มากมายที่จะสามารถทำให้ธุรกิจตัวเองนั้นอยู่รอดและสร้างผลกำไรขึ้นมาได้ ดังนั้นการสร้างความแตกต่างหรือกลยุทธ์ทางการค้าที่จะทำให้ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายนั้นสนใจและเลือกสินค้าซื้อสินค้าจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก

สร้างแบรนด์อาหารเสริม

โดยในปัจจุบันสินค้าและบริการนั้นไม่ได้มีความแตกต่างกัน ทำให้การเลือกซื้อสินค้าหรือบริการสักอย่างของผู้บริโภคนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยเพียงไม่กี่ปัจจัยขึ้นมา ซึ่งหนึ่งในปัจจัยนั้นคือเรื่องการรู้จัก และการรู้จักนี้เองก็เป็นผลมาจากการมี Branding ทำให้การสร้างแบรนด์หรือมีตัวตนของแบรนด์ที่แน่ชัดสำหรับ นักการตลาดนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างมาก ไม่ว่าธุรกิจนักการตลาดนั้นจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ การมีแบรนด์นั้นสำคัญมากกว่าที่นักการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจคิดอย่างมาก วันนี้ทาง Kovic จึงจะพาไปทำความเข้าใจถึงความสำคัญของการมีแบรนด์ โดยมีดังต่อไปนี้

แบรนด์ช่วยในการเพิ่มความจดจำ

การจดจำนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับการทำการตลาดในปัจจุบัน เพราะด้วยการจดจำนี้จะช่วยทำให้ผู้บริโภคนั้นสามารถตัดสินใจเลือกสินค้าและบริการได้ว่าจะเลือกของเจ้าไหนที่อยู่ในตลาด เพราะถ้าสินค้าและบริการคุณไม่มีแบรนด์ แปลว่าสินค้าและบริการคุณนั้นไม่มีตัวตนหรือไม่ได้รู้จักในมุมมองของผู้บริโภคเลย

ถ้าคุณไม่ทำแบรนด์ไว้ คุณอาจจะได้แต่ไม่สามารถสร้างการซื้อซ้ำได้เลย เพราะคนจดจำคุณไม่ได้แล้ว ดังนั้นการสร้างแบรนด์ขึ้นจึงมีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะหากคุณเป็นแบรนด์เล็ก ๆ ที่ต้องแย่งชิงความสนใจจากธุรกิจใหญ่ ๆ การมีแบรนด์จะสร้างความสัมพันธ์ของคุณกับกลุ่มเป้าหมายขึ้นมาได้ทันที ทั้งนี้การทำแบรนด์จงมั่นใจว่าการสื่อสารของคุณนั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกันในทุก ๆ ช่องทางและมีการแสดงออกตามพฤติกรรมของแบรนด์คุณที่ควรจะเป็น

แบรนด์ช่วยในเรื่องดีไซน์

การทำแบรนด์นั้นเหมือนกับการสร้างอัตลักษณ์และนิสัยของแบรนด์ขึ้นมา และเมื่อคุณต้องทำโฆษณาในการโปรโมทแบรนด์คุณ ไม่ว่าจะทำเว็บไซต์ หรือทำนามบัตรแนะนำธุรกิจของคุณ การมีแบรนด์นั้นจะช่วยสร้างอัตลักษณ์ของตัวตนบริษัทคุณไปในทันที ซึ่งช่วยทำให้คนที่ออกแบบวัตถุดิบต่าง ๆ นั้นสามารถทำงานได้ง่ายอย่างมากเพราะสามารถออกแบบสิ่งต่าง ๆ ให้ไปในทิศทางและมุมมองเดียวกันได้อย่างอย่างง่ายดาย อย่างเช่น การออกแบบบรรจุภัณฑ์ แถมยังทำให้คนที่มาทำงานในอนาคตสามารถเข้าใจในตัวตนบริษัทแบะออกแบบตามแบรนด์ที่มีต่อมาได้ไม่ยาก สิ่งสำคัญสุดคือประหยัดเวลาในการดีไซน์และช่วยประหยัดงบประมาณในการทำงานดีไซน์ไปเยอะอย่างมากอีกด้วย

แบรนด์ช่วยสร้างมูลค่าบริษัท

มูลค่าของบริษัทนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับทรัพย์สินหรือรายได้ของบริษัทที่มีเท่านั้น แต่ชื่อของบริษัทนั้นก็สามารถนำมาสร้างมูลค่าต่าง ๆ ได้เช่นกัน ยิ่งแบรนด์คุณนั้นมีชื่อเสียงดังมากแค่ไหน หรือมีความต้องการสูงมากแค่ไหน ก็ยิ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มเติมได้อย่างมากมาย

ตัวอย่างเช่น Coca Cola มีมูลค่าแบรนด์อยู่ที่ 73.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือแบรนด์อื่น เช่นพวกแบรนด์เนม ที่มีมูลค่าชื่อเสียงแบรนด์ที่สูง แค่เอาโลโก้หรือชื่อแบรนด์ไปแปะกับอะไรก็สามารถขายได้อย่างทันที เช่น Supreme บนหนังสือพิมพ์ ด้วยการสร้างแบรนด์เช่นนี้ การที่คุณมีแบรนด์อยู่ การค่อย ๆ สะสมมูลค่าของแบรนด์คุณขึ้นไปย่อมมีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะถ้าคุณสามารถสร้างกลุ่มผู้ใช้สินค้าและบริการของคุณที่แน่นแฟ้นขึ้นมาได้ ย่อมทำให้แบรนด์คุณมีคุณค่าเพิ่มมากขึ้นไปอีก

ทำให้การตลาดง่ายขึ้น

แน่นการมีแบรนด์นั้นช่วยทำให้การทำการตลาดนั้นง่ายขึ้นอย่างมาก เพราแทนที่จะต้องมานั่งสร้างการอธิบายตัวตนของสินค้าและบริการต่าง ๆ ขึ้นมาว่าต่างจากคู่แข่งอย่างไร หรือทำไมกลุ่มเป้าหมายต้องหันมาใช้สินค้าและบริการของคุณ ทำให้คุณสามารถประหยัดเวลาในส่วนนี้มาสร้างการขายหรือสร้างมูลค่าที่โดนใจของผู้บริโภคได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องอธิบายมาก ปล่อยให้พลังของแบรนด์นั้นทำงานในการขายตัวเองไป ทำให้การตลาดนั้นสามารถโฟกัสได้ทันทีว่าต้องทำงานอะไรและอย่างไรเพื่อที่จะเพิ่มศักยภาพทางการตลาดขึ้นมาได้เพิ่มมากขึ้นไปอีก

ทำให้คนทำงานในทิศทางเดียวกัน

แน่นอนการมีแบรนด์นั้นจะทำให้ทุกคนในองค์กรมีความเข้าใจอันหนึ่งอันเดียวกันว่า องค์กรนั้นมีตัวตนและพฤติกรรมอย่างไร ทำให้เวลาทำงานหรือเวลาที่ต้องสื่อสารออกไปยังโลกภายนอกขององค์กรจะททำให้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีความสอดคล้องกัน จนทำให้สื่อสารมีพลังออกไปได้ ซึ่งถ้าคุณไม่มีแบรนด์มาครอบในการทำงานของคนในองค์กรแล้ว ทุกคนจะต่างคนต่างเข้าใจในตัวตนของบริษัทและทำให้เกิดการทำงานที่ไม่มีทิศทางหรือไม่มีหลักการให้ยึดว่าจะทำงานอย่างไรออกไป

สรุป

การมีแบรนด์นั้นมีส่วนสำคัญอย่างมากสำหรับสินค้า โดยเฉพาะสินค้าอย่างอาหารเสริม เครื่องสำอางหรือยาสมุนไพรร เพราะการมรแบรนด์นั้นจะทำให้ตัวสินค้ามีความน่าสนใจและดูน่าซื้อกว่าสิน้คาที่ไม่มีแบรนด์ และถ้าหากเป็นสินค้าที่มาจากแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในตลาด จะยิ่งทำให้สินค้าเป็นที่สนใจมากขึ้น

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน ในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตครีม รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มา : www.marketingoops.com

ตั้งชื่อแบรนด์ให้ส่งผลกับความสำเร็จ

ตั้งชื่อแบรนด์ให้ส่งผลกับความสำเร็จ

เพราะทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริม เครื่องสำอาง ครีม หรือสบู่ก็สามารถผลิตขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย เพียงเดินเข้าไปในโรงงานอาหารเสริมหรือโรงงานรับผลิตเครื่องสำอาง และบอกความต้องการในการผลิตสินค้า ก็ได้สินค้าออกมาขายกันแล้ว  จึงจะต้องพึ่งปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เข้ามาช่วยในขายสินค้า เพราะในตลาดปัจจุบันมอาหารเสริม เครื่องสำอาง สบู่วางขายอยู่อย่างแพร่หลาย ดังนั้นสินค้าของเราจะต้องโดดเด่นขึ้นมาเพื่อให้สินค้าขายได้

ซึ่งปัจจัยภายนอกนั้นก็มีได้หลายอย่างเช่น การเลือกสูตรที่แตกต่าง การออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้เตะตา และไม่ซ้ำใคร รวมไปถึงการตั้งชื่อแบรนด์ เพราะชื่อแบรนด์นั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยทำให้ลูกค้าจำสินค้าของเราได้แล้ว ยังสามารถบอกต่อชื่อแบรนด์แบบปากต่อปากได้ ดังนั้นในวันนี้เราจะแนะนำการตั้งชื่อบแรนด์ให้ประสบความสำเร็จ โดยมีดังต่อไปนี้

ตั้งชื่อแบรนด์ให้กว้างและเป็นกลาง รองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

ชื่อแบรนด์ที่ดีควรเป็นชื่อที่ใช้ได้นาน การตั้งชื่อแบรนด์ จึงควรเลือกใช้คำที่มีความหมายกว้าง ๆ ไม่เฉพาะเจาะจงจนเกินไป เผื่อว่าในอนาคตข้างหน้า คุณอยากเพิ่มชนิดสินค้าให้หลากหลายหรือขยับขยายธุรกิจขึ้นมา จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนชื่อแบรนด์ใหม่

ยกตัวอย่างง่าย ๆ ให้เห็นภาพ เช่น หากคุณอยากขายสินค้าสำหรับแมว จึงเลือกตั้งชื่อแบรนด์ว่า Happy Cat แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณอยากเพิ่มสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นเข้ามาด้วย ชื่อ Happy Cat อาจไม่ครอบคลุม และดูจำเพาะเจาะจงเกินไป ลูกค้าจะไม่สามารถรับรู้ได้ว่าคุณมีมีสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ๆ นอกจากแมวด้วย แต่หากคุณใช้ชื่อแบรนด์ว่า Happy Pets ชื่อนี้จะครอบคลุมสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงได้ทุกประเภท ทำให้คุณสามารถขยายธุรกิจและเพิ่มไลน์อัพสินค้าได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนชื่อแบรนด์ใหม่นั่นเอง

เรียบง่าย จดจำได้

การตั้งชื่อแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ ควรที่จะสะกดได้ง่าย จำจดง่าย ลองนึกดูว่าหากลูกค้าได้ง่ายชื่อแบรนด์ โดยที่ยังไม่เห็นชื่อแบรนด์จะสามารถเดาได้ว่าต้องสะกดแบบไหน เพราะถ้าหากเป็นคำที่สะกดยาก จะทำให้ลูกค้ายากต่อการค้นหาชื่อสินค้า เพราะไม่รู้สะกดหรือเขียนยังไงซึ่งอาจจะส่งผลให้เสีโอกาสในการขายสินค้าโดยไม่จำเป็น

ออกอ่านเสียงง่าย

การออกเสียงได้ง่านสำคัญไม่น้อยกว่าการสะกดคำแบบง่าย เพราะเชื่อมโยงกันการสะกดคำแบบง่ายก็จะช่วยให้ออกเสียงได้ง่าย และค้นหาง่าย ตัวอย่างเทคนิคตั้งของแบรนด์ใหญ่ระดับโลก “6 ตัวอักษร 3 พยางค์” ต้องไม่เกิน 6 ตัวอักษร และออกเสียงไม่เกิน 3 พยางค์ เพื่อให้กระชับ ออกเสียงง่าย จำง่าย ติดปากลูกค้า

โดดเด่นและแตกต่าง

ชื่อที่ดีควรมีความหมายเกี่ยวโยงกับสินค้าที่ทำ และการจะตั้งชื่อควรจะต้องดูคู่แข่งด้วย เพื่อสร้างความโดดเด่นและแตกต่าง เพราะถ้าชื่อคล้ายหรือเหมือนกันเกินไป ก็จะมีภาพลักษณ์เป็นแบรนด์เลียนแบบไปได้ และอาจลูกค้าบางท่านที่อาจแวะเวียนเข้ามาแต่ยังไม่ได้ซื้อสินค้าในทันที เพราะต้องกลับไปพิจารณาอีกครั้ง หลังจากที่ลูกค้าพร้อม ก็จะกลับมาสินค้าแบรนด์จดจำได้ดีกว่า ซึ่งแบรนด์ที่แตกต่างมักจะได้เปรียบมากกว่า

สามารถต่อยอดได้

การตั้งชื่อแบรนด์ จำเป็นต้องคำนึงถึงการเจริญเติบโตของธุรกิจในอนาคตด้วย ชื่อแบรนด์ที่ดีควรใช้ได้ยาวนาน ครอบคลุมถึงการขยายธุรกิจที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย  หรือผู้ประกอบการมีความตั้งใจจะขยายธุรกิจไปต่างประเทศ เพราะมีข้อดีคือ ไม่ต้องมาปรับหรือเปลี่ยนชื่อใหม่ ถึงแม้จะมีแบรนด์สินค้าใหม่ผลิตขึ้นมา ยังไงคนก็จะจดจำแบรนด์เดิมไว้ได้เพราะเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว

สโลแกนสินค้าที่ดี ก็สำคัญไม่แพ้กับการ ตั้งชื่อแบรนด์

สโลแกนสินค้า จะปรากฏอยู่บนฉลาก บรรจุภัณฑ์ เว็บไซต์ ทั้งยังสามารถนำไปใช้ในการเขียนโฆษณาได้ สโลแกนที่ดีจะช่วยส่งเสริมให้ชื่อแบรนด์น่าจดจำมากยิ่งขึ้น สโลแกนต้องบอกได้ว่าธุรกิจของเราเกี่ยวข้องกับอะไร ข้อดีของสินค้าหรือบริการคืออะไร

ควรเป็นคำสั้น ๆ กระชับ แต่สามารถสื่อถึงความหมายได้ ที่สำคัญต้องโดดเด่นไม่ซ้ำใคร และควรเป็นสโลแกนเชิงบวกเพื่อสร้างความรู้สึกดี ๆ ให้กับผู้ฟัง ตัวอย่างสโลแกนสินค้าที่ถือว่าประสบความสำเร็จ ที่ทำให้ผู้คนสามารถจดจำชื่อแบรนด์กับสโลแกนไปพร้อม ๆ กันได้ เช่น

  • โก๋แก่ มันทุกเม็ด
  • ยาหม่องตราถ้วยทอง มิตรคู่เรื่อน เพื่อนคู่ตัว
  • ทุกหยดซ่า โซดาสิงห์
  • ธนาคารกสิกรไทย บริการทุกระดับ ประทับใจ
  • การบินไทย รักคุณเท่าฟ้า

ชื่อแบรนด์แบบไหนที่ใคร ๆ ก็ต้องส่ายหน้า

นอกจากการตั้งชื่อแบรนด์ให้ให้ส่งผลกับความสำเร็จแล้ว ก็จะมีการตั้งชื่อแบรนด์บางที่ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน

  • ชื่อแบรนด์ที่สะกดแปลก ๆ อาจจะดูเท่ ไม่ซ้ำใคร แต่ก็จดจำยากเช่นดียวกัน
  • ชื่อแบรนด์เลียนแบบหรือใกล้เคียงกับชื่อของคู่แข่ง
  • ชื่อแบรนด์ที่เห็นแล้วเดาไม่ออกว่าสินค้าหรือบริการนั้นคืออะไร
  • ชื่อแบรนด์ที่ออกเสียงยาก หรือสามารถอ่านได้หลายแบบ ทำให้สับสน
  • ชื่อแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางศาสนา หรือเกี่ยวข้องกับค่านิยมเฉพาะกลุ่ม

สรุป

แม้การเริ่มต้นดีจะช่วยให้ธุรกิจของเรามีชัยไปกว่าครึ่งก็จริง แต่อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญและจะพาให้แบรนด์ของเราประสบความสำเร็จคือ เราจะต้องไม่หยุดพัฒนาแบรนด์ของเรา ใส่ความมุ่งมั่นและตั้งใจลงไปในการบริการ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสินค้า เพียงเท่านั้นก็จะทำให้ธุรกิจของเราเติบโตได้อย่างยั่งยืน

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มาข้อมูล

www.homchanosot.com

www.officemate.co.th

5 เทคนิคเลือกบรรจุภัณฑ์ให้ได้เปรียบคู่แข่ง

5 เทคนิคเลือกบรรจุภัณฑ์ให้ได้เปรียบคู่แข่ง

ไม่ว่าจะแวดวงไหนหรือธุรกิจไหนก็จะต้องมีการแข่งขันในทุกที่ ไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่ง โดยเฉพาะธุรกิจอาหารเสริมที่กำลังเป็นที่นิยมในลาดอยู่ตลอดนี้ การแข่งขันจะต้องคอยจับตาดูทุกฝีก้าว เพราะมีคู่แข่งรายใหม่โผล่ขึ้นมาตลอดเวลา เฉพาะฉะนั้นการได้เปรียบคู่แข่งจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่จะทำให้สินค้าของเราสามารถขายได้มากขึ้น ซึ่งหนึ่งในวิธีที่จะทำให้ได้เปรียบคู่แข่งก็คือ การเลือกบรรจุภัณฑ์ โดยวันนี้เราก็มีเทคนิคการเลือกบรรจุภัณฑ์เพื่อให้ได้เปรียบคู่แข่งกัน โดยมีดังนี้

Safer

บรรจุภัณฑ์ควรมีความปลอดภัย เป็นหัวใจสำคัญเลยที่ต้องคำนึงถึง ซึ่งปลอดภัยในที่นี้เช่นการเลือกพลาสติกชนิดที่เหมาะสำหรับสินค้านั้น ๆ ต้องมีการทดสอบบรรจุภัณฑ์ร่วมกับเนื้อสินค้า ทดสอบสภาวะต่าง ๆ ที่สินค้าต้องเจอระหว่างการเดินทางเพื่อจะป้องกันปัญหา อาจต้องคำนึงถึงความปลอดภัยต่อเด็กที่เผื่อมาจับเล่น หรือตัวบรรจุภัณฑ์มีความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม

Smarter

บรรจุภัณฑ์ต้องมีความฉลาด หมายความว่าการจะเลือกบรรจุภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นกระปุก ขวด กล่อง อะไรเหล่านี้ต้องสามารถทำงานได้เหมาะสมกับสินค้าแบบถ้าผู้ใช้ได้ลองใช้แล้วรู้สึกอะเมซิ่ง เช่นครีมผสมวิตามินซีที่บรรจุในแพกเกจแก้วสีชาแบบ Airless ทำให้เนื้อเปลี่ยนสีระหว่างใช้ หรือขวดคลีนซิ่งที่เมื่อเปิดใช้แล้ว สามารถพกไปที่ต่าง ๆ ได้ไม่หกเลอะระหว่างเดินทาง

Simpler

บรรจุภัณฑ์ควรเรียบง่ายอย่างที่ควรจะเป็น ข้อนี้ไม่ได้หมายความว่าให้ออกแบบคลีน ๆ โล้น ๆ ดูไม่มีอะไร แต่หมายถึงบางครั้งสำหรับการเลือกบรรจุภัณฑ์บางอย่างก็ไม่ต้องใส่เทคโนโลยีอะไรเข้าไปเยอะถ้ามันไม่ได้จำเป็นต่อตัวสินค้า

Save Money

บรรจุภัณฑ์ต้องช่วยเซฟเงินให้ธุรกิจ ยกตัวอย่างเคสที่หลายคนลืมคิดไปก็คือการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ทำให้การขนส่งสะดวก จัดวางในตู้ขนทีนึงได้ปริมาณเยอะคุ้มเงิน เพราะนึกภาพว่าเราออกแบบกล่องมาแบบวิจิตรพิศดาลมาก สวยปัง แต่ตอนขนส่งจากปกติลังนึงบรรจุได้ 100 กล่อง ส่ง 1 รอบหมด กลายเป็นลังนึงบรรจุได้ 20 กล่องต้องส่ง 2 – 3 รอบอย่างนี้ต้องคิดว่าผลตอบแทนกับต้นทุนจะคุ้มไหม

Make Money

บรรจุภัณฑ์หาเงินได้ เมื่อเราเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ไม่ว่าจะกี่ชั้นก็ตาม ต้องมั่นใจในสิ่งที่เลือกว่าลูกค้าเห็นแล้วคันไม่คันมือ อยากจะควักเงินขึ้นมาจ่ายรัว ๆ แม้ยังไม่ได้สัมผัสสินค้าข้างใน นั่นก็คือบรรจุภัณฑ์ต้องสื่อและขายได้ด้วยตัวเอง

ถึงแม้ว่าการเลือกบรรจุภัณฑ์จะเป็นหนึ่งในวิธีที่ทำให้ได้เปรียบคู่แข่ง แต่ความเป็นจริงแล้วอาหารเสริมที่มีคุณภาพ ปลอดภัยนั้นจะสามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้จริง ๆ ถึงบรรจุภัณฑ์จะสวยจริง ดึงดูดจริง แต่สินค้าไม่ได้คุณภาพ ลูกค้าก็จะมาซื้อได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น โดยอาหารเสริมที่มีคุณภาพนั้นก็จะมาจากโรงงานที่รับผลิตอาหารเสริมที่มีคุณภาพ ได้รับมาตรฐานรับรอง

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://kovic.co.th/

โรงงานรับผลิตสบู่แบบไหนที่ไม่ควรใช้บริการ

โรงงานรับผลิตสบู่แบบไหนที่ไม่ควรใช้บริการ

ในโลกแห่งธุรกิจด้านความสวยความงาม นอกจากธุรกิจอาหารเสริมและเครื่องสำอางจะแข่งขันกันอย่างดุเดือดแล้ว ยังมีอีกธุรกิจหนึ่งที่แข่งขันตาม ๆ กันมา นั่นก็คือ ธุรกิจสบู่ เพราะในปัจจุบันสบู่ไม่ได้แค่ช่วยทำความสะอาดร่างกายอีกต่อไป เพราะสบู่ในปัจจุบันสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอย ลดสิว ช่วยให้ผิวขาว กระจ่างใสขึ้น นอกจากนี้ยังมีสบู่สำหรับผิวหน้าโดยเฉพาะอีกด้วย ทำให้โดยสบู่มาเป็นที่นิยมไม่แพ้อาหารเสริมหรือเครื่องสำอางสำหรับดูแลผิวพรรณ ส่งผลให้มีผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของแบรนด์สบู่มากขึ้น เนื่องจากไม่อยากขายอาหารเสริม หรือคิดว่าสบู่น่าจะสามารถขายได้ดีกว่า

โดยในการเลือกโรงงานรับผลิตสบู่ เพื่อทำการผลิตสบู่เป็นปัจจัยเริ่มต้นที่บ่งบอกว่าการทำแบรนด์สบู่ของคุณนั้นมีการผลิตที่ดีมีคุณภาพหรือไม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อการผลิตสบู่ที่น่าเชื้อทั้งในแง่ของภาพลักษณ์ของสบู่ และในแง่ของผลลัพธ์จาการใช้งานจริงของลูกค้า ส่งผลถึงยอดขาย กำไรที่จะตามมาของผลิตภัณฑ์ เมื่อการเลือกโรงงานรับผลิตสบู่เป็นปัจจัยที่สำคัญ ดังนั้นในการพิจารณาเลือกใช้บริการโรงงงานรับผลิตสบู่ จึงเป็นสิ่งที่ควรใส่ใจเป็นอย่างมาก ซึ่งสิ่งที่เราจะกว่าถึงต่อจากนี้คือ ลักษณะของโรงงานรับผลิตที่ไม่ควรใช้บริการ และควรหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุด ซึ่งมีดังต่อไปนี้

โรงงานรับผลิตสบู่ที่ไม่ได้รับการรับรอง

การเลือกใช้บริการโรงงานที่ไม่มีอะไรรับรองเลย จะเป็นการเลี่ยงที่จะเจอโรงงานรับผลิตสบู่ที่ไม่ได้มาตรฐาน ยิ่งราคาถูก ไม่มีอะไรรับประกัน ขึ้นตอนการผลิตสบู่อาจจะทำแบบไม่ใส่ใจ ซึ่งก็อาจจะส่งเสียและเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเกิดปัญหาถึงการจำหน่ายสบู่ในระยะยาวได้ด้วย

โรงงานรับผลิตสบู่ที่ไม่มีบริการหลังการขาย

การสั่งผลิตสบู่ หากเลือกโรงงานที่ไม่ใส่ใจในเรื่องของการบริการหลังการขายเลย ก็จะทำให้สูญเสียโอกาสอีกมากมาย ไม่ว่าจะต้องเสียเงินเพิ่มกรณีที่สบู่เกิดการใช้จากลูกค้า สูญเสียค่าใช้จ่ายจากการต้องวิ่งไปมาเพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหาอะไรต่างๆ ด้วยตัวเอง ทุกอย่างเป็นทุนที่เสียไปหมด

ดังนั้นการเลือกโรงงานรับผลิตสบู่ที่มีบริหารหลังการขายจะดีกว่า ถึงแม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่ในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าอย่างแน่นอน

โรงงานรับผลิตสบู่ที่ไม่มีที่ตั้งแน่นอน

ถ้าหากเป็นประเภทที่รับจ็อบแบบครั้งคราว ควรที่จะรีบหลีกเลี่ยงในการใช้บริการ เพราะว่าการเลือกโรงงานที่ไม่มีที่ตั้งแน่นอนจะติดตามงานยาก มีปัญหาอะไร เมื่อโทรศัพท์ไปก็อาจจะไม่รับและติดต่อไม่ได้ และอาจจะต้องมานั่งปวดหัวเองทีหลังอีก

โรงงานรับผลิตสบู่ที่มีประวัติแย่

ควรดูรีวิวของลูกค้าที่เคยใช้บริการของแต่ละโรงงานก่อน เพราะ รีวิวประวัติการใช้บริการจากหลายๆ คนหลาย ๆ ที่ จะเป็นตัวบ่งบอกถึงคุณภาพการให้บริการทั้งในแง่การผลิตสบู่และในแง่อื่นๆ ของโรงงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งโรงงานรับผลิตสบู่ที่มีประวัติดีก็มีมากมายให้เลือก และอย่าเผลอไปเลือกใช้บริการโรงงานที่มีประวัติแย่ ๆ ถึงแม้จะมีราคาที่ถูกกว่าก็ตาม

ลักษณะโรงงานรับผลิตสบู่ที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างที่กล่าวไปแล้วนั้น ก็ควรลองนำเอาไปพิจารณาว่าโรงงานรับผลิตสบู่ที่คุณกำลังจะเลือกนั้นเข้าข่ายหรือเปล่า ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นเป็นสิ่งที่สำคัญ คือปัจจัยสำคัญทั้งการรับรองของโรงงาน การให้บริการหลังการขายและประวัติการมีชื่อเสียงของโรงงาน จะเป็นตัวช่วยในการคัดกรองโรงงานที่ดีมีคุณภาพให้กับคุณเป็นอย่างดี

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูล : https://kovic.co.th/

เทคนิคการตั้งชื่อแบรนด์ให้ปัง

เทคนิคการตั้งชื่อแบรนด์ให้ปัง

การมีแบรนด์อาหารเสริม แบรนด์เครื่องสำอาง แบรนด์ครีมที่มีเอกลักษณ์ สามารถจดจำได้ง่าย เป็นที่รู้จักนั้น ก็สำคัญไม่น้อยกว่าคุณภาพของตัวสินค้า เพราะถ้าหากตัวสินค้ามีคุณภาพ แต่ไม่มีความโดดเด่นให้น่าจดจำเลย ก็ไม่สามารถสร้างรายได้ให้กับเจ้าของแบรนด์ได้ ดังนั้นการสร้างภาพลักษณ์ให้กับสินค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์ โลโก้ หรือแม้แต่ชื่อสินค้า แต่ยอมรับการว่าผู้บริโภคมักจะมองชื่อสินค้าเป็นอันดับแรก ๆ ถ้าหากเจ้าของแบรนด์ตั้งชื่อสินค้าให้เป็นที่สนใจได้ก็จะสามารถสร้างการจดจำในตัวสินค้า โดยในวันนี้ทางโควิกได้มีเทคนิคการตั้งชื่อแบรนด์ให้ปังมาฝากกัน โดยมีดังต่อไปนี้

ยึดกฎสากล 6 ตัวอักษร 3 พยางค์

เป็นกฎในต่างประเทศที่ไว้ตั้งชื่อภาษาอังกฤษ ซึ่งจะต้องไม่เกิน 6 ตัวอักษรและออกเสียงไม่เกิน 3 พยางค์ จุดประสงค์เพื่อให้ชื่อกระชับ ออกเสียงง่าย จำง่าย ต้องติดปากคนทั่วไป อย่างเช่นแบรนด์ดัง ๆ อย่าง Nike, Dior ส่วนชื่อที่เป็นภาษาไทยก็ควรจะคำนึงถึงความกระชับ เช่น Xerox, มาม่าหรือแฟ้บ ก็สามารถติดปากจนเป็นชื่อเรียกแทนผลิตภัณฑ์ได้เลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อมีแบรนด์เกิดขึ้นมามากมาย ทำให้การทำสิ่งที่แตกต่างเป็นสิ่งที่ทำให้เราโดดเด่น อย่างเช่น โชกุบุสสึ โมโนกาตาริ ดังนั้นเราอาจจะไม่ต้องซีเรียสกับจำนวนตัวอักษรและพยางค์มากนัก แต่คำนึงถึงความเหมาะสมดีกว่า

เรียบง่ายเข้าไว้

การตั้งชื่อแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ เราควรจะตั้งชื่อที่ง่าย ๆ สามารถเข้าถึงได้ง่าย จดจำได้ง่ายเช่นจะขายครีมผิวขาว อาจจะตั้งชื่อว่า White Shadow ซึ่งจะง่ายกว่าชื่อแบบ International Beauty Cream by ABC หรือการตั้งชื่อแบรนด์ครีมกันแดด ควรตั้งชื่อแบรนด์ ให้สื่อความหมายของครีมกันแดด หรือกระทั่ง KFC ก็เป็นการย่อชื่อจากชื่อเก่า Kentucky Fried Chicken การตั้งชื่อที่สะกดยาก ออกเสียงยากนั้นควรหลีกเลี่ยงเพราะจะทำให้แบรนด์ไม่น่าจดจำ

แตกต่างเด่นกว่า

ชื่อดีในการตั้งชื่อแบรนด์นั้นมีมากมาย แต่การจะตั้งชื่อจะต้องดูคู่แข่งด้วยเพื่อความโดดเด่นและแตกต่าง ซึ่งถ้าหากชื่อเหมือนกันเกินไปก็อาจจะถูกเปรียบเทียบ หรือโดนกล่าวหาว่าเป็นแบรนด์ล้อเลียนได้ แม้เราจะเถียงว่าไม่ได้เลียนแบบ ก็คงมีส่วนน้อยที่เชื่อ หรือการใช้ชื่อที่มันดูโหล ๆ ที่คนส่วนใหญ่ใช้กันอย่างเช่น ครีมของเอ ครีมน้องบี จะทำให้เกิดความสับสนว่าสนค้าไหนเป็นของเรากันแน่และจะทำให้ผู้บริโภคจำแบรนด์ของเราไม่ได้ในที่สุด

เลือกแนวทางตั้งชื่อ

โดยแนวทางตั้งชื่อนั้นสามารถแยกออกได้หลายวิธีดังนี้

  • ตั้งชื่อโดยบรรยายธุรกิจของเรา เช่น Microsoft, Miss lily, Master Card
  • ไม่เกี่ยวกับเราเลย แต่ปลุกเร้าได้สื่อความหมายได้ เช่น Big C
  • ชื่อที่ไม่มีความหมายแต่จำได้ง่าย เช่น Google
  • เอาวิธีข้างต้นมาผสมกันและอาจจะเล่นคำลงไปเช่น salz

ชื่อที่มีลักษณะเป็น Platform เพื่อต่อยอดสินค้าและบริการ

หมายถึงการตั้งชื่อกลาง ๆ เพื่อเป็นชื่อแบรนด์หลักที่สามารถเติมชื่อพ่วงท้าย กลายเป็นแบรนด์ย่อย ๆ ของสินค้าใหม่ได้ อย่างเช่น Sony ก็แตกเป็น Sony Music, Sony Computer Entertainment ซึ่งการตั้งชื่อแบบนี้มีข้อดีคือ เราจะประหยัดทั้งงบ ทั้งเวลา เพราะแม้ว่าเราจะมีแบรนด์สินค้าตัวใหม่ขึ้นมายังไงคนก็จดจำแบรนด์ใหญ่ของเราได้อยู่แล้ว

ชื่อสินค้านั้นมีความสำคัญก็จริง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือคุณภาพของสินค้า เพราะคุณภาพของสินค้าจะช่วยส่งผลถึงชื่อเสียงของแบรนด์โดยตรง สามารถทำให้ผู้บริโภคสามารถจดจำแบรนด์ได้อีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งถ้าหากสินค้าของแบรนด์ไม่ได้คุณภาพก็จะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของแบรนด์เช่นกัน ถึงแม้ว่าจะตั้งชื่อมาเพราะและน่าจดจำแค่นั้นถ้ายังไงเรื่องคุณภาพก็ต้องมาก่อนเสมอ

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มา : https://www.premacare.co.th/